KS Daily View 27.02.2025>>> ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,220 – 1,240 ตลาดในประเทศได้รับ sentiment บวกต่อเนื่องจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. และติดตามการประกาศงบการเงินที่เหลือในสัปดาห์นี้ กลุ่มที่ออกมาดีกว่าคาดในสัปดาห์นี้คือค้าปลีกและโรงแรม
แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศ:
ประเมินดัชนี SET Index วันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,220 – 1,240 จุด คาดปัจจัยหนุนระยะสั้นมาจากการที่ กนง. ประกาศปรับลดอัตราลดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เหลือที่ระดับ 2.00% จากแนวโน้มของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำกว่าคาด โดยการประชุมในรอบหน้า วันที่ 30 เม.ย.68 กนง. จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 68 อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะปรับมาอยู่ที่สูงกว่า 2.5% เล็กน้อย จากปัจจุบันคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.9% ส่งผลให้ตลาดหุ้นส่งผลตอบรับเชิงบวก +2.05% นำโดยกลุ่ม การเงิน เป็นหลัก
นอกจากนี้ปัจจัยที่ส่งผลต่อ sentiment ใน สัปดาห์นี้จะเป็นการประกาศงบการเงินใน 4Q24 ที่ดีกว่าคาดอย่างกลุ่มค้าปลีกอย่าง CPALL และ CPAXT รวมไปถึงกลุ่มโรงแรมอย่าง CENTEL, MINT และ ERW เช่นกัน อีกทั้งเรามองการประกาศยืนยันปฏิเสธในการเข้าร่วมลงทุนตามข่าวลือของ CPALL จะเป็นปัจจัยหนุนสร้างความเชื่อมั่นในมูลค่ากลับไปอยู่ในระดับที่เหมาะสม สำหรับปัจจัยในต่างประเทศที่อาจส่งผลกระทบทางอ้อมต่อ Sentiment ตลาดเอเชียเหนือ คือ ผลประกอบการของ NVIDIA ที่ดีกว่าคาดทั้งรายได้ในไตรมาสล่าสุดและ Guidance สำหรับไตรมาสปัจจุบัน หนุนโดยการส่งมอบ Blackwell ที่สร้างรายได้ในไตรมาสล่าสุดไป 11 พันล้านเหรียญ
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ แนะนำลงทุนในหุ้น CPALL และ CENTEL
ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 2.00% ในการประชุมรอบนี้เนื่องจากคณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 2568 มีโอกาสจะเติบโตได้ต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้เดิมที่ 2.9% อย่างไรก็ดี ในการประชุม กนง.รอบหน้า วันที่ 30 เม.ย.68 จะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 68 อย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะปรับมาอยู่ที่สูงกว่า 2.5% เล็กน้อย จากปัจจุบันคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.9% การที่เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ไม่สูง มาจากปัญหาด้านอุปทานเป็นสำคัญ
- CPALL ประกาศ “บริษัทฯ ยืนยันไม่มีความประสงค์เข้าร่วมลงทุนในบริษัทค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่น”
- นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บมจ.การบินไทย [THAI] เปิดเผยว่า จากมติที่ประชุมคณะผู้บริหารแผนเมื่อวานนี้ (25 ก.พ.) อนุมัติการลดมูลค่าที่ตราไว้ (Par) จากหุ้นละ 10 บาท เป็นหุ้นละ 1.30 บาท ช่วยลดขาดทุนสะสมจากกว่า 1 แสนล้านบาท เหลือเพียง 180 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/68 เป็นบวก จะทำให้ขาดทุนสะสมหมดไป และกลับมามีกำไรสะสม การลดพาร์จะเปิดโอกาสให้บริษัท สามารถพิจารณาจ่ายเงินปันผลได้ในอนาคต และเป็นการเพิ่มความน่าสนใจของหุ้นให้แก่นักลงทุนภายหลังการกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จ่อออกจากแผนฟื้นฟู พ.ค.หวังส่งหุ้น THAI กลับเข้าเทรดใน มิ.ย.
- คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) อนุมัติงบกว่า 2,800 ล้านบาท จ่ายชดเชยเกษตรกรโดยตรงไร่ละ 1,000 บาท ให้เกษตรกรปรับโครงสร้างการผลิตให้ตรงกับตลาด โดยตั้งคณะทำงานวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับตลาด พร้อมมาตรการเสริมจัดทำข้าวถุงจำหน่ายราคาพิเศษ 500,000 ตัน และเร่งรัดการส่งข้าวตามสัญญากับจีนอีก 280,000 ตัน
- นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐและรัสเซียจะพบปะกันที่กรุงอิสตันบูลของตุรกีในวันพรุ่งนี้เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการกลับมาเปิดสถานเอกอัครราชทูตของทั้งสองประเทศทั้งนี้ การประชุมในวันพรุ่งนี้ถือเป็นการสานต่อการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐและรัสเซียที่กรุงริยาดของซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 18 ก.พ. โดยที่ประชุมมีการหารือเกี่ยวกับการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย รวมทั้งแนวทางการยุติสงครามในยูเครน
หุ้นแนะนำวันนี้ Top pick:
- CPALL: ราคาพื้นฐานที่ 78.00 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CPALL จากการประกาศ “บริษัทฯ ยืนยันไม่มีความประสงค์เข้าร่วมลงทุนในบริษัทค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่น” ที่เป็นความกังวลในตลาดที่ผ่านมาพร้อมทั้งงบการเงินใน 4Q24 ที่ออกมาดีกว่าคาด 9% เติบโตอย่างแข็งแกร่งจาก SSSG ใน 4Q24 ที่เติบโตได้ราว 4.1% ในขณะที่ GPM มีการปรับตัวดีขึ้นราว 70bps YoY จากอัตรากำไรขั้นต้นของแต่ละสินค้าปรับตัวดีขึ้นทั้งจาก Food และ Non-food ในขณะที่ทั้งปี 2024 สามารถขยายสาขาได้ตามเป้าที่ 700 สาขา เราคาดว่าแนวโน้มการเติบโตยังคงส่งต่อมายังใน 1Q25 นี้โดยเราคาด CPALL จะมี SSSG ใน 1Q25 เติบโตราว 1-3% QTD จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายออนไลน์และการเติบโตของนักท่องเที่ยว
- CENTEL : ราคาพื้นฐาน 41.86 บาท
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CENTEL จากการประชุมที่ผ่านมาโดยมีการให้เป้าหมายสำหรับทั้งโรงแรมเติบโตราว 23% มาจากส่วนของ RevPar ราว 4,500 – 4,800 บาท และอัตราการเข้าพักที่ 74-77% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ระดับ 71% และ ADR ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7-10% และสำหรับธุรกิจอาหารบริษัทตั้งเป้า SSSG เพิ่มขึ้นราว 3-5% ในปี 2025 และมีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้นที่ 50-70 สาขา คาดรายได้ธุรกิจอาหารเติบโตราว 6-8% สำหรับธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2025 มาจากกลุ่ม upscale and luxury hotels (Centara Grand, Centara Reserve) และคาด Centara Mirage Pattaya กับ Centara Karon จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจโรงแรมสำหรับปีนี้
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ
- วันพฤหัสฯ ติดตามคำสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ (US Durable goods orders) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ +1.20% MoM เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ -2.2% MoM ต่อด้วยรายงานการคาดการณ์การเติบโของ GDP ของสหรัฐใน 4Q24 ครั้งที่สอง ตลาดคาดการณ์ที่ 2.3% QoQ ทรงตัวจากครั้งก่อนหน้า ปิดท้ายจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐ (US Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.19 แสนตำแหน่ง
- วันศุกร์ ติดตามตัวเลขส่งออก (Exports) ของ ธปท. เดือน ม.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 8.4% YoY และตัวเลขนำเข้า (Imports) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 13.4% YoY ในส่วนของเศรษฐกิจของสหรัฐมีการรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE Price Index) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 2.6% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.8% YoY ต่อด้วย ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล (Personal income) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.4% MoM และ ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (Personal spending) เดือน ม.ค. ตลาดคาดการณ์ที่ 0.3% MoM เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 0.7% MoM