บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

MINOR INTERNATIONAL อาจมีสะดุดบ้าง … แต่โอกาสฟื้นปี 2565 ยังสูง

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +37.0%

Close Dec 16, 2021 Price (THB) 29.75

12M Target (THB) 40.75

Previous Target (THB) 40.75

What’s new?

  • เราคาดผลประกอบการจากธุรกิจ Food จะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด SSSG ในเดือน ต.ค. 64 กลับมาเติบโต YoY ซึ่งจะช่วยหนุนกระแสเงินสดของ MINT มีความแข็งแกร่งมากย่ิงขึ้น
  • การฟื้นตัวปี 2565 เราคาด 1H65 จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป ถ้าไม่มีสายพันธุ์ใหม่ท่ีน่ากลัวออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่ือว่าคนจะเร่ิมใช้ชีวิตอยู่กับโควิดและใน 2H65 จะเห็นการฟื้นตัวแบบมีนัยสำคัญจากการกลับมาของนักท่องเท่ียวต่างชาติ

Our View

  • ความเสี่ยงระยะสั้นคือการ Lockdown เพิ่มเติมในประเทศโซนยุโรป แต่จากประสบการณ์ของการระบาดรอบท่ีผ่านมา เช่ือว่าบริษัทฯ มีการปรับตัวและมีสถานะทางการเงินท่ีแข็งแกร่งพอจะบริหารจัดการได้ คาดไม่เห็นผลกระทบท่ีรุนแรงเหมือนท่ีผ่านมา
  • คงคำแนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 40.75 บาทต่อหุ้น อิง EV/EBITDA ท่ี 12x เทียบเท่ากับ +1.0SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี เรายังให้ MINT เป็นตัวเลือกเด่นกลุ่ม Tourism

การระบาดระลอกใหม่ในยุโรป และความกังวลต่อสายพันธุ์ Omicron คือ Noise

ยุโรปมีแนวโน้มผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย. 64 เป็นต้นมา ส่วนสายพันธุ์ใหม่ Omicron ซึ่งมีการกลายพันธุ์ในหลายตำแหน่ง ทำให้ประสิทธิภาพในการป้องกันของวัคซีนลดลง มีแนวโน้มสูงที่เชื้อ Omicron จะระบาดมากขึ้น จนแซงสายพันธุ์ Delta ปัจจุบันมีการพบผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์ชนิดนี้ในหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ประเทศต่างๆต้องกลับมายกระดับมาตรการรับคนต่างชาติเข้าประเทศอีกครั้ง และกลับมาเร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นหรือเข็มที่ 3 เป็นมาตรการรับมือเร่งด่วน ยุโรปกำลังเป็นศูนย์กลางการระบาดรอบใหม่ โดยเฉพาะบริเวณยุโรปโซนกลางอย่างเยอรมัน เบลเยี่ยม และออสเตรีย แต่สัดส่วนโรงแรมหลักในยุโรปของ MINT อยู่ที่สเปนและอิตาลี ซึ่งยังเป็นประเทศที่สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดได้ รวมทั้งยังไม่มีการออกมาตรการควบคุมที่เข้มข้น เรามองว่าแนวโน้มการระบาดจากสายพันธุ์ Omicron มีโอกาสทำให้ตัวเลขการเดินทางท่องเที่ยวลดลงบ้าง แต่ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนว่าคนส่วนใหญ่ก็ยังพร้อมออกไปท่องเที่ยวอยู่ แต่ก็มีโอกาสที่ตัวเลขการเดินทางจะปรับตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ หากรัฐบาลออกมาตรการ Lockdown หรือทยอยปิดประเทศกันอีกครั้ง แต่เราคาดโอกาสเกิดขึ้นเพราะต่อจากนี้รัฐบาลต่างๆจะกลับมาให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่า ผู้คนจะเรียนรู้และปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับ COVID-19 ให้ได้

ธุรกิจ Food ฟื้นตัวได้ดี … หนุนกระแสเงินสดให้แข็งแกร่ง

รายได้ของธุรกิจอาหารมีสัดส่วนหลักจากไทย 52%, จีน 23% และออสเตรเลีย 12% เราคาดผลประกอบการจะฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อิงตัวเลข SSSG ในเดือน ต.ค. 54 กลับมาเติบโต YoY ได้แล้ว โดยมาจากการฟื้นตัวในไทยเป็นหลัก หลังจากคลาย Lockdown ส่วนธุรกิจในจีนและออสเตรเลียยังเผชิญกับการ Lockdown ในบางพื้นที่ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักของธุรกิจอาหารเป็นตลาด Domestic ไม่จำเป็นต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติ ดังนั้น แม้จะมีการระบาดของโรคและอาจมีการระบาดเพิ่มเติมของสายพันธุ์ Omicron เป็นประเด็นที่ต้องติดตาม แต่หากประเทศไทยจีนและออสเตรเลียไม่มีการออกมาตรการ Full Lockdown เราคาดธุรกิจอาหารจะกลับสู่ภาวะปกติในปี 2565 จากความพยายามใช้ชีวิตร่วมกับ COVID-19 ของประชาชนในแต่ละประเทศ ภาพการฟื้นตัวของธุรกิจอาหารจะช่วยหนุนกระแสเงินสดของ MINT ให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในช่วงเวลาที่ธุรกิจโรงแรมยังรอคอยนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ภาพการฟื้นตัวปี 2565 … ลุ้นการฉีดเข็มกระตุ้น และยารักษา COVID-19

ในระยะสั้น สายพันธุ์ Omicron เป็นประเด็นที่ใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อภาพการฟื้นตัวของกลุ่มท่องเที่ยวที่อาจชะลอตัวลงเล็กน้อย จากความวิตกกังวลของนักท่องเที่ยว ทั้งในและต่างประเท ศรวมทั้งอาจมีข้อจำกัดในการเดินทางมากขึ้น คาด MINT อาจเห็นผลกระทบบ้างในช่วง 4Q64-1Q65 เนื่องจากมีสัดส่วนโดยตรงในยุโรปที่กำลังเป็นศูนย์กลางการระบาด

อย่างไรก็ดี เรายังไม่เห็นรายงานโอกาสในการเสียชีวิตสูงหรือมีอาการรุนแรง ยังเป็นเพียงการระบาดที่เกิดอย่างรวดเร็ว หากสถานการณ์ทรงตัวหรือมีการยืนยันถึงความไม่รุนแรงของโรค อาจทำให้ความวิตกกังวลของนักท่องเที่ยวคลี่คลายลง

บนประมาณการปี 2565 เราตั้งสมมติฐานว่าภาพการฟื้นตัวของ MINT ช่วง 1H65 จะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากยังเป็นช่วงแก้ปัญหา Omicron ทั่วโลก ต้องเร่งการฉีดเข็มบูสเตอร์หรืออาจมีปรับสูตรวัคซีนให้ป้องกัน Omicron แต่ถ้าไม่มีสายพันธุ์ใหม่ที่น่ากลัวออกมาอย่างต่อเนื่อง เราเชื่อว่าคนจะเริ่มใช้ชีวิตอยู่กับโควิดได้แล้ว และใน 2H65 จะเห็นการฟื้นตัวแบบมีนัยสำคัญ หนุนจากการเข้าสู่ High Season และการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติในยุโรปที่เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นต่อเนื่อง

แนะนำ “ซื้อ” ด้วยราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 40.75 บาท

เราคงประมาณการปี 2565 ท่ีกำไรปกติ 1.4 พันล้านบาท และคงคำแนะนำ ซื้อ บนราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 40.75 บาทต่อหุ้น อิง EV/EBITDA ที่ 12x เทียบเท่า +1.0SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

เราเลือก MINT เป็นตัวเลือกเด่นของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว แม้เรามองว่าความเสี่ยงระยะสั้นคือการ Lockdown เพิ่มเติมในประเทศโซนยุโรป แต่จากประสบการณ์ของการระบาดรอบท่ีผ่านมา เช่ือว่าบริษัทฯมีการปรับตัว และมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งพอจะบริหารจัดการได้ คาดไม่เห็นผลกระทบท่ีรุนแรงเหมือนที่ผ่านมา

เรายังคงมุมมองในระยะยาวว่ากลุ่มท่องเท่ียวยังมีโอกาสฟื้นตัวเด่นในยุค Post COVID-19 เรามองว่าราคาหุ้นท่ีระดับ +/- 30.00 บาท สะท้อนความกดดันจากการกลายพันธุ์และการระบาดระลอกใหม่ไปแล้ว เชิงกลยุทธ์ นักลงทุนอาจใช้จังหวะนี้ในการทยอยสะสมและพิจารณาเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ หาก WHO หรือผู้ผลิตยาและวัคซีนออกมายืนยันความไม่รุนแรงของสายพันธุ์ Omicron และประกาศความพร้อมในการรับมือการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ได้ชัดเจน

ความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) การระบาดของสายพันธุ์ใหม่ ที่อาจทำให้หลายประเทศต้องออกมาตรการ Full Lockdown อีกครั้ง และ 2) การปรับปรุงประสิทธิภาพของวัคซีนและยาที่สามารถรักษา COVID- 19 ได้ เกิดขึ้นล่าช้ากว่าคาด

- Advertisement -