ตลาดหุ้นสหรัฐฯเห็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนโดยเปลี่ยนกลุ่ม (Sector Rotation) จากหุ้นกลุ่ม growth สู่หุ้นกลุ่ม value หลังตลาดรับความคาดหวัง Fed ขึ้นดอกเบี้ยปีหน้า 3 ครั้งและระดับ Valuation ที่ค่อนข้างแพงในช่วงที่ผ่านมา เราคาดว่าแนวโน้มการทำ sector rotation จะเกิดขึ้นกับตลาดหุ้นเอเชียรวมถึงไทยเช่นกัน ซึ่งเราอาจเห็น sentiment หนุนในกลุ่ม value เช่นกลุ่มธนาคารและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25% ถึงแม้ว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนพุ่งขึ้นสู่ระดับ 4.9% YoY ในเดือนพ.ย. สูงสุดในรอบ 25 ปีและสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 4.5% นอกจากนี้ทาง ECB จะลดวงเงินซื้อพันธบัตรในโครงการ Pandemic Emergency Purchase Program (PEPP) และจะยุติโครงการดังกล่าวในเดือนมี.ค.2565 อย่างไรก็ตาม ECB ประกาศจะเพิ่มวงเงินซื้อพันธบัตรเป็น 4 หมื่นล้านยูโร/เดือนภายใต้โครงการ Asset Purchase Program (APP) ในไตรมาส 2 ของปีหน้าจากระดับปัจจุบันที่ซื้อเดือนละ 2 หมื่นล้านยูโรและลดวงเงินสู่ระดับ 3 หมื่นล้านยูโรในไตรมาส 3 ขณะที่คงวงเงินที่ระดับ 2 หมื่นล้านยูโรตั้งแต่เดือนต.ค.2022 นานเท่าที่จำเป็นเพื่อรักษาสภาพคล่องในตลาด เพื่อช่วยชดเชยการยุติโครงการ PEPP พยายามทำให้การเปลี่ยนผ่านนโยบายการเงินเป็นไปอย่างราบรื่นที่สุด

โดยสรุป ECB ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้า รวมถึงแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะพยายามทำให้การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินเป็นไปอย่างราบรื่นเท่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นนโยบายการเงินจะยังสนับสนุนเศรษฐกิจและการลงทุนในยุโรปต่อไปอย่างน้อยใน Q122

ผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) โดยมีมติ 8-1 เสียงในการประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% ในการประชุมวันนี้เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ หลังรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พุ่งขึ้น 5.1% YoY ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 4.7% แต่ที่น่าสนใจคือ BOE ยังมีมติ 9-0 เสียง สนับสนุนการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงิน 8.75 แสนล้านปอนด์ เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด ทั้งนี้ BOE นับเป็นธนาคารกลางขนาดใหญ่แห่งแรกของโลกที่ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดโควิด

ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น BOJ ในวันศุกร์ ซึ่งเราคาดว่า BOJ จะยังคงดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายต่อไป ขณะที่เงินเฟ้อยังไม่ใช่ปัญหาสำหรับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งติดอยู่กับสภาวะเงินฝืดมาอย่างยาวนาน การมีเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอาจช่วยสนับสนุนการบริโภคภายในประเทศมากขึ้น

มุมมองตลาดหุ้น คาด SET 1640-50 แนะนำ OSP BAM

Top pick:

OSP (ราคาพื้นฐาน 38.00 บาท). คาดกำไรสุทธิเติบโตขึ้น QoQ ในไตรมาส 4 หนุนจากอุปสงค์ในประเทศและต่างประเทศที่ฟื้นตัวขึ้นจากการเปิดเมืองและมาตรการกระตุ้นการบริโภคจากภาครัฐ.

BAM (ราคาพื้นฐาน 24.00 บาท). คาดกำไร 4Q21 ดีขึ้น YoY และ QoQ จากการเก็บเงินสดได้สูงขึ้นและยอดขาย NPA/NPL ก้อนใหญ่ นอกจากนี้เราชอบแผนการเก็บเงินกู้แบบไม่มีหลักประกันจากพิร์ตที่มีอยู่ เนื่องจากจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนและกำไรในปี 65 รวมถึง sentiment บวก จากการจัดตั้ง JV กับธนาคารพาณิชย์ที่มีความคืบหน้ามากขึ้น.

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันศุกร์ ติดตาม การประชุม BOJ คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ -0.1% ตัวเลข Retail sales ของอังกฤษเดือน พ.ย. คาด +1.5% MoM ดัชนี Info business climate ของเยอรมันเดือน ธ.ค. คาด 95.4 จุด (-1.1% MoM) ตัวเลขดัชนี CPI ของยูโรโซน เดือน พ.ย. คาด +0.5% MoM และ +4.9% YoY

- Advertisement -