สรุปภาวะตลาด
วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวข้ึนต่อเนื่อง บวกราว 20 จุด จากแรงซื้อกลับในหุ้นธนาคาร พลังงาน และขนส่ง เช่นหุ้น AOT, PTT, BAY, SCB, KTB แม้ไทยมีการรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน จากข้อมูลในปัจจุบันคาดว่าเชื้อจะไม่ส่งผลรุนแรงต่อร่างกาย แต่สามารถแพร่กระจายได้เร็ว จึงทำให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นได้ ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,609.28 จุด +21.09 จุด +1.33% มูลค่าการซื้อขาย 74,928 ลบ. ต่างชาติ +165.98 ลบ. TFEX +7,723 สัญญา ตราสารหน้ี -1,911.92 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มข้ึน 492.40 จุด หรือ +1.40% นลท.คลายกังวลไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ขณะที่ดัชนี Nasdaq ทำสถิติทะยานขึ้นในวันเดียว แข็งแกร่งที่สุดนับต้ังแต่เดือนมี.ค.ปีนี้ ขานรับแรงซื้อหุ้น กลุ่มเทคโนโลยี
+ ราคาน้ำมันดิบ เพิ่มข้ึน 2.56 ดอลลาร์ +3.7% ปิดท่ี 72.05 ดอลลาร์/บาร์เรล นลท.คลายกังวลผลกระทบของ ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน และรายงานข่าวว่า การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกหยุดชะงักลง
+ แกล็กโซสมิทไคลน์ (GSK) บริษัทผลิตยาของอังกฤษ เปิดเผยข้อมูลใหม่จากการศึกษาเบื้องต้นพบว่ายา แอนติบอดีโซโทรวิแมบ (Sotrovimab) ใช้ได้ผลกับการกลายพันธุ์ของไวรัสโอมิครอนในทุกจุด
+สหรัฐเปิดเผยตัวเลขขาดดุลการค้าลดลง 17.6% สู่ระดับ 6.71 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนแต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.68 หมื่นล้านดอลลาร์
+ สรท. ปรับคาดการณ์การส่งออกไทยในปี 64 ลุ้น เติบโตถึง 15% และคาดการณ์ปี 65 โต 5-8%
+FETCO เผยปี 2565 คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางขาขึ้นแตะ 1,800 จุด คาด GDP ไทยราว 4% ปัจจัยหนุนจากภาคการท่องเท่ียวทยอยฟื้นตัว
+ ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโค วิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 3,618 ราย ATK 697 ราย มีผู้เสียชีวิต 38 ราย รักษาหาย 5,775ราย
ปัจจัยลบ
– การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนญี่ปุ่นลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนต.ค. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ฉุดรั้งความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
– สหรัฐได้ตัดสินใจคว่ำบาตรทางการทูตต่อการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่จีนในปีหน้า เพื่อแสดงการประท้วงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวมุสลิมอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ของจีน
– IMF อาจจะปรับลดคาดการณ์ GDP ยูโรโซน เนื่องจากกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอน และอัตราเงินเฟ้อท่ีพุ่งขึ้นเป็นเวลานาน
-สหรัฐเปิดเผยว่าประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงาน นอกภาคเกษตรของสหรัฐร่วงลง 5.2% ใน 3Q64 หลังจากขยายตัว 2.4% ใน 2Q64
– ธปท.-ก.ล.ต.เล็งออกกฎคุมเงินดิจิทัลชำระสินค้าและบริการ
– ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจับตา ‘โอมิครอน’ อาจสะเทือนเศรษฐกิจโลกและไทย กรณีเลวร้ายถึงขั้นล็อกดาวน์ กระทบ GDP ไทยปี 2565 ลดลงเหลือ 2.8%
-FETCO รายงานดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 19.9%MoM มาอยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง”จากระดับ “ร้อนแรงอย่างมาก”
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวข้ึนต่อตามทิศทางตลาดโลก โดยนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด- 19 สายพันธ์ุโอมิครอน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นแรง หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,600-1,620 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นที่มีโอกาสเข้าคำนวณ SET50: หุ้นเข้า BANPU KEX TIDLOR หุ้นออก BJC DELTA STA , SET100 : หุ้นเข้า BLA BPP EPG RCL SIRI STARK TTA หุ้นออก AAV ICHI JAS NRF PRM PSL TKN
- ส่งออกเดือน ต.ค. ขยายตัว AH SAT NER KCE HANA TWPC JUBILE
- รัฐบาลออกวีซ่ารักษาพยาบาลสำหรับต่างชาติ รักษาตัวในไทยได้นาน 1 ปี BH BDMS BCH PR9
- หุ้น Reopening Play: หุ้นกลุ่มท่องเท่ียว MINT ERW CENTEL AWC SHR AOT AAV BA หุ้นกลุ่มขนส่ง BEM BTS หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK
- รายงานกำไร 9M64 ที่ 182 ลบ. +47%YoY เนื่องจากปีก่อนมีค่าใช้จ่าย one time item 25 ลบ. และนักเรียนเร่ิมกลับมาเรียนเพิ่มข้ึนจากปีก่อน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณา QoQ รายได้และกำไร 3Q64 อยู่ท่ี 258 ลบ. และ 46 ลบ. อ่อนตัวลง 5%QoQ และ 30%QoQ ตามลำดับ เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ในช่วงเดือนส.ค. 64 และนักเรียนเรียนทาง Online ส่งผลให้รายได้จากกิจกรรมหลังเลิกเรียนลดลง
- คาด 4Q64 ผลประกอบการเริ่มฟื่นตัวหลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์ และโรงเรียน SISB สาขาธนบุรีเฟส 2 (รองรับนักเรียนเพิ่ม 600 คน) จะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. 64 ที่ผ่านมา ทาให้รองรับนักเรียนได้ 4.57 พันคน นอกจากน้ียังอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงเรียน SISB สาขานนทบุรี ซึ่งคาดว่าจะล่าช้าจากเดือน ส.ค. 65 เป็น ส.ค. 66 เป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อการเติบโตในอนาคต
- ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการต้ังแต่ 4Q64 เป็นต้นไป เนื่องจากไม่มีการล็อกดาวน์และโรงเรียน SISB สาขาธนบุรีเฟส 2 แล้วเสร็จ ช่วยหนุนให้จำนวนนักเรียนในปี 65 กลับมาเติบโต เราจึงแนะนำ ซื้อสะสม
หุ้นมีข่าว
(+) STARK (Bloomberg Consensus 5.90 บาท) รับทรัพย์เมกะเทรนด์อีวี เตรียมรับงานเปลี่ยนสายไฟฟ้ารองรับไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท พร้อมลุยดาด้าเซ็นเตอร์ คลาวด์เซอร์วิส ต่อยอด แย้มปี หน้าจะปิดดีลซื้อกิจการภายในและต่างประเทศ 2-3 ดีล ขยายฐานใหญ่ขึ้น คาดปีหน้ารายได้เติบโตไม่ น้อยกว่า 15-20% ลุย 50 ประเทศ ชูแบ็กล็อกพร่ึบมากกว่าหมื่นล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
(+) SABUY (Bloomberg Consensus 23.00 บาท) เดินหน้าปล่อยกู้-ขายประกันผ่าน “ชิปป์สไมล์” เสริมความแข็งแกร่ง มุ่งเป้าเติบโตสู่ 10,000 สาขา หนุนโอกาสเติบโตต่อ ลั่นปีหน้าโกยรายได้โตไม่ต่ำกว่า 50% เปิดโอกาสพันธมิตรร่วมทุนหนุนโอกาสโตต่อ แย้มกลางเดือนนี้จ่อปิดดีลเพิ่มอีก นักลงทุนสถาบันต่างประเทศเห็นอนาคตร่วมถือหุ้นด้วย (ท่ีมา ทันหุ้น)
(+) RS (Bloomberg Consensus 19.85 บาท) “อาร์เอส” บุกตลาดกัญชง ส่ง “ไลฟ์สตาร์” ออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารตัวแรก ‘มัลติ ออยล์ พลัส น้ำมันเมล็ดกัญชง’ ภายใต้แบรนด์ well u และเตรียมปล่อยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสาร CBD จากกัญชงในกลุ่มของผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์ฟังก์ชันนัล ดริงค์ และผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง คาดสร้างรายได้ 500 ล้านบาท ในปีหน้า (ท่ีมา ข่าวหุ้น)
(+) OCEAN (Bloomberg Consensus – บาท) เซ็นสัญญาร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับ JP-SUN รองรับแผนส่งโปรดักส์กัญชง-สาร CBD บุกตลาด การันตีวัตถุดิบพร้อมเสิร์ฟ หลังทุ่มเงินลงทุนกว่า 200 ล้านบาท ติดต้ังเครื่องจักรทันสมัย กำลังการผลิต 30 ตัน/เดือน (ที่มา ข่าวหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- สัปดาห์ที่ 2 หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประชุมคณะกรรมการร่วมกัน 3 สถาบัน (กกร.)
- สัปดาห์ที่ 3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม
- 22 ธ.ค.ประชุมกนง.ครั้งที่ 8/2564
- 30 ธ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 8 ต.ค. สหรัฐรายงานตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมนุเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 9 ธ.ค. สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน และอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
- 10 ธ.ค.สหรัฐรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือน ธ.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- 14 ธ.ค.อียูรายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย.