บล.กสิกรไทย:
SCGD : คาดกำไรฟื้นตัวในปี 2568
- กำไรสุทธิไตรมาส 4/67 อ่อนแอที่ 80 ลบ. ลดลง 45% YoY และ 58% QoQ เนื่องจากปริมาณการขายที่อ่อนแอในตลาดและค่าใช้จ่ายพิเศษ
- คาดว่าแนวโน้มตลาดจะดีขึ้นในปี 2568 แม้อุปสงค์ตลาดเซรามิกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในไทยลดลง 6% YoY และฟิลิปปินส์ลดลง 19% YoY แต่เรามองว่าภาพรวมปี 2568 จะแตกต่างออกไป สำหรับประเทศไทย เราคาดว่าอุปสงค์จะทรงตัวหรือปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย YoY จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ขณะที่การลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งในปี 2568 แต่เราคาดว่าผลกระทบต่อตลาดกระเบื้องเซรามิกจะค่อนข้างจำกัด ในทางกลับกัน เราเชื่อว่าการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ทั้งบ้านและคอนโดฯ อาจหดตัวราว 10% YoY เนื่องจากระดับสต็อกสินค้าที่ยังขายไม่ออกอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม เรามองว่าอุปสงค์ในตลาดต่างประเทศจะปรับตัวดีขึ้นจากภาวะเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งจะช่วยให้การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นไปได้ง่ายขึ้น
- ประหยัดต้นทุนเพื่อเพิ่ม GPM เรามองว่าหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ในปี 2568 คือโครงการลดต้นทุน SCGD มีแผนดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งได้แก่
1) การเพิ่มสัดส่วนการใช้ชีวมวลและพลังงานแสงอาทิตย์
2) การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานผ่านระบบเครื่องกำเนิดลมร้อน
3) การลดต้นทุนบุคลากรจากการปรับโครงสร้างองค์กรล่าสุด
- ปรับลดประมาณการปี 2568/69 ลง 16%/17% เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2568/69 เป็น 968 ลบ. และ 1.1 พันลบ. ตามลำดับ เพื่อสะท้อนถึงปริมาณการขายที่ลดลงในประเทศไทย
- แนะนำ “ซื้อ” ด้วย TP ที่ 5.90 บาท จากการปรับลดกำไรและการประเมินมูลค่าที่ลดลง