KS Daily View 10.02.2025 >>> SET ลงราว 8% YTD จับตาทรัมป์หารือขึ้นภาษี ! ตอบโต้ทุกประเทศ 10-20% มองกรอบ SET วันนี้ 1,250 – 1,290 จุด หุ้นแนะนำ TLI, TIDLOR, CPALL, AOT, ERW
Theme การลงทุนสัปดาห์นี้ : คาดตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 1,250 – 1,290 จุด มองแนวโน้มหลักของดัชนียังอยู่ในกรอบของการปรับตัวลง แต่ภาวะตลาดอาจผันผวนมากขึ้นอีกหลังช่วงปลายสัปดาห์ก่อนสหรัฐฯ รายงานตัวเลขการจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง อัตราการว่างงานปรับลดลง รวมถึงสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเตรียมหารือวางแผนในวันจันทร์และอังคารนี้ เพื่อปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้ โดยอาจปรับขึ้นทุกประเทศราว 10-20% (Universal import duty) อาจส่งผลให้ตลาดกังวลแรงกดดันเงินเฟ้อกลับมาเร่งตัวซึ่งทำให้ Fed ต้องคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับสูงเป็นระยะเวลานานขึ้น ซึ่งทำให้ bond yield สหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้น ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า และเป็นลบต่อบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง แม้ว่าวันพุธนี้สหรัฐฯ มีกำหนดรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)สำหรับเดือน ม.ค. ซึ่งเราคาดว่าอาจทรงตัวหรือเริ่มปรับตัวลงได้ แต่มองว่าตลาดอาจไม่ให้น้ำหนักเชิงบวกสำหรับการปรับตัวลงมากนักหากสุดท้ายโดนัลด์ ทรัมป์ปรับขึ้นอัตราภาษีสินค้านำเข้าเนื่องจากเงินเฟ้อในระยะถัดไปจะกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ : ประเมินดัชนีเชิงบวกในสัปดาห์นี้ คาดปรับตัวในกรอบ SET index ที่ 1,250 – 1,290 จุด โดย SET index ปรับตัวลงแล้วราว 8% YTD และประเมินแรงขายไถ่ถอน LTF อาจชะลอตัวลงในเดือน ก.พ. แต่ประเด็นบวกที่จะเข้ามาช่วงพยุงตลาดก็ยังไม่มีชัด Theme การลงทุนมองตลาดยังผันผวนต่อ โดยเฉพาะในช่วงการประกาศผลประกอบการและความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ แนะนำลงทุน TLI, TIDLOR, CPALL, AOT, ERW
ข่าวและประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการลงทุน
1.ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า เขาวางแผนที่จะประกาศใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเป็นการยกระดับการทำสงครามการค้ากับพันธมิตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ภาษีตอบโต้อาจจะมาแทนแผนภาษีนำเข้าพื้นฐานในอัตรา 10-20% ซึ่งเขาใช้ในการหาเสียง โดยทรัมป์กล่าวว่าเขามีแนวโน้มที่จะใช้ภาษีตอบโต้เป็นหลักมากกว่าอัตราภาษีศุลกากรพื้นฐานทั่วไป
2.กัว จื้อฮุย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของไต้หวัน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับภาษีนำเข้าที่อาจจะถูกกำหนดโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และได้เตรียมความพร้อมหากมีการกำหนดภาษีนำเข้ากับสินค้าของไต้หวัน หลังจากที่ทรัมป์กล่าวหาไต้หวันในระหว่างการหาเสียงเมื่อปีที่แล้วว่าได้ขโมยธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์จากอเมริกา กัวได้เปิดเผยกับนักข่าวในไทเปว่า ทางกระทรวงฯ ได้เตรียมการสำหรับการเก็บภาษีของสหรัฐฯ แล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด
3.จีนวอนปานามาทบทวนการตัดสินใจ หลังประกาศถอนตัวจากโครงการ Belt and Road หลังจากที่ปานามาประกาศความตั้งใจที่จะถอนตัวออกจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road initiative – BRI) จากก่อนหน้านี้ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนโฮเซ ราอูล มูลิโน ประธานาธิบดีปานามาเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ว่า สหรัฐฯ จะดำเนินมาตรการที่จำเป็น หากปานามาไม่รีบจัดการกับสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มองว่า เป็นอิทธิพลและการควบคุมของจีนเหนือคลองปานามา
4.ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ตกลงกันเมื่อวันศุกร์ (7 ก.พ.) ที่จะมุ่งสู่ “ยุคทองใหม่” ของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นในการพบปะกันครั้งแรก โดยสัญญาว่าจะผลักดันความร่วมมือในด้านการป้องกัน, เศรษฐกิจ, เทคโนโลยี และด้านอื่นๆ อิชิบะกล่าวว่า เขามุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับทรัมป์เพื่อสร้างสันติภาพในโลก และญี่ปุ่นจะเพิ่มการลงทุนในสหรัฐฯ ต่อไป
5.ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.9% ในไตรมาส 1/2568
Daily pick
TIDLOR: ราคาพื้นฐานที่ 23.00 บาท
เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ TIDLOR จากงบการเงินใน 4Q24 ที่รายงานออกมา มีกำไรเพิ่มขึ้น 5% QoQ และ 16% YoY โดยหลักมาจากการปรับตัวลดลงของ credit cost ภายหลังจากการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นและปรับปรุงกระบวนการเก็บหนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้ง NPL ยังปรับตัวลดลงได้ QoQ เช่นกัน เรามองปี 2025 อาจมี upside ในส่วนของ cost to income หากผลของการขาดทุนรถยึดปรับตัวดีขึ้นตามราคารถมือสองที่หยุดลงและเริ่มมีแนวโน้มฟื้นตัวได้จากจุดต่ำสุดในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 ที่ผ่านมา ประกอบกับการลดลงของ credit cost ในปีนี้ที่มีโอกาสลดลงจากปีก่อนหน้าเช่นกัน
CPALL: ราคาพื้นฐาน 78.00 บาท
เราแนะนำเก็งกำไร CPALL ในเชิง valuation ที่ราคาลงมาต่ำ -2SD สำหรับ Fwd PE’25 ที่ 16 เท่าและเปิด upside จากความกังวลในเรื่องต่างๆ ต่อความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากภาระที่เพิ่มขึ้นเข้าร่วมลงทุน เรามองเป็นโอกาสในการลงทุนใน CPALL หากสัดส่วนการลงทุนเป็นราว 5.6% ตามข่าว และมีการจัดสรรเงินทุนในการกู้ที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเราคาดโอกาสกระทบต่องบการเงินค่อนข้างน้อย นอกจากนี้เรามองแนวโน้มผลการดำเนินงานเป็นเชิงบวกของCPAXT ที่ CPALL ถือหุ้นอยู่ 60% จากประโยขน์ของ synergy ที่เร็วกว่าคาดและการเติบโตได้ระดับสูงพร้อมการปรับปรุง marginในปี 2025 อีกทั้งเราคาด CPALL เองมี SSSG ใน 4Q24 เป็นบวกราว 3.5% คาดผลประกอบการใน 4Q24 จะสามารถเติบโตได้ดีตามคาด
รานงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันจันทร์ ติดตาม รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนของโซนยุโรป (Investor Confiden Index) จาก Sentix เดือน ก.พ. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ -17.7 จุด และติดตามการรายงานสินเชื่อใหม่จีน เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2 ล้านล้านหยวนเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 9.60 แสนล้านหยวน
- วันอังคาร ติดตามรายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็ก (NFIB Small Business Optimism Index) ในสหรัฐเดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 104.7 จุดเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 105.1 จุด และปิดท้ายด้วยคำแถลงการณ์ของพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐในรายงานนโยบายการเงินครึ่งปีต่อรัฐสภา โดยจะมีการประชุมจากวันอังคารถึงวันพุธ
- วันพุธ ติดตามตัวเลขเงินสหรัฐฯ (US CPI)เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +2.90% YoY ทรงตัวเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ Core CPI ตลาดคาดที่ +3.1% YoY ลดลงจาก +3.2% YoY ในเดือนก่อนหน้า ในส่วนของตลาดในประเทศไทยหยุดทำการเนื่องจากเป็นวันมาฆบูชา
- วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (US PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.2% MoM ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าและดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% YoY ในส่วนของสหราชอาณาจักร มีการรายงาน GDP ในไตรมาส 4 ปี 2024 เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 0.9% YoY ปิดท้ายจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.19 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามดัชนียอดค้าปลีกของสหรัฐ (US Retail sales) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.0% MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM และติดตามการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไตรมาสที่สี่ปี 2024 ครั้งที่สองของโซนยุโรปตลาดคาดการณ์ที่ +0.9%YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า