ตลาดโลกเริ่มผ่อนคลายโอไมครอน แม้ไทยจะพบเจอแต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลรุนแรง

สัปดาห์ก่อนสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ 2.1 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาด 5.5 แสนตำแหน่ง ด้าน Dow Jones หลังทราบผลปิดลบ 0.17% ผิดหวังกับตัวเลขที่ออกมาระยะสั้น เป็นจิตวิทยาเชิงลบต่อ SET INDEX ส่วนปัจจัยสัปดาห์นี้ ได้แก่ (1) ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐในวันศุกร์ Bloomberg Consensus คาดที่ +0.7%MoM และ Core CPI +0.5%MoM (2) สถานการณ์ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนข้อมูลล่าสุดพบเจอแล้วราว 38 ประเทศ ส่วนประเทศไทยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาได้รายงานพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนรายแรกโดยเป็นชาวต่างชาติสหรัฐที่เดินทางมาจากสเปน อย่างไรก็ตาม มองว่าการติดเชื้อรายแรกที่พบในประเทศไทยยังไม่น่ากังวลมากนักกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย เนื่องจาก (1) นักท่องเที่ยวรายที่ติดเชื้อได้อยู่ในกระบวนการกักตัวตามขั้นตอนของภาครัฐ โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายออกมาเป็นวงกว้างจึงยังเป็นไปได้ยาก (2) แม้โอไมครอนจะเป็นเชื้อที่กระจายได้ง่าย แต่ WHO รายงานว่าสายพันธุ์นี้ตั้งแต่พบการระบาดยังไม่พบผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด กรณีเลวร้ายสุดเชื่อว่า SET จะไม่ต่ำกว่า 1520 +/- เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นการรองรับการระบาด DELTA ที่พบการติดเชื้อเฉลี่ยวันละ 2 หมื่นราย (3) นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าโอไมครอน อาการที่พบเจอผู้ป่วยครึ่งนึงไม่มีอาการ และอีกครึ่งนึงอาการน้อย โดยที่ยังไม่มีผู้ป่วยอาการมากจนถึงกับต้องนอนโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต เบื้องต้นจึงพอจะสรุปได้ว่าโอไมครอนเป็นเชื้อที่กระจายไวแต่อาการเล็กน้อย (4) ตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มผ่อนคลายกับโอไมครอน เมื่อคืน DowJones +1.87% หลังนายแพทย์เฟาซีที่เป็นแพทย์ใหญ่ประจำทำเนียบขาวได้ระบุว่า แม้ดูเหมือนจะเร็วเกินไปที่จะสรุปเรื่องนี้แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีรายงานออกมาว่าโอไมครอนก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง ประเมินกรอบ SET สัปดาห์นี้ 1575–1610

กลยุทธ์การลงทุน คงคำแนะนำถือหรือทยอยสะสม Domestic Play ต่อไป อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) ร้านอาหาร (M) ท่องเที่ยว (MINT) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ปั๊มม้ำมัน (PTG) เครื่องดื่ม (TACC) สื่อนอกบ้าน (PLANBVGI)

Top Picks

MINT (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 38 บาท) ราคาหุ้นที่ผ่านมาถูกดดันหนักจากการระบาดของโอไมครอน หลังพบเจอผู้ติดเชื้อใน EU ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคล้ายว่าสถานการณเ์ริ่มคลี่คลาย จึงมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะเริ้มฟื้นตัว ขณะที่ทุกหน่วยธุรกิจของ MINT กลับมาค่อนข้างปกติแล้วไม่ว่าจะเป็น โรงแรม ร้านอาหาร สินค้าแฟชั่น

SCB (ซื้อ/ราคาเป้าหมาย 149 บาท) คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่ง 29%YoY ในปี 2021 และฟื้นตัวต่อเนื่อง 15-12% YoY ในปี 2022-23 ผลบวกจากเศรษฐกิจฟื้นตัวเปิดประเทศ ทำให้การใช้จ่ายของลูกค้าฟื้นตัวขึ้นและความเสี่ยงหนี้เสียลดลง

- Advertisement -