KS Daily View 18.03.2025 >>> S&P 500 รีบาวด์ต่อ วันนี้ติดตามการประชุม ครม. มองกรอบ SET วันนี้ 1,160-1,180 จุด แนะนำ WHA, CENTEL

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ รีบาวด์ต่อหลังเข้าสู่การปรับฐาน (Correction) ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.85%, S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.64% และ Nasdaq Composite เพิ่มขึ้น 0.31% แรงหนุนมาจากตัวเลข Retail Sales ภาพรวมที่แม้จะเพิ่มขึ้น 0.2% MoM ต่ำกว่าคาด แต่ในกลุ่มของ Control Group ซึ่งใช้ในการคำนวณ GDP โดยเป็นรายงานที่ไม่รวมร้านอาหาร ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ร้านวัสดุก่อสร้าง และปั๊มน้ำมัน เพิ่มขึ้น 1% MoM มากกว่าคาดที่ 0.4% โดยมีหุ้นที่สามารถปิดบวกได้ 10 จาก 11 กลุ่ม นำโดยกลุ่ม Defensive และ Cyclical ในขณะที่กลุ่ม Consumer Discretionary ปรับตัวลงจาก Tesla ที่ลดลงราว 5% หลังจาก BYD เปิดตัวระบบแบตเตอรี่และการชาร์จใหม่ที่สามารถชาร์จรถไฟฟ้าระยะทาง 470 กิโลเมตรภายในเวลาเพียง 5 นาที

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,170.20 จุด ปรับตัวลง 3.56 จุด (-0.30%) Underperform ตลาดในภูมิภาคที่ส่วนมากปรับตัวขึ้น โดยกลุ่มุหุ้นใหญ่ล้วนปรับตัวลง มีเพียงกลุ่มพลังงานยกเว้นโรงไฟฟ้าที่ปรับตัวขึ้น ประเด็นในวันนี้ให้ติดตามการประชุม ครม. เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การผ่อนคลาย LTV, ร่างกฎหมาย Entertainment Complex และการส่งเสริมความเชื่อมั่นตลาดทุนจากโครงการ JUMP+ และ TISA เราประเมินตลาดน่าจะแกว่งตัวกรอบแคบและพยายามสร้างฐานที่ 1,160 – 1,180 จุด รอปัจจัยสำคัญอย่างการประชุม FOMC ช่วงกลางสัปดาห์

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. ยอดค้าปลีกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 0.2% MoM ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.6% โดย 7 จาก 13 หมวดหมู่สินค้ามียอดขายลดลง โดยเฉพาะยานยนต์ น้ำมัน อิเล็กทรอนิกส์ และเสื้อผ้า อย่างไรก็ตาม ยอดค้าปลีกในกลุ่มสินค้า Control Group ที่ไม่รวมร้านอาหาร ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ ร้านวัสดุก่อสร้าง และปั๊มน้ำมัน กลับเพิ่มขึ้น 1% MoM ซึ่งดีกว่าตลาดคาดที่ 0.4% โดย Control Group มีความสำคัญเนื่องจากใช้ในการคำนวณ GDP และบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายในสินค้าหลักยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์

2. Goldman Sachs ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน เนื่องจากผลกระทบจากภาษีนำเข้าที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัว และการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ โดยคาดว่าราคาน้ำมัน Brent จะอยู่ที่ 71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนธันวาคม ลดลง 5 ดอลลาร์จากคาดการณ์ก่อนหน้า และน้ำมัน WTI ที่ 67 ดอลลาร์ นอกจากนี้ยังปรับลดคาดการณ์การเติบโตของความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้ลง 18% เหลือ 900,000 บาร์เรลต่อวัน

3. OECD ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจโลกจากเดิมที่ 3.3% เหลือ 3.1% ในปี 2025 และ 3.0% ในปี 2026 สำหรับสหรัฐฯ ถูกปรับลดเหลือ 2.2% และ 1.6% ตามลำดับ จากเดิมที่คาดไว้ 2.4% และ 2.1% สาเหตุหลักมาจากนโยบายภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะส่งผลกระทบต่อการค้าและการลงทุน โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งถูกปรับลดคาดการณ์ลงอย่างมาก โดยแคนาดาถูกปรับจาก 2.0% เหลือ 0.7% และเม็กซิโกถูกปรับจากการขยายตัว 1.2% เป็นหดตัว 1.3% นอกจากนี้ OECD ยังปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เป็น 2.8% จากเดิม 2.1% ในปี 2025 โดยเตือนว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในหลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ จะยังคงสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลางจนถึงปี 2026

4. บอร์ดบีโอไออนุมัติส่งเสริมการลงทุน 4 โครงการใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 200,000 ล้านบาท ประกอบด้วยรถไฟฟ้าสายสีส้ม (BEM) มูลค่า 109,210 ล้านบาท และ Data Center 3 แห่งจากไทย จีน และสิงคโปร์ ได้แก่ GSA Data Center 02 (Gulf-Singtel-AIS) ลงทุน 13,480 ล้านบาทที่ชลบุรี, Beijing Haoyang Cloud Data ลงทุน 72,670 ล้านบาทที่ระยอง และ Empyrion Digital ลงทุน 4,720 ล้านบาทในกรุงเทพฯ โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีการลงทุน Data Center และ Cloud Service รวม 27 โครงการ มูลค่า 290,000 ล้านบาท

5. ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ลุ้นการประชุมครม. 18 มี.ค. 2568 เพื่อพิจารณาต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนและจดจำนอง 0.01% สำหรับที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท พร้อมเสนอมาตรการเพิ่มเติมคือการเลิก LTV ชั่วคราว 2 ปี และซอฟต์โลนจาก ธอส. วงเงิน 1-2 แสนล้านบาท ดอกเบี้ย 3% ระยะเวลา 3 ปี เนื่องจากปัจจุบันตลาดมียอดปฏิเสธสินเชื่อสูงถึง 40% โดยเฉพาะบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้านบาทที่ถูกปฏิเสธถึง 55-60% หวังมาตรการออกมาทันงานมหกรรมบ้านและคอนโด20-23 มี.ค.นี้

Daily pick

WHA : ราคาพื้นฐาน 4.72 บาท

เราคงมุมมองเชิงบวกต่อ WHA หลังจากมีการประกาศเลื่อนการเข้าจดทะเบียนของ WHAID ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งเคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ โดยให้เหตุผลว่าภาวะตลาดในปัจจุบันไม่เอื้อต่อบริษัท WHAID และผู้มีส่วนได้เสีย เราคาดว่าความต้องการในการซื้อที่ดินยังมีจำนวนมาก โดยคาดว่ายอดขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม (IE) ของไทยในไตรมาส 1/2568 จะใกล้เคียงกับ 717 ไร่ และ 758 ไร่ ในไตรมาส 3/2567 และไตรมาส 4/2567 นอกจากนี้ WHA อยู่ระหว่างการเจรจาอย่างจริงจังกับลูกค้ารายใหญ่สองรายที่ต้องการซื้อที่ดินนิคมอุตสาหกรรมขนาด 400 ไร่ และ 600 ไร่ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในไตรมาส 2/2568 โดย WHA เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมที่มีความต้องการสูง ได้แก่ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และ Data Center

CENTEL : ราคาพื้นฐาน 41.86 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ CENTEL จากการตั้งเป้าหมายให้ธุรกิจโรงแรมเติบโตราว 23% โดยมาจากรายได้เฉลี่ยต่อห้อง (RevPar) ประมาณ 4,500-4,800 บาท และอัตราการเข้าพักที่ 74-77% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่ระดับ 71% รวมถึงอัตราค่าห้องเฉลี่ย (ADR) ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7-10% สำหรับธุรกิจอาหาร บริษัทตั้งเป้ายอดขายสาขาเดิม (SSSG) เพิ่มขึ้นประมาณ 3-5% ในปี 2568 และมีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้น 50-70 สาขา คาดรายได้ธุรกิจอาหารจะเติบโตประมาณ 6-8% สำหรับธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2568 โดยมาจากกลุ่มโรงแรมระดับบนและหรูหรา (Centara Grand, Centara Reserve) และคาดว่า Centara Mirage Pattaya กับ Centara Karon จะเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจโรงแรมสำหรับปีนี้

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐรายงานจำนวนที่อยู่อาศัยเริ่มสร้าง (US Housing Starts) ของสหรัฐ เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.38 ล้านหลัง เร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.37 ล้านหลัง และ รายงานใบอนุญาตก่อสร้างบ้าน (US Building Permits) ของสหรัฐ เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.45 ล้านหลังหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 1.47 ล้านหลัง

วันพุธ ติดตามผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ต่อด้วยผลการประชุมของ Fed เรื่องดอกเบี้ยนโยบาย ตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับ 4.25-4.50% และคาดการณ์แนวโน้มของเศรษฐกิจของสหรัฐจากทางธนาคารกลาง

วันพฤหัสฯ ติดตามตัวเลขยอดขายบ้านมือสองในสหรัฐ (US Existing Home Sale) เดือน ก.พ. โดยตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 3.93 ล้านหลังปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.08 ล้านหลัง และ ตัวเลขจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของ สหรัฐ (Initial Jobless Claims) ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 2.20 แสนตำแหน่ง

วันศุกร์ ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของญี่ปุ่น (Japan Inflation) เดือน ก.พ. ตลาดคาดการณ์ที่ 3.60% YoY ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.0% YoY และ เงินเฟ้อที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ตลาดคาดการณ์ที่ 2.50% YoY ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า

- Advertisement -