TKC จัดโรดโชว์แสดงวิสัยทัศน์ ความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการออกแบบ วางระบบ และบริการที่เกี่ยวข้องในงานวิศวกรรมสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะ นำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO เพื่อแนะนำธุรกิจและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน โดยมี “ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่” เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ชูศักยภาพการเติบโตของ TKC และโอกาสทางธุรกิจ จากเทรนด์เทคโนโลยี เปลี่ยนโลกการสื่อสารยุคใหม่ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการวางโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ลูกค้าทั้งภาครัฐ เอกชน มุ่งสู่ Digital Business เป็นผู้นำในการสร้างโครงข่าย 5G และ IoT ในอนาคต

 

นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ  บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ TKC เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยได้นำเสนอข้อมูลธุรกิจในงานโรดโชว์ เพื่อให้นักลงทุนได้รับทราบเกี่ยวกับรายละเอียดของการดำเนินธุรกิจ จุดเด่น และโอกาสการเติบโตของบริษัทในอนาคต ก่อนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) ในช่วงต้นปี 2565

สำหรับ TKC เป็นผู้เชี่ยวชาญและชำนาญด้านการวางระบบเครือข่ายสื่อสารและเทคโนโลยี ดำเนินธุรกิจให้บริการรับเหมาออกแบบ วางระบบ จัดหาอุปกรณ์ ติดตั้ง ทดสอบ และบำรุงรักษาระบบงานวิศวกรรมในสายงานระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และ ระบบความปลอดภัยสาธารณะ โดยบริษัทเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเจ้าของผลิตภัณฑ์โทรคมนาคม และเครือข่ายสารสนเทศชั้นนำระดับโลก เช่น Huawei, Nokia, Cisco, Verint, Oracle, Netka System, XOVIS, Fortinet เป็นต้น ให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

ทั้งนี้ ลักษณะการให้บริการแบ่งเป็น 3 กลุ่มงาน ได้แก่ โครงการรับเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey Project หรืองานโครงการ) งานบริการวิศวกรรมและงานบำรุงรักษา และงานจัดจำหน่ายอุปกรณ์  โดยบริษัทจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบโทรคมนาคม ระบบสื่อสารข้อมูล และระบบความปลอดภัยสาธารณะ สินค้าที่จำหน่ายเป็นสินค้าจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลกที่บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรทางธุรกิจ โดยบริษัทถือหุ้นในบริษัทย่อย 2 แห่งคือ บริษัท ไอบีเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (IBS) และบริษัท พาราไดม์ เทคโนโลยี เซอร์วิส จำกัด (PTS) ซึ่งประกอบธุรกิจที่เสริมธุรกิจของบริษัท โดยโครงสร้างรายได้ในงวด 9 เดือนแรกปี 2564 มาจากงานโครงการมากกว่า 64% รายได้จากงานบริการและบำรุงรักษากว่า 35% ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากงานจัดจำหน่าย

“TKC อยู่ระหว่างการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 78 ล้านหุ้น คิดเป็น 26% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจของบริษัท เช่น โครงการเกี่ยวกับระบบโทรคมนาคม ระบบโครงข่ายสื่อสัญญาณ ระบบศูนย์ข้อมูลหลัก ศูนย์ข้อมูลสำรอง ระบบคลาวด์ Smart Solutions ระบบวิทยุสื่อสารดิจิทัลและระบบตรวจสอบเฝ้าระวังและการบริหารความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ (Cyber Security) รวมถึงงานบริการเพื่อสร้างรายได้ต่อเนื่อง เป็นต้น” นายสยาม กล่าว

นางสาวเดือนพรรณ ลีลาวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนีย แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ปัจจัยที่ส่งเสริมศักยภาพการเติบโตของ TKC  ด้วยจุดแข็งและกลยุทธ์ในความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ จากจุดเริ่มต้นในการเป็นผู้รับเหมามาก่อน ทำให้ TKC สามารถบริหารต้นทุนได้ดีกว่าคู่แข่ง และการมีทีมวิศวกรที่มีทักษะในองค์กร ทำให้บริษัทสามารถแข่งขันได้ ทั้งในแง่ความสามารถในการบริการและราคา รวมถึงมีการดูแลและการให้บริการหลังการขายที่สร้างความพึงพอใจ และความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่น ไว้ใจและกลับมาใช้บริการ การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของ TKC ในครั้งนี้ จึงเป็นการสนับสนุนและพัฒนาเปลี่ยนแปลงสู่เทคโนโลยี 5G ตามความต้องการใช้งานทางด้าน IoT AI ระบบคลาวด์ และโซลูชั่นส์อัจฉริยะต่างๆ เป็นต้น เพื่อรองรับโอกาสเติบโตในอนาคต

ขณะที่ผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2561-63) บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,669.65 ล้านบาท 4,907.25 ล้านบาท และ 2,881.92 ล้านบาท ตามลำดับ มีกำไรสุทธิ 216.50 ล้านบาท 423.03 ล้านบาท และ 232.85 ล้านบาท ตามลำดับ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 มีรายได้รวม 1,832.85 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเพิ่มขึ้นร้อยละ 20.04 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ 191.07 ล้านบาท

นายวรนันท์ ถาวรนันท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน TKC อยู่ในช่วงของการโรดโชว์นำเสนอข้อมูลสรุปการเสนอขายหุ้น IPO กับนักลงทุนรายย่อย โดยคาดว่าจะมีการกำหนดราคา IPO และเสนอขายต่อนักลงทุนทั่วไป ในช่วงต้นปี 2565 ตามแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  (SET) หมวดเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

*********

- Advertisement -