สรุปภาวะตลาด

วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีแกว่งตัวผันผวนในแดนลบ แต่สามารถพลิกปิดบวกราว 1 จุดในช่วงปิดตลาด ปัจจัยที่กดดันตลาดยังคงมาจากโควิด-19 สายพันธุ์ โอไมครอน นักลงทุนจับตาการรายงานตัวเลขข้อมูลแรงงานของสหรัฐ โดยหุ้นส่วนใหญ่ยังปรับตัวบวกสลับลบ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน ส่วนหุ้นขนาด กลาง-เล็ก ปรับตัวได้ดีกว่าตลาด อย่าง APCO +19.09%, ECL +17.09%, MIDA +15.09% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,591.84 จุด +1.03 จุด +0.06% มูลค่าการซื้อขาย 67,069 ลบ. ต่างชาติ -1,475.86 ลบ. TFEX +8,440 สัญญา ตราสารหน้ี +4,293.33 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด +617.75 จุด +1.82% นลท.ช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากดาวโจนส์ร่วงหนักติดกัน 2 วันทำการ และหุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้นกว่า 7% หลังจีนอนุมัติขึ้นบินของเครื่องบินโบอิ้งรุ่น 737 MAX

+สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิด +93 เซนต์ +1.4% ปิดที่ 66.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังที่ประชุมกลุ่มโอเปกพลัสคงมติข้อตกลงปัจจุบันเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนม.ค. 2565 แม้ถูกสหรัฐกดดันให้เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าระดับดังกล่าว

+สถิติชี้หุ้นวอลล์สตรีทพุ่งแรงสุดในเดือนธ.ค. ดัชนีดาวโจนส์สามารถปิดตลาดในแดนบวกถึง 78% นับตั้งแต่ปี 2471

+WHO เตรียมส่งเจ้าหน้าท่ีไปแอฟริกาใต้ช่วยสกัดโอไมครอน

+สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มข้ึน 28,000 ราย สู่ระดับ 222,000 ราย แต่ต่ำกว่าที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย

+ คลังยันพร้อมเต็มสูบรับมือ “โอไมครอน” แจงมีงบประมาณฯรออีก 1 ล้านล้านบาทอัดฉีดเข้าระบบเศรษฐกิจ

ปัจจัยลบ

– ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงมากกว่า 1% เนื่องจากหลายประเทศ เพิ่มข้อจำกัดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ซึ่งเพิ่มความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจที่เพิ่งเริ่มฟื้นตัว

-ผู้เชี่ยวชาญคาด “โอไมครอน” อาจระบาดใหญ่ทั่วโลกใน 3-6 เดือนข้างหน้า และยังมีความกังวลเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนท่ีมีอยู่ในปัจจุบัน

-นางเจเน็ต เยลเลน รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่าไวรัสโอไมครอนแสดงให้เห็นว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด- 19 อาจดำเนินต่อไป สหรัฐกลับมาคุมเข้มข้อจำกัดด้านการเดินทาง ขณะที่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุโอไมครอนรายท่ี 2

-อินเดียพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนครั้งแรกในประเทศ 2 ราย

+/-ศบค.พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 4,912 ราย ATK 1,646 ราย เสียชีวิต 33 ราย รักษาหาย 5,844 ราย

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยนักลงทุนยังติดตามสถานการณ์โควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน อย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุดมีการตรวจพบผู้ติดเขื้อในอินเดียวแล้ว 2 ราย ขณะท่ีราคาน้ำมันดิบ WTI ได้แรงหนุนจาก โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน 400,000 บาร์เรล/วันในเดือนม.ค. 2565 แม้ถูกกดดันจากสหรัฐที่ต้องการให้โอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่านี้ มองกรอบดัชนีในวันน้ีท่ี 1,580-1,600 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นท่ีได้ประโยชน์จากสถานการณ์โควิด-19 STGT STA BCH EKH SMD WINMED TM PHOL
  • หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50: หุ้นเข้า BANPU KEX TIDLOR หุ้นออก BJC DELTA STA , SET100 : หุ้นเข้า BLA BPP EPG RCL SIRI STARK TTA หุ้นออก AAV ICHI JAS NRF PRM PSL TKN
หุ้นรายงานพิเศษ

HL (IPO 9.30 บาท ราคาเหมาะสม 13.50 บาท) Mai / Service

*บล.โกลเบล็กเป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในฐานะผู้จัดจำหน่าย

  • ประกอบธุรกิจลงทุนในบริษัทอื่น ได้แก่ 1) บจ. ไอแคร์ เฮลท์ ประกอบธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ “iCare” “Pharmax” “vitaminclub” และ “Super Drug” มี 25สาขา และ 2) บจ. เฮลทิเนส ประกอบธุรกิจคิดค้น ว่าจ้างผู้ผลิต เพื่อจัดจาหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ “PRIME” และ “Besuto” กำไรสุทธิปี 2561-2563 อยู่ที่ 0.4-52 ลบ. คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 3 ปีที่ 1,040% ต่อปี 9M64 มีกำไรสุทธิ 57.53 ล้านบาท +49%YoY อัตรากำไรสุทธิ 6.3% ปรับดีขึ้นจาก 4.82% ในปี 63 จากการบริหารต้นทุนการรวมธุรกิจ และรายได้จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ เพื่อสุขภาพที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง
  • โอกาสในการขยายธุรกิจมาจากร้านขายยาแบบดั้งเดิมที่ไม่มีเภสัชกรประจำร้านมีโอกาสปิดตัว เนื่องจากอ.ย. ยกร่างกฎหมาย GPP ซึ่งเข้มงวดเรื่องการปฏิบัติงานของเภสัชกรในร้านขายยา
  • คาดการณ์กำไรสุทธิเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ปี 2563-2565 ที่ 26% ต่อปี โดยได้แรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายในสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) และการเปิดสาขาใหม่ 3 สาขา และ 4-5 สาขาในปี 64 และ 65 ตามลำดับ
  • การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนในการขยายและปรับปรุงสาขา และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
  • ราคา IPO คิดเป็น Fully diluted P/E Ratio 37.6x (SMD 10.4x, TM 30.7x, IP 78x, WINMED 49.2x) ที่มา : Setsmart

หุ้นมีข่าว

(+) NER (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) เดินหน้าเจรจาลูกค้าอินเดีย 3 ราย คาดสรุปในช่วง ไตรมาส 2/2565 มองราคายางปีหน้าอยู่ในระดับสูงที่ 65-67 บาทต่อกิโลกรัม มีลุ้นเกิน 70 บาทต่อกิโลกรัม มองดีมานด์จากอุตสาหกรรมยานยนต์เพิ่มขึ้น ตลาดอีวีหนุน “ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ปักธงยอดขายปีหน้าแตะ 5 แสนตัน  รายได้เพิ่มเป็น 2.8 หมื่นล้านบาท จ่อบุ๊กรายได้จากแผ่นยางปูพื้นประมาณ 500 ล้านบาท พร้อมวางงบลงทุน 240 ล้านบาท ลุยโซลาร์รูฟ-วิจัยผลิตภัณฑ์ปลายน้ำ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WINMED (Bloomberg Consensus – บาท) พร้อมสู้โควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ ขยายบริการ- สินค้ากลุ่มตรวจคัดกรองโควิด-19 ครบวงจร ให้บริการห้องปฏิบัติการตรวจยืนยันเชื้อโควิด-19 ด้วย ระบบ RT-PCR และ TMA พร้อมจำหน่ายชุดตรวจแบบเร่งด่วน (ATK) สำหรับตรวจด้วยตนเองทางโพรงจมูกและน้ำลาย ที่สามารถตรวจคัดกรองเชื้อโควิดทุกสายพันธ์ุ (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) MAKRO (Bloomberg Consensus 50.00 บาท) สิ้นสุดการรอคอย! ทุบโต๊ะราคาพีโอ 43.50 บาท กำหนดเปิดให้ผู้ถือหุ้นเดิม-รายย่อยทั่วไปจองซื้อจำนวน 1,300 ล้านหุ้น วันที่ 4-9 ธ.ค.นี้ หลังเสนอขายหุ้น PO แล้วเสร็จ สัดส่วนผู้ถือหุ้นรายย่อยขยับเกินกว่า 15% ตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ ฯ ล่าสุดนักลงทุนสถาบันชั้นนา 14 ราย ร่วมลงนามสัญญาเข้าลงทุนแล้ว 423 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 18,000 ล้านบาท (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

(+) WHAUP (Bloomberg Consensus 5.00 บาท) ร่วมกับ “คอนติเนนทอล ไทร์สฯ” เปิดตัวโครงการ Solar PV ECO System ในโรงงานขนาด 4.2 MW อย่างเป็นทางการ ด้าน “นิพนธ์” สั่งเดินหน้าขยายโครงการ Solar Rooftop ทั้งใน-นอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ หนุนเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นปีน้ีแตะระดับ 670 MW (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 3 ธ.ค.กระทรวงพาณิย์แถลงสถานการณ์ด้าน ราคาสินค้าและบริการ
  • สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.)
  • 7 ธ.ค. สภาผู้ส่งออกแถลงสถานการณ์การส่งออก สภาธุรกิจตลาดทุนไทยค่าแถลงผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน และอัพเดทสถานการณ์ลงทุน  ตลท. แถลงข้อมูลสรุปภาวะซื้อขายหลักทรัพย์
  • 22 ธ.ค.ประชุม กนง.ครั้งที่ 8/2564
  • 30 ธ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 3 ธ.ค. อียูรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือน พ.ย.จากมาร์กิต ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.

สหรัฐรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน พ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค.ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)

  • 7 ธ.ค. จีนรายงานยอดนำเข้า, ส่งออกและดุลการค้าเดือนพ.ย. ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศเดือนพ.ย.

อียูรายงาน GDP 3Q64 (ประมาณการครั้งท่ี 3)

ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือน ธ.ค.จากสถาบัน ZEW

สหรัฐรายงานดุลการค้าเดือนต.ค.

  • 8 ต.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมนุเวยีนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)

- Advertisement -