KS Daily View 13.02.2025>>> ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,270 – 1,290 จุด คาดตลาดยังคงได้รับ sentiment เชิงบวกระยะสั้นจากการที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโอกาสปรับปรุงเกณฑ์ LTF ใหม่ แนะนำ BDMS และ TLI
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,270 – 1,290 จุด คาดตลาดยังคงได้รับ sentiment เชิงบวกระยะสั้นจากการที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโอกาสปรับปรุงเกณฑ์ LTF ใหม่ที่จะโอนหรือจัดตั้งใหม่เอา LTF ทั้งหมดที่ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท มาตั้งเป็นอีกกองทุนที่อยู่ใน Thai ESG เพื่อช่วยนักลงทุนตัดสินใจชะลองขายหุ้นในช่วงนี้โดยจะมีการเร่งพิจารณาเงื่อนไขลดภาษีเพื่อเป็นแรงจูงใจ เราคาด sentiment เชิงบวกส่งผลต่อหุ้นขนาดใหญ่เป็นหลัก
นอกจากนี้ในวันอังคารที่ผ่านมานักลงทุนต่างประเทศกลับมาเป็น Net buy ราว 1 พันล้านบาท เช่นกัน อย่างไรก็ตามเรายังมองประเด็นแรงขาย LTF ยังคงเป็นปัจจัยกดดันตลาดในระยะกลางถึงยาวจนกว่าจะมีมาตรการออกมาที่ชัดเจน ในวันพฤหัสบดี และวันศุกร์เราคาดหุ้นที่ถูกปรับออกจากดัชนี MSCI สองบริษัทคือ PTTGC และ TOP อาจจะเจอแรงขายจากการ rebalancing ได้เช่นกัน สำหรับปัจจัยต่างประเทศที่คาดส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นเรื่องการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ ว่าจะมีการขึ้นภาษีต่อสินค้าใดและประเทศใดบ้างในอนาคต ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อ US CPI ที่สูงกว่าคาดอาจจะส่งผล sentiment เชิงลบต่อกลุ่ม Non-banking ในวันนี้ได้
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวย้ำในวันนี้ว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้เงินเฟ้อปรับตัวลง และเฟดไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับตลาดแรงงาน ขณะที่เงินเฟ้อกำลังชะลอตัวลง แต่ยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เฟดไม่ต้องรีบผ่อนคลายนโยบายการเงิน
- เว็บไซต์ดิ อินฟอร์เมชัน (The Information) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า บริษัทแอปเปิ้ล (Apple) กำลังร่วมมือกับบริษัทอาลีบาบา (Alibaba) ในการพัฒนาและเปิดตัวฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับผู้ใช้ iPhone ในประเทศจีน รายงานยังระบุด้วยว่า แอปเปิ้ลและอาลีบาบาได้ส่งมอบฟีเจอร์ AI ดังกล่าวให้กับคณะกรรมการกำกับดูแลด้านไซเบอร์สเปซของจีนพิจารณา เพื่อขออนุญาตใช้ฟีเจอร์ AI สำหรับผู้ใช้ iPhone ในประเทศจีน
- สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) แถลงในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมร่วงลงสู่ระดับ 102.8 ในเดือนม.ค. จากระดับ 105.1 ในเดือนธ.ค.2567 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2561 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 104.6 ดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และการจ้างงาน
- กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่อิหร่านหลายราย รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมันที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันดิบอิหร่านจำนวนหลายล้านบาร์เรลต่อปีไปยังจีน เพื่อเพิ่มแรงกดดันต่ออิหร่านตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
- ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สหรัฐฯ เดือนมกราคม ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เพิ่มขึ้น 3.0% YoY เทียบกับ 2.9% ในเดือนธันวาคมและมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.9% YoY การเพิ่มขึ้นเกินคาดของ CPI และ คำกล่าวของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ย้ำว่าคงยังไม่เร่งกลับมาลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ ส่งผลเชิงลบต่อตลาดต่างประเทศ
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- BDMS: ราคาพื้นฐานที่ 29.40 บาท
เราแนะนำทยอยซื้อสะสม BDMS จากการที่ราคาหุ้นซื่อขายต่ำ -1SD เป็นครั้งที่สองในรอบ 10 ปี เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BDMS จากสิ่งที่บริษัทคาดการณ์การเติบโตมากกว่า GDP 2-3 เท่าเราคาด BDMS จะสามารถเติบโตได้ราว 5-7% โดยการเติบโตมาจากส่วนของต่างชาติที่ยังสามารถโตได้ดี นอกจากนี้เราประเมินผลกระทบของ Co-payment จำกัดเนื่องจากมีสัดส่วนไม่เกิน 5% ของรายได้ IPD ที่อาจจะมีผลกระทบ เรายังมอง BDMS ในมุมมองที่แข็งแกร่งและมีความกระจายความเสี่ยงที่ดีจากการเป็นโรงพยาบาลเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในไทย
- TLI: ราคาพื้นฐาน 13.80 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ TLI โดยคาดได้รับประโยชน์เชิงบวกในระยะสั้นจากการปรับเปลี่ยนประกันสุขภาพเป็นแบบ copayment ที่จะเริ่มใช้ในเดือนมีนาคมนี้ซึ่ง TLI มีสัดส่วน rider ประกันสุขภาพราว 10-15% จากการที่ลูกค้ามีการเร่งการซื้อประกันก่อนบังคับใช้กฏใหม่นี้ นอกจากนี้เราคาดบริษัทจะได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนมาตรฐานบัญชีเป็น TFRS17 ที่เริ่มในปี 2025 นี้ อีกทั้ง TLI ยังเน้นในการขายสินค้าที่มี VONB margin ในระดับสูงและมีการตั้งเป้าหมายการเติบโตของ VONB ในระดับสองหลักอีกด้วย นอกจากนี้มีโอกาสได้รับ sentiment เชิงบวกจากเงินเฟ้อที่ออกมาสูงกว่าคาดของ US ส่งผลให้ Bond yield ปรับตัวขึ้นในระยะสั้นเช่นกัน
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสบดี ติดตามดัชนีราคาผู้ผลิต (US PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.2% MoM ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้าและดัชนีราคาผู้ผลิตที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน (US Core PPI index) ของสหรัฐฯ สำหรับเดือน ม.ค. ตลาดคาดที่ +0.3% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.0% YoY ในส่วนของสหราชอาณาจักร มีการรายงาน GDP ในไตรมาส 4 ปี 2024 เทียบกับครั้งก่อนหน้าที่ 0.9% YoY ปิดท้ายจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.19 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามดัชนียอดค้าปลีกของสหรัฐ (US Retail sales) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.0% MoM ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM และติดตามการรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDP ของไตรมาสที่สี่ปี 2024 ครั้งที่สองของโซนยุโรปตลาดคาดการณ์ที่ +0.9% YoY ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า