บล.กสิกรไทย
ASIAN
- คาดกำไร 4Q67 ที่ 132 ลบ. เพิ่มขึ้น 63.7% YoY จากกำไรที่แข็งแกร่งของกลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง แต่คาดลดลง 43.6% QoQ จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลเนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
- คาดยอดขาย 4Q67 โต 9.7% YoY แต่ลดลง 2..8% QoQ ตามการเปลี่ยนแปลงของยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงและยอดขายที่อ่อนแอต่อเนื่องของกลุ่มอาหารทะเลแช่แข็ง
- เพิ่มประมาณการกำไรปี 68/69 ขึ้น 5.9%/1.8% จาก GPM ที่สูงขึ้นตามคาดการณ์ FX ใหม่ แนะนำ “ถือ” ด้วย TP ที่ลดลงเป็น 9.0 บาท จาก 9.15 บาท
มุมมอง KS
- แนะ “ถือ” เราลดราคาเป้าหมายลงเป็น 9.00 บาท จาก 9.15 บาท อิงด้วยวิธี SOTP แบ่งเป็นมูลค่าธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งที่ 0.5 บาท/หุ้น และการลดตัวคูณมูลค่าธุรกิจอาหารสำหรับการเพาะเลี้ยงสัตว์ลงเป็น PER ปี 2568 ที่ 4.1 เท่า ซึ่งเท่ากับ 2.5SD ต่ำกว่า PER เฉลี่ยในอดีต
- และมูลค่าการถือหุ้น 70% ใน AAI ที่ 8.5 บาท/หุ้น ราคาเป้าหมายใหม่ของเราสะท้อนการปรับประมาณการกำไรและลดตัวคูณมูลค่าจากแนวโน้มของธุรกิจอาหารทะเลที่อ่อนตัวลงแล้ว
AAI
- คาด AAI จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 4/67 ที่ 223 ลบ. (+42.8% YoY, -18.7% QoQ) ไม่รวมผลขาดทุนจาก FX จำนวน 10 ลบ.
- ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 67-69 ขึ้น +11.6%/+8.7%/+5.2% เพื่อรวมปริมาณการขายอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิต
- คงคำแนะนำ “ซื้อ” แต่ลด TP เป็น 6.9 บาท จากการลดตัวคูณ PER เพื่อสะท้อนการเปลี่ยนผ่านสู่ช่วงการเติบโตที่ชะลอตัว โดย AAI ขณะนี้ซื้อขายด้วย PER ปี 67-69 ที่ 10.5 เท่า/9.5 เท่า/8.6 เท่า
มุมมอง KS
- แนะ “ซื้อ” AAI แต่ลดราคาเป้าหมายลงเป็น 6.9 บาท เนื่องจากเราปรับลดตัวคูณ PER ลงเป็น 12.4 เท่า หรือ 1SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 14.2 เท่า
- การปรับตัวคูณมูลค่าหุ้นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นมุมมองของเราที่ว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงกำลังเติบโตในอัตราที่พอประมาณและกำลังปรับตัวเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งอย่าง ITC
- การปรับตัวคูณมูลค่าหุ้นดังกล่าวยังทำให้ตัวคูณ PER ระหว่าง ITC (16.3 เท่า) และ AAI แตกต่างกันประมาณ 4 เท่า โดย ณ ปัจจุบัน หุ้น AAI ซื้อขายด้วย PER ปี 2567-69 ที่ 10.5 เท่า/9.5 เท่า/8.6 เท่า