TRV เปิดการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างอบอุ่น พร้อมเดินหน้าดำเนินงานตามแผนการ คาดปี 2564 เป็นปีที่ประสบความสำเร็จทั้งรายได้และกำไร มองแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าฟื้น หนุนปลายปีออเดอร์พุ่ง คาดปี 2565 เงินระดมทุนใช้ขยายกำลังการผลิต จะเป็นตัวแปรสำคัญสนับสนุนภาพรวมการเติบโตในอนาคตได้อย่างมีนัยสำคัญ 

 

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น TRV ในการเข้าเทรดวันแรก ราคาเปิดเทรดวันแรกอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหุ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.42 บาท หรือ 105.22% จากราคาจองซื้อ (IPO) อยู่ที่ 2.30 บาทต่อหุ้น จากนั้นราคาปรับขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 5.35 บาท ส่วนราคาปิดตลาดอยู่ที่ 4.20 บาท มูลค่าการซื้อขายกว่า 2,109 ล้านบาท ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน หุ้นชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่มีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต

 

นายธีรวุฒิ นวมงคลชัยกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ที.อาร์.วี. รับเบอร์ โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TRV เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ทำให้การเปิดการซื้อขายหุ้น TRV วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)  ได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่น และนับเป็นก้าวแรกสำคัญซึ่งช่วยผลักดันและสนับสนุนให้บริษัทมีความแข็งแกร่ง โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ จะใช้สนับสนุนแผนการเติบโตของ TRV ในอีก 3-5 ปีจากนี้ ในฐานะหนึ่งในผู้นำชิ้นส่วนยางขึ้นรูปที่ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าและพันธมิตร ผลักดันผลการดำเนินงานให้เติบโตได้อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับภาพรวมผลิตภัณฑ์ของบริษัท ประกอบด้วย ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในกลุ่มยานยนต์มีสัดส่วน 52.46% ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง ขณะที่ชิ้นส่วนยางขึ้นรูปในเครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 46.49% และชิ้นส่วนยางขึ้นรูปอื่นๆ 1.05% ของรายได้จากการขายในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 โดย TRV มีรายได้รวม 134.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.34 % กำไรสุทธิ 22.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.80% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับ 40.19% อัตรากำไรสุทธิ 16.53% เนื่องจากสัดส่วนรายได้จากการขายในกลุ่มยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น และยังคงมีทิศทางที่ดีต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 4 นี้

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ส่งผลกระทบในหลากหลายอุตสาหกรรม แต่ TRV มีการกระจายพอร์ตที่หลากหลาย ทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่งผลให้ภาพรวมผลประกอบการยังรักษาความสามารถทำกำไรได้เป็นอย่างดี  และ TRV พร้อมรับเทรนด์การเติบโตในอนาคต ทั้งในกลุ่มยานยนต์ EV และสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี IoT สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว

“บริษัทขอบคุณในความไว้วางใจของผู้ถือหุ้น และนักลงทุนทุกท่านที่ให้การตอบรับหุ้น TRV ในฐานะผู้บริหาร จะเดินหน้าสร้างการเติบโตให้ธุรกิจอย่างสุดความสามารถ เพื่อสะท้อนความเชื่อมั่นไปยังผู้ถือหุ้นของบริษัท” นายธีรวุฒิ กล่าว

***************************************

- Advertisement -