ผถห. SA พร้อมใจอนุมัติจ่ายปันผล 0.08 บ./หุ้น กางแผนปี 68 เร่งปั้นโครงการสีเขียวรับดีมานด์อนาคต พร้อมโชว์ Backlog หนา 5.2 พันลบ.
ผู้ถือหุ้น บมจ.ไซมิส แอสเสท หรือ SA ไฟเขียวปันผลเป็นเงินสด 0.08 บาท/หุ้น กำหนดจ่าย 23 พ.ค.นี้ พร้อมลุยปี 68 เดินหน้าขยายโครงการ Branded Residence และ Mixed Use พร้อมปั้นรายได้ประจำจากโรงแรม-บริการ ตามแนวคิด “THE SUSTAINOVATIVE LIVING” ล่าสุดตุนยอดขายรอรับรู้รายได้กว่า 5.2 พันล้าน รองรับการเติบโตในปี 68-69
นางสาวรีย์ฐิตา อักษรจิรารัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชี บริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด (มหาชน) (SA) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรภายใต้แนวคิด “Asset of Life สร้างกำไรให้กับทุกการใช้ชีวิต” เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2567 ในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดจ่ายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568
สำหรับปี 2567 บริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตโดดเด่น รายได้รวมเพิ่มขึ้นถึง 137.56% จากปีก่อนหน้า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 74.47% โดยมีรายได้หลักจากโครงการแนวสูงในสัดส่วน 78.62% และโครงการแนวราบ 21.38% อีกทั้งยังมีรายได้ประจำจากธุรกิจโรงแรมและบริการอื่นๆ รวมคิดเป็นประมาณ 13.4% ของรายได้รวม และโรงแรมในเครือมีรายได้เติบโตกว่า 67% อาทิ Cassia Rama 9 Bangkok, Tribe Living Bangkok Sukhumvit 39, Wyndham Bangkok Queen Convention Centre, Wyndham Garden Sukhumvit 42, Ramada Plaza by Wyndham Bangkok Sukhumvit 48 และ Ramada by Wyndham Bangkok Sukhumvit 87
ในส่วนแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ เดินหน้าสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำด้านที่อยู่อาศัยอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “THE SUSTAINOVATIVE LIVING” โดยตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากโครงการแนวสูง 70% แนวราบ 20% และรายได้ประจำ 10% ภายในปี 2569 พร้อมเร่งพัฒนาโครงการ Branded Residence และ Mixed Use อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น โรงแรม ร้านอาหาร และบริการสุขภาพ เพื่อรองรับความต้องการของตลาดเช่าและสร้างรายได้ที่มั่นคง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนำนวัตกรรมสีเขียวมาใช้ในทุกโครงการ เช่น ระบบ Air of Life, Solar Rooftop และ EV Charger พร้อมมุ่งมั่นให้ทุกโครงการผ่านการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว EDGE ซึ่งไม่เพียงช่วยลดพลังงานได้กว่า 40% แต่ยังสะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ขณะที่ปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่กว่า 5.2 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ในช่วงปี 2568-2569