บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับขึ้น 0.14 จุด (+0.01%) ปิดที่ระดับ 1,384 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับขึ้น 175 บริษัท, หุ้นปรับลง 319 บริษัท) ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนภาคเช้าปรับขึ้นเด่นรับข่าวกองทุน LTF ของภาครัฐแต่ภาคบ่ายร่วงหนักจากข่าว โดนัล ทรัมป์ จะประกาศเรียกเก็บภาษี Reciprocal Tariffs เร็วๆ นี้ Sector ที่ปรับขึ้น คือ ICT (ADVANC, INTUCH ) และกลุ่มอิเล็กฯ (DELTA, HANA, SVI), ส่วน Sector ที่ปรับลง คือ ค้าปลีก (GLOBAL, DOHOME, HMPRO) และ กลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, BBL)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
- GLOBAL (-13.1%), HMPRO (-5.33%), DOHOME (-9.63%) ผิดหวังงบ 4Q24 มีกำไรต่ำคาด มีกำไรจากการดำเนินงาน 497 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%qoq แต่หดตัว 11%yoy ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ 14% (ต่ำกว่า BB Consensus 4%) เนื่องจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบ (-3.7%) มากกว่าที่เราคาดว่าจะลบ (-2%) แนวโน้ม 1Q25 ยังไม่เด่นเนื่องจาก SSSG ยังติดลบต่อเนื่องจาก 4Q24 เป็นจิตวิทยาลบกดดันหุ้นในกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างร่วงยกกลุ่ม
- PTTGC (-5.88%), TOP (-0.41%) MSCI ประกาศทบทวนดัชนีรอบใหม่ โดยครั้งนี้มีหุ้นไทยที่ถูกปรับออกจากดัชนี MSCI Global Standard จำนวน 2 หลักทรัพย์คือ PTTGC และ TOP โดย PTTGC ร่วงแรงกว่าหากเทียบกับ TOP เพราะถูกปรับออกแบบเหนือความคาดหมายของตลาด (Negative Surprise)
- ERW (-2.98%), DCC (-3.85%), SAPPE (-2.86%), STECON (-9.66%) ปัจจัยลบเดียวกับ PTTGC และ TOP คือ MSCI ประกาศทบทวนดัชนีรอบใหม่ปรับ ERW DCC SAPPE STECON ออกจากการคำนวณในดัชนี MSCI Global Small Cap มีผลบังคับโดยใช้ราคาปิด ณ วันที่ 28 ก.พ.นี้
- OR (+7.02%) บวกแรงจาก 1) แจ้งงบ 4Q24 ออกมาดีพลิกมีกำไรสุทธิ 2.99 พันล้านบาทเทียบกับขาดทุนสุทธิ 1.6 พันล้านบาทใน 3Q24 และเพิ่มขึ้น 1,455%yoy และ 2) ไม่ได้ถูกปรับออกจากดัชนี MSCI อย่างที่ตลาดกังวล (เดิมตลาดคาด TOP และ OR มีความเสี่ยงที่จะถูกปรับออกจากดัชนี MSCI ประกาศจริงมีเพียง TOP และ PTTGC ถูกปรับออกส่วน OR คงอยู่ในดัชนีตามเดิม)
- ADVANC (+7.04%) งบเด่นปันผลดี ปีนี้มี Story ประมูลคลื่นคาดแข่งขันไม่รุนแรงช่วยลดค่าใช้จ่ายในงบ P&L ช่วยหนุนกำไร ผสานกับนักลงทุนบางส่วนที่ลงทุนเน้นเงินปันผลจะโยกเงินลงทุนบางส่วนจาก INTUCH ไปที่ ADVANC ก่อนที่การควบรวมกิจการของ INTUCH และ GULF จะมีขึ้นในช่วงเดือน มี.ค. ถึง เม.ย. นี้ นักวิเคราะห์ทยอยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสอดคล้องกับนักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานของเรา แนะนำให้ ซื้อ พร้อมปรับราคาเป้าหมายเป็น 311 บาท (เดิม 305)