AMR สุดยอดหุ้นเนื้อหอม ถูกดึงเข้าคำนวณ FTSE SET Index ในกลุ่ม Micro Cap ตอกย้ำปัจจัยพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เตรียมเพิ่มน้ำหนักลงทุน ด้านผลการดำเนินงานมั่นใจยังเติบโตต่อเนื่อง ชูธงปี 65 รายได้โต 40% พร้อมลุยประมูลงานใหม่มูลค่ากว่า 5.2 หมื่นล้านบาท เตรียมทุ่มงบ 1-2 พันล้านบาท ลุยโปรเจคใหม่เพิ่ม หวังสร้างรายได้ประจำ ดันผลงานเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ 

 

นายมารุต ศิริโก กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเอ็มอาร์ เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ AMR เปิดเผยว่า บริษัทได้รับการคัดเลือกจาก FTSE SET Index เข้าคำนวณในกลุ่ม Micro Cap ซึ่งเป็นดัชนีหลักทรัพย์ระดับนานาชาติ มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2564 ถือเป็นตอกย้ำให้เห็นว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วไป นักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจาก FTSE เป็นองค์กรที่ได้รับความน่าเชื่อถือระดับโลก ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก หลังเข้าระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างก้าวกระโดด และได้รับการยอมรับจากคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับเกณฑ์ที่ FTSE นำมาใช้ในการคำนวณ และคัดเลือกหลักทรัพย์ที่จะถูกคำนวณรวมในดัชนี FTSE SET นั้น ต้องผ่านเกณฑ์สภาพคล่องของจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายรายวันในแต่ละเดือนไม่ต่ำกว่า 0.05% ของจำนวนหุ้นที่ซื้อขายได้ในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 10 เดือน จาก 12 เดือน ก่อนวันที่พิจารณาทบทวนรายชื่อดัชนีในแต่ละรอบ โดยต้องผ่านเกณฑ์การกระจายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นรายย่อยมากกว่า 15% ขึ้นไป

“การที่ AMR ได้รับคัดเลือกจาก FTSE SET Index เข้าคำนวณในกลุ่ม Micro Cap จะทำให้หุ้น AMR ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเพิ่มขึ้น และเป็นหุ้นที่อยู่ในโฟกัสของนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ ในเรื่องของปัจจัยพื้นฐานของบริษัท มั่นใจว่ามีความแข็งแกร่งอย่างยิ่ง โดยภาระหนี้สินต่อทุนอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกัน มีกระแสเงินสดในมือที่พร้อมจะลงทุนได้ทันทีที่เห็นว่าเป็นโครงการที่มีศักยภาพในการสร้างกำไรและอัตราผลตอบแทนที่ดี” นายมารุต กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/64 คาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากจะรับรู้รายได้จากงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกประมาณ 400-500 ล้านบาท อีกทั้งยังมีงานใหม่ที่รอลงนามเพิ่มอีก 600-700 ล้านบาท ผลักดัน Backlog สำหรับสิ้นปี 2564 อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 149.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.4% จากปีก่อน โดยเป็นผลจากความสามารถทำกำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้นเป็น 29.6% จากอัตรา 22.4% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และยังสามารถลดต้นทุนคงที่ของธุรกิจลงได้ในอัตรา 2.5% เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ส่วนแผนการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 40% หรือคิดเป็นมูลค่า 2,000-2,500 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าการรับรู้รายได้ธุรกิจงานประมูลจะปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น หลังจากมีงานที่อั้นในปีนี้ออกมาจำนวนมาก โดยในปีหน้าบริษัทเตรียมจะเข้าประมูลงานใหม่มูลค่าประมาณ 52,000 ล้านบาท ซึ่งคาดหวังว่าจะได้รับงานใหม่ไม่ต่ำกว่า 3,000-4,000 ล้านบาท อีกทั้งจะเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจที่มีรายได้ประจำและธุรกิจพลังงานมากขึ้น

นอกจากนี้ AMR ยังเตรียมงบลงทุนปีหน้าไว้ประมาณ 1,000-2,000 ล้านบาท สำหรับใช้ขยายการลงทุนโครงการใหม่ ๆ เช่น ธุรกิจพลังงานทดแทน การให้บริการเคเบิลคาร์เพื่อการท่องเที่ยว และระบบสาธารณูปโภค เพื่อเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) สนับสนุนให้ธุรกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น

****************

- Advertisement -