บล.กรุงศรีฯ:
เก่งหลังเกมส์
SET Index ปรับลง 15.41 จุด (-1.25%) ปิดที่ระดับ 1,215.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.6 หมื่นล้านบาท (จำนวนหุ้นปรับลง 376 บริษัท, หุ้นปรับขึ้น 140 บริษัท) ปรับลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นฝั่งเอเชีย โดยมี Sector ที่ปรับลง คือ พลังงาน (PTTEP, TOP, PTTGC), กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, INTUCH), และ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (DELTA) ส่วน Sector ที่ปรับขึ้น คือ กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS, BH) และ กลุ่มประกัน (TLI)
หุ้นที่เคลื่อนไหวโดดเด่น คือ
PTTEP (-3.51%), TOP (-3.67%), PTTGC (-6.94%), IVL (-4.46%), SCC (-7.27%) หุ้นน้ำมัน, โรงกลั่น และ ปิโตรฯ ร่วงยกแผง กังวลดีมานด์ชะลอตัวหลังสหรัฐเกิด Inverted yield curve หรือสัญญาณเตือนเศรษฐกิจถดถอย (Recession) โดยสหรัฐเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันและปิโตรฯ รายใหญ่ของโลก, นอกจากนี้ TOP และ PTTGC ยังมีประเด็นกดดันเฉพาะตัวจาก MSCI Rebalance โดย TOP และ PTTGC ถูกลดน้ำหนักจากดัชนี Global standard เป็น Small Cap Index ส่งผลให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นดังกล่าวลดลง มีผลบังคับโดยใช้ราคาปิด ณ วันที่ 28 ก.พ. (พรุ่งนี้)
SAWAD (-16.67%), MTC (-0.52%), TIDLOR (-6.45%) ผิดหวัง SAWAD แจ้งงบ 4Q24 มีกำไรสุทธิ 1,224 ล้านบาทลดลง 6%qoq และ 3%yoy ต่ำกว่าเราและตลาดคาดไว้ 7% (รายการใน P&L ลดลงในทุกบรรทัด) ในขณะที่ NPL ปรับขึ้นเป็น 3.58% จาก 3Q24 ที่ 3.49% ดึง Sentiment รวมของกลุ่มพลิกเป็นลบหลังจากที่เมื่อวานปรับขึ้นรับข่าวแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย โดยเช้าวันนี้นักวิเคราะห์ของเราปรับลดคำแนะนำ SAWAD จาก Trading Buy เป็น NEUTRAL ราคาเป้าหมายปี 2025 ที่ 42 บาท
BDMS (+5.60%), BH (+5.18%) แจ้งงบ 4Q24 ดีกว่าที่เราและตลาดคาด โดย BDMS มีกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 4,333 ล้านบาท +2%qoq และ 10%yoy ดีกว่าที่เราและ Consensus คาดไว้ 7%, 5% ตามลำดับ ส่วน BH มีกำไรสุทธิ 1,903 ล้านบาท -3%qoq แต่เพิ่มขึ้น 11%yoy ดีกว่าที่เราและ Consensus คาดไว้ 7% สวนทางกับราคาหุ้นและข้อกังวลของตลาดซึ่งกลัวว่างบจะออกมาไม่ดี