ตลาดคาดว่า FED จะข้ึนดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้า แนะกลุ่ม Bank (SCB KBANK)

วันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐรายงานตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือน พ.ย.+6.8%YoY +0.8%MoM ส่วน Core CPI +4.9%YoY +0.5%MoM ด้านเงินเฟ้อทั่วไปหลักๆ แล้วยังเป็นผลจากราคาพลังงาน +33%YoY , น้ำมันเบนซิน +58%YoY ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) หลักๆผลจากรถยนต์ใหม่ รถมือสอง และรถบรรทุก ภายหลังเสร็จสิ้น การแถลงข้อมูลพบ Dow Jones +0.6% , อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 2 และ 10 ปี ปรับตัวลง บ่งชี้ว่าตลาดค่อนข้างผ่อนคลายมากขึ้นกับเรื่องของเงินเฟ้อ โดยสัปดาห์นี้ปัจจัยหลักๆจะเป็นการประชุม FED ในวันที่ 14-15 ธ.ค. ซึ่งค่อนข้างมีความสำคัญ เนื่องจากจะเป็นการประชุมที่เปิดเผยทั้งแนวโน้มดอกเบี้ยในระยะถัดไป ตัวเลขเศรษฐกิจรวมถึงการลดวงเงิน QE ข้อมูลล่าสุดจากประธาน FED เริ่มเผยถึงแนวโน้มที่อาจจะลดวงเงิน QE มากกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ขณะเดียวกัน หากนำข้อมูลจาก Bloomberg Consensus มาพิจารณา ความเห็นของนักลงทุนต่อทิศทางดอกเบี้ยจะพบว่า ตลาดคาดว่าในปี 22 FED จะปรับขึ้นดอกเบี้ยราว 2 ครั้ง ดังนั้นหากผลประชุมมีมติลดวงเงิน QE ที่สูงกว่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีแผนจะขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้าก็เชื่อว่าผลกระทบต่อตลาดจำกัด อย่างไรก็ตาม หากส่งสัญญาณที่เข้มงวดกว่าตลาดคาดหมายไว้ก็อาจเป็นปัจจัยกดดัน บรรยากาศการลงทุนทั่วโลกได้ แต่กับ SET INDEX เชื่อว่าผลจำกัดทั้งทางบวกและทางลบ เนื่องจากช่วงที่ FED ทำ QE เม็ดเงินเหล่านั้นมิได้เข้ามาแต่อย่างใด ส่วนอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์เชิงจิตวิทยา มองไปยังธนาคาร (BBL KBANK SCB) ประกัน (BLA) ส่วนปัจจัยอื่นๆ ระหว่างสัปดาห์จะไม่ค่อยมีปัจจัยอะไรโดดเด่น แม้จะมีประชุมของธนาคารกลางอื่นๆ อาทิ ECB ในวันศุกร์ แต่เชื่อว่าผลกระทบจาก FED จะสูงกว่า รวมถึงประชมุศบค.ชุดใหญ่วันจันทร์ แต่ก็เชื่อว่าไม่มีผลกับการลงทุนมากนัก ดังนั้น ประเมินว่าทิศทางดัชนีจะแกว่งในกรอบแคบๆระหว่างรอผลประชุม FED แต่หากผลประชุมเป็นไปตามตลาดคาด ก็จะยิ่งส่งผลให้การเคลื่อนไหวทั้งสัปดาห์เป็นอย่างจำกัด คาดกรอบเคลื่อนไหว 1610 – 1635

กลยุทธ์การลงทุน แนะถือต่อเนื่องหลังแนะทยอยสะสมไปก่อนหน้า หรือสะสมใน Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME GLOBAL HMPRO) ธนาคาพาณิชย์ (BBL KBANK SCB) ร้านอาหาร (M) โรงภาพยนตร์ (MAJOR) ท่องเที่ยว (MINT) สื่อนอกบ้าน (VGI) เครื่องดื่ม (CBG TACC) ปั๊มน้ำมัน (PTG)

Stock Pick

SCB (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 149 บาท) คาดกำไรสุทธิจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่ง 29%YoY ในปี 2021 และฟื้นตัวต่อเนื่อง 15-12% YoY ในปี 2022-23 ผลบวกจากเศรษฐกิจฟื้นตัวเปิดประเทศ ทำให้การใช้จ่ายของลูกค้าฟื้นตัวขึ้น และความเสี่ยงหนี้เสียที่ลดลง

KBANK (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย 174 บาท) คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวตั้งแต่ 4Q21 ตามการขยายสินเชื่อกลุ่มธุรกิจ และ SME หลังจากคลายล็อกดาวน์ นอกจากนี้ ธนาคารจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเปิดประเทศอีกครั้ง ในปี 2022 เนื่องจากมีพอร์ตสินเชื่อ SME และสินเชื่อที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวสูง และจะได้รับประโยชน์จากแพลตฟอร์ม สินเชื่อดิจิทัลภายใต้ KBTG ในการขยายฐานสินเชื่อรายยอ่ย

- Advertisement -