บล.ทรีนีตี้:

ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง – ECL

กำไร 3Q64 อ่อนตัวน้อยกว่าคา ดส่วน 4Q64 อาจอ่อนตัวเล็กน้อย

  • กำไร 3Q64 อยู่ที่ 32 ล้านบาท อ่อนตัวเล็กน้อย 2% QoQ และ 5% YoY ดีกว่าคาด
  • สินเชื่อยังหดตัวต่อเนื่องจากการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวัง
  • ขณะที่ขาดทุนรถยึดลดลงตามแนวโน้มราคารถมือสองที่ดีขึ้น
  • ด้านค่าใช้จ่ายสำรองหนี้แม้เพิ่มขึ้น แต่แนวโน้ม NPL ดีขึ้นจากนโยบายสินเชื่อ
  • คาด 4Q64 กำไรอาจอ่อนตัวเล็กน้อย QoQ เนื่องจากมีลูกหนี้บางส่วนที่ถูกจัดชั้นเชิงคุณภาพ แต่สำรองที่เพิ่มอาจไม่มาก เนื่องจากมีการตั้งสำรองไว้บางส่วนแล้ว
  • ปรับประมาณการกำไรปี 2564-2565 ขึ้นราว 24% และ 12% จากประมาณการเดิม เพื่อสะท้อนแนวโน้มสำรองหนี้ที่ลดลง
  • ประเมินราคาเป้าหมายปี 65 ใหม่ที่ 2.30 บาท ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรงเกินพื้นฐาน จึงปรับคำแนะนำเป็น “ขาย” จากเดิมแนะนำ “ถือ”

แนวโน้มกำไร 3Q64 อ่อนตัวน้อยกว่าคาด

ECL รายงานกำไรสุทธิ 2Q64 ที่ 32 ล้านบาท อ่อนตัวเล็กน้อย 2% QoQ และ 5% YoY ดีกว่าก่อนหน้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากโรคระบาดและการปิดเมือง โดยมีประเด็นสำคัญคือ

1. สินเชื่ออ่อนตัวลงราว 5.6% 20% ซึ่งเป็นผลจากการปล่อยสินเชื่อในเชิงระมัดระวัง เน้นการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มลูกหนี้คุณภาพ ขณะที่ Spread ดีขึ้นราว 30 bps จาก 2Q64 แม้ว่าการแข่งขันในกลุ่มลูกหนี้คุณภาพจะสูงขึ้น แต่การเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อรถบรรทุกซึ่งให้ผลตอบแทนสูง ทำให้อัตราผลตอบแทนโดยรวมดีขึ้น

2. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 4% QoQ และ 38% YoY โดยหลักเป็นการลดลงของขาดทุนจากการขายรถยึด เนื่องจากราคารถมือสองในตลาดปรับตัวดีขึ้น ตามภาวะเศรษฐกิจที่ผู้ซื้อหันมาซื้อรถมือสองมากขึ้น เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งสถาบันการเงินยังชะลอการยึดรถ ทำให้ปริมาณรถมือสองในตลาดลดลง

3. ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้เพิ่มขึ้น 17% QoQ และเพิ่มขึ้นจากที่มีกลับสำรองหนี้ 2 ล้านบาทใน 3Q63 แต่ในด้านสัดส่วน NPL อยู่ที่ 6.6% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 2Q64 ที่ 6.3% ซึ่งในแง่ของมูลค่า NPL ลดลง แต่สินเชื่อลดลงมากกว่า ขณะที่แนวโน้มดีขึ้นชัดเจนจาก 3Q63 ที่ 7.7%

คาด 4Q64 กำไรอาจลดลงเล็กน้อย

เราคาดกำไร 4Q64 อาจลดลงเล็กน้อย โดยแนวโน้มสินเชื่อยังหดตัวในอัตราใกล้เคียงเดิม เนื่องจากบริษัทยังระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อใหม่ ทำให้คาดไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังมีลูกหนี้บางส่วนที่อยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวต้องถูกบันทึกเป็น NPL ในช่วงปลายปี อย่างไรก็ตาม แนวโน้ม 3Q64 ที่ดีกว่าคาด และ 4Q64 อาจอ่อนตัวลงไม่มาก ทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2564-2565 ขึ้นจากประมาณการเดิมราว 24% และ 12% มาอยู่ที่ 150 ล้านบาท (+143% YoY) และ 164 ล้านบาท (+9% YoY) ตามลำดับ โดยปรับลดคาดการณ์ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ลง เพื่อสะท้อนแนวโน้มคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้นจากการปล่อยสินเชื่อในเชิงระมัดระวัง โดยรายละเอียดของการปรับลดประมาณการอยู่ใน Figure 2

ความเสี่ยง: ความเสี่ยงจากการเติบโตของเศรษฐกิจ / ความเสี่ยงจากคุณภาพหนี้

ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรง แนะนำ “ขาย”

จากการปรับประมาณการ เราจึงประเมินราคาเป้าหมายใหม่พร้อมปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 2.3 บาท อิง Justified PBV 1.3 เท่า (ปรับสมมติฐาน ROE ระยะยาวขึ้นเป็น 11% จากเดิม 10.4%) จากราคาเป้าหมายปี 64 เดิมที่ 2.0 บาท อิง Justified PBV 1.2 เท่า อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างร้อนแรง ขณะที่ผลประกอบการแม้มีแนวโน้มที่ฟื้นตัวจากสำรองหนี้ที่ลดลง แต่ยังถูกจำกัดด้วยการเติบโตของสินเชื่อ ทำให้กำไรและ ROE ยังไม่ซื้อฟื้นตัวเต็มที่ เราจึงปรับคำแนะนำเป็น “ขาย” จากเดิมแนะนำ “ถือ”

- Advertisement -