บล.ทรีนีตี้:

สหการประมูล – AUCT

แนวโน้ม 3Q64 ดีขึ้น แต่คาด 4Q64 สดใสกว่า

  • กำไร 3Q64 อยู่ที่ 60 ล้านบาท ดีขึ้น 32% QoQ และ 51% YoY ตามคาด
  • รายได้จากการประมูลปรับตัวดีขึ้น หลังปริมาณรถเข้าประมูลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่ยอดจบประมูลปรับตัวดีขึ้นชัดเจน
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการตลาด
  • คาดกำไร 4Q64 ดีต่อเนื่องหลังมีการเปิดเมือง ทำให้การเข้าร่วมประมูลของลูกค้าเต็นท์รถสูงขึ้น บวกกับบริษัท ยังกลับมาเปิดประมูลหน้าลานบางสาขา ซึ่งตรงกับช่วง High Season ที่ลูกค้าสถาบันการเงินมักเร่งจบประมูลในช่วงปลายปี
  • คงประมาณการกำไรปี 2564ข2565 แต่ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 13 บาท
  • แนะนำ “ซื้อ” ด้วย Upside จากราคาเป้าหมายและ Dividend Yield ที่ค่อนข้างสูง

กำไร 3Q64 ดีขึ้นตามคาด

AUCT รายงานรายได้และกำไรไตรมาส 3Q64 ที่ 221 ล้านบาท (+ 9.6% QoQ, + 14.9% YoY) และ 60 ล้านบาท (+ 32.3% QoQ, + 50.5% YoY) ตามลำดับ ตามที่คาดไว้ก่อนหน้าว่าจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H64 โดยมีประเด็นสำคัญคือ

1. รายได้จากการประมูล (86% ของรายได้รวม) อยู่ที่ 189 ล้านบาท (+8.5% QoQ, +16.0% YoY) โดยฟื้นตัวจาก 2Q64 ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายช่วยเหลือลูกหนี้ของสถาบันการเงิน ที่ทำให้ปริมาณรถเข้าประมูลลดลง บวกกับความกังวลต่อสถานการณ์ของลูกค้าเต็นท์รถ ที่ทำให้ลูกค้าชะลอการเข้าประมูล ซึ่งใน 3Q64 ปริมาณรถเข้าประมูลเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และยอดจบประมูลปรับตัวดีขึ้น

2. ต้นทุนการให้บริการอยู่ที่ 107 ล้านบาท (+3.6% QoQ, +8.0YoY) ปรับตัวขึ้นน้อยกว่ารายได้ ซึ่งเป็นผลจากการประหยัดจากขนาด ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอยู่ที่ 33 ล้านบาท (-9.5% QoQ, -12.5% YoY) ซึ่งลดลงจากการควบคุมค่าใช้จ่ายในช่วงปิดเมือง โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดและการโฆษณา สำหรับกำไรงวด 9M64 อยู่ที่ 174 ล้านบาท ดีขึ้น 7.4% YoY และคิดเป็นราว 73% ของประมาณการกำไรปี 2564 ที่คาดไว้เท่ากับ 240 ล้านบาท

คาด 4Q64 กำไรดีต่อเนื่อง หลังเข้า High Season

สำหรับแนวโน้ม 4Q64 เราคาดว่ากำไรจะปรับตัวดีขึ้น QoQ และ YoY โดยมี 3 ปัจจัยสำคัญ คือ (1) การเปิดเมืองทำให้เต็นท์รถเริ่มกลับมาประมูลรถตามปกติ (2) การกลับมาเปิดประมูลหน้าลานสำหรับสาขาที่สำนักงานใหญ่และคลอง 8 ปทุมธานีในช่วงกลางเดือน พ.ย. 64 และ (3) ปัจจัยฤดูกาลที่สถาบันการเงินมักเร่งจบประมูลรถในช่วงปลายปีก่อนเปลี่ยนปีปฏิทิน โดยคาดรายได้จากการประมูลจะปรับตัวขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายอาจปรับขึ้นน้อยกว่าโดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ที่ปัจจุบันทางบริษัทลงทุนกับสาขาน้อยลง และไปเน้นลงทุนในระบบออนไลน์มากขึ้น

ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 13 บาท

เรายังคงประมาณการกำไรปี 2564-2565 ที่ 240 ล้านบาท (+5% YoY) และ 264 ล้านบาท (+10% YoY) ตามลำดับ แต่ปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2565 ที่ 13 บาท จากราคาเป้าหมายปี 2564 ที่ 12 บาท อิงวิธี DCF (WACC = 7.5%, G = 3%) ราคาหุ้นปัจจุบันยังฟื้นตัวไม่มากเมื่อเทียบกับผลประกอบการที่มีแนวโน้มการฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ยังคาดปันผลจูงใจราว 4.4-4.9% เราจึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ความเสี่ยง ปริมาณรถยนต์ที่ถูกนำเข้ามาประมูล, การแข่งขันในตลาดรถมือสอง

- Advertisement -