บล.กรุงศรีฯ:

KSS Strategist Comment: THAIESG/LTF UPDATE 

Fact : ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าความคืบหน้ากองทุนระยะยาวภายใน 

1.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการในการจัดตั้งกองทุน Thai ESG กอง 2 

2.) คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือน มีค 2025 นี้ 

3.) วงเงินจะอยู่ที่ราว 1.8 แสนล้านบาท

ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเงินในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนดอายุไปแล้ว 

4.) ส่วนรูปแบบการลงทุนและสิทธิประโยชน์จะเป็นอย่างไรนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือซึ่งอาจมีลักษณะแตกต่างจากกองทุน Thai ESG ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามยังอยากให้เป็นการลงทุนในประเทศ

Impacts: 

KSS ประเมินเป็น “บวก” ต่อ SET โดยคาดแรงขายกอง LTF ที่ครบอายุแล้วทั้งหมด จะชะลอแรงขายนับจากนี้ จาก 2 ปัจจัย

  • ลดความกังวลของตลาดจากกองทุนเดิม LTF เดิมไม่มีเงินใหม่เข้ามา และการบริหารที่ยากจากสภาพคล่องจำกัด เสี่ยงผลตอบแทนต่ำลง เป็นปลิดทิ้ง เนื่องจากจะมีเงินใหม่เข้ามาจาก Thai ESG    
  • ต้นทุนการถือครองของ LTF 7ปีหลังเฉลี่ยราว 1620-1640จุด ทำให้นักลงทุนที่รอการฟื้นตัวระยะยาว มีโอกาสมากขึ้นจากเงินใหม่ ที่จะเข้ามา

Key Ideas : 

สิ่งที่ต้องติดตามต่อและจะเป็นภาพบวกๆ เพิ่มเติมต่อตลาด SET ระยะกลาง-ยาว มากขึ้นมี 3 ประเด็น

  • เนื่องจากแนวทางกองทุนระยะกลางเพื่อสิทธิทางภาษีมุ่งเน้นมาที่การให้สิทธิ์การลงทุนหุ้นในประเทศมากขึ้น เพื่อฟื้นฟู Domestic Long Term Funds ที่ขาดหายไป กรณีมีการขยายสิทธ์ลดหย่อน THAIESG จาก 3.0 แสนบาท ไปเท่า LTF เดิมที่ 5.0 แสนบาท จะเป็นบวกต่อตลาดและฟื้นความเชื่อมั่นมากขึ้น
  • มีการหารือแนวทางหุ้นไทย 100% 
  • การเพิ่ม Universe สินทรัพย์ที่สามารถลงทุนได้ เช่นขยายขอบเขตของหุ้น ESG ให้กว้างและมากขึ้น 

KSS ให้น้ำหนัก 50% ต่อ 50% ทั้งการที่เศรษฐกิจเติบโตช้าใน 10ปีหลัง(Real Fundamental) และการขาด Long Term Funds(Liquidity) ไปในปี 2020 เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ SET เริ่ม Underperform ลง และอาจจะเข้าสู่จุดของการค่อยๆ ฟื้นตัวรอบใหม่ หากแนวทางจากรัฐฯ ชัดเจน มุ่งเน้นการออมเพื่อการลงทุนระยะกลางยาวในประเทศให้ฟื้นรอบใหม่

Strategy : จิตวิทยาบวกต่อสภาพคล่องภายในกำลังค่อยๆ ได้รับการแก้ไข คงมุมมองสะสมหุ้น หลัง SET ยังย่ำ ใน Deep Value Zone PER 2025F 13.5X vs ex Delta ต่ำเพียง 11.5X 

นักลงทุนจะพบว่าจากหุ้น 914บริษัท ใน SET+mai  

  • มีหุ้น PER ต่ำ 12เท่า 300บริษัท จาก
  • หุ้น Dividend Yield มากกว่า 3% 435บริษัท, 
  • หุ้น PBV น้อยกว่า 1เท่า  548
  • หุ้นที่มีคุณสมบัติทั้ง 3 ข้อ มีราว 145บริษัท (Figure 1)

KSS Strategist จึงมองเป็นโอกาสในการลงทุน 7 Deep Value Stocks  ที่อิงหุ้นที่มี Business Model มั่นคงต่อปัจจัยทั้งภายในและภายนอก CPALL, BDMS, MINT, BH, GPSC, SCGP, HMPRO ผสานระยะสั้นกลุ่มอสังหาฯ ที่เริ่มมีปัจจัยอาจสร้างจุดเปลี่ยน AP, SIRI

- Advertisement -