บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ลดลง 11.60 จุด (-0.90%) ปิดที่ระดับ 1,270 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.30 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 328 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 162 บริษัท) ดัชนีปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาค (TIP Market) วิตกทรัมป์เรียกเก็บภาษีเท่าเทียม (Reciprocal Tariffs) กระทบเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกเป็นสัดส่วนสูง เช่น กลุ่ม TIP (ไทย, อินโด, ฟิลิปปินส์), Sector ปรับลงกดดัชนี คือ กลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, KCE, HANA), กลุ่มขนส่ง (AOT), และ พลังงาน (PTT, GULF) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้นพยุงดัชนี คือ ICT (ADVANC, INTUCH, TRUE)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
DELTA (-1.75%), KCE (-2.46%), CCET (-7.01%), AH (-3.42%) วิตกทรัมป์เรียกเก็บภาษี Reciprocal Tariffs กระทบกลุ่มสินค้าที่ไทยมียอดส่งออกไปสหรัฐในสัดส่วนสูง อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กฯ, กลุ่มยานยนต์ และ กลุ่มสินค้าเกษตร ซึ่งสินค้าเหล่านี้ไทยเรียกเก็บภาษีจากสหรัฐราว 10% ในขณะที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีจากไทยต่ำเพียง 3.4% จึงมีความเสี่ยงที่สหรัฐจะตอบโต้และประกาศขึ้นภาษีจากไทย
MTC (-1.14%), SAWAD (-3.38%), TIDLOR (-3.45%) เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากนโยบายทรัมป์ 2.0 เนื่องจากนโยบายดังกล่าวจะผลักให้ราคาสินค้าในสหรัฐพุ่งสูงส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อลดลงช้า กดดันให้เฟดจะต้องคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานกระทบต้นทุนเงินทุนของกลุ่มไฟแนนซ์และเป็นจิตวิทยาลบต่อกลุ่มดังกล่าว
ADVANC (+1.07%), INTUCH (+0.25%), TRUE (+4.13%) ปรับขึ้นรับผลประกอบการของ ADVANC ที่ออกมาแข็งแกร่ง โดย ADVANC แจ้งกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 9.25 พันล้านบาทเพิ่มขึ้น 10%qoq และ 31%yoy สูงกว่าที่เราคาดไว้ 3% สะท้อนภาพรวมของธุรกิจอยู่ในขาขึ้น ทำให้นักลงทุนเข้าดักเก็งกำไร TRUE ซึ่งคาดว่าจะประกาศงบออกมาดีในทิศทางเดียวกับ ADVANC นักวิเคราะห์ของเราแนะนำ ซื้อ ADVANC พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 311 บาท เดิม 305 บาท และแนะนำ ซื้อ TRUE เป้า 14.70 บาท
IVL (+1.32%) คาดจะได้ประโยชน์จากนโยบายของ โดนัล ทรัมป์ โดยเฉพาะนโยบายอุดหนุนการผลิต และการใช้พลังงานและปิโตรฯ ในประเทศส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่มีโรงงานอยู่ในสหรัฐ อาทิ IVL นอกจากนี้ยังคาดว่าจะได้ผลบวกจากข่าวล่าสุดที่ ทรัมป์ จะลงนามยกเลิกคำสั่งบังคับใช้หลอดกระดาษ และสนับสนุนให้กลับไปใช้หลอดพลาสติกอีกครั้ง
