KS Daily View 29.04.2025 >>> Thai ESGX เริ่มซื้อ 2 พ.ค. นี้ ! ลดแรงขาย LTF คาดบวกต่อ SET มองกรอบ SET วันนี้ 1,150-1,170 จุด แนะนำ BJC, DELTA

แนวโน้มตลาดหุ้นในประเทศวันนี้: ตลาดสหรัฐฯ ปิดผสมผสาน ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.06%, Nasdaq Composite ลดลง 0.10% และ Dow Jones เพิ่มขึ้น 0.28% ตลาดรอการรายงานผลประกอบการของหุ้นเทคฯ ใหญ่ 4 บริษัท ได้แก่ Microsoft, Meta, Amazon และ Apple รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญช่วงกลางสัปดาห์

ตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,159.53 จุด แทบไม่เปลี่ยนแปลง โดยดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ และยังคงติดตามสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่วนกองทุน Thai ESGX ที่จะเริ่มเปิดให้ลงทุนในวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคมนี้ เบื้องต้นเรามีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการดังกล่าว และประเมินว่ากองทุนใหม่นี้อาจจะสามารถระดมทุนได้ในระดับ 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท โดยมีสัดส่วนลงทุนในหุ้น ESG ไม่ต่ำกว่า 65% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 6.5 พันล้านบาทถึง 1 หมื่นล้านบาท โดยเราคาดทุกๆ 1 หมื่นล้านบาท จะส่งผลบวกต่อ SET Index ในระดับ 25-30 จุด  ในขณะที่เราคาดว่าจะมีคนใช้สิทธิโอน LTF จากปัจจุบันระดับ 25-50% (จากเม็ดเงิน 1.5 แสนล้านบาท) ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เป็นเม็ดเงินใหม่ แต่ในทางอ้อมจะช่วยลดแรงขายฝั่ง LTF ซึ่งหากนับจากช่วงต้นปีถึงปัจจุบันขายสุทธิไปแล้วกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท สำหรับวันนี้เราประเมินตลาด Sideways ในกรอบ 1,150 – 1,170 รอติดตามการประชุม กนง. วันพรุ่งนี้ โดยตลาดคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 25 bps หุ้นแนะนำ BJC, DELTA

ประเด็นสำคัญที่เป็นกระแสในช่วงนี้และมีผลต่อการลงทุน:

1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ สก็อตต์ เบสเซนท์ ระบุว่าจีนควรเป็นฝ่ายผ่อนคลายสงครามการค้าก่อน เนื่องจากจีนส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ มากกว่าที่สหรัฐฯ ส่งออกไปจีนถึง 5 เท่า ทำให้การเก็บภาษีนำเข้า 125% ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ในระยะยาว แม้จีนจะแสดงท่าทีผ่อนคลายด้วยการยกเว้นภาษีสินค้าบางรายการ แต่สหรัฐฯ ก็พร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมรวมถึงการคว่ำบาตรหากจำเป็น ขณะนี้สหรัฐฯ หันไปเจรจาการค้ากับประเทศอื่น 15-17 ประเทศแทน โดยคาดว่าอินเดียอาจเป็นประเทศแรกที่จะได้ข้อตกลง

2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ประกาศแผนพัฒนาสำคัญ 2 โครงการในภาคอีสาน ได้แก่ การขยายถนนนาคาวิถีเลียบแม่น้ำโขงด้วยงบประมาณเพิ่มเติม 2,266.5 ล้านบาท เพื่อขยายเส้นทางอีก 140 กิโลเมตร โดยแบ่งเป็นระยะที่ 2 และ 3 คาดแล้วเสร็จปี 2573 และการยกเลิกแผนสร้างสนามบินมุกดาหาร โดยหันไปใช้สนามบินสะหวันนะเขตของลาวแทน ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางเพียง 10 นาทีจากมุกดาหาร คาดว่าจะเห็นความคืบหน้าเป็นรูปธรรมในปี 2569

3. กองทุน Thai ESGX จะเริ่มเปิดให้ซื้อขายในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 โดยมีกองทุนรวม 37 กองทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน 19 แห่ง ตั้งเป้าระดมทุนไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีทั้งสำหรับการลงทุนใหม่และการสับเปลี่ยนจากกองทุน LTF มาเป็น Thai ESGX โดยผู้ลงทุนสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ตั้งแต่วันที่ 13 พฤษภาคม ถึงมิถุนายน 2568 และสามารถตรวจสอบข้อมูลการถือครองหน่วยลงทุน LTF ทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ตลาดหลักทรัพย์ฯ

4. กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568การแก้ไขกฎหมายนี้จะช่วยให้ รฟม. สามารถนำรายได้มาสนับสนุนระบบตั๋วร่วมและชดเชยส่วนต่างค่าโดยสารให้กับผู้ประกอบการ โดยตั้งเป้าให้นโยบายนี้เริ่มใช้ได้ภายในเดือนกันยายน 2568

5. บีโอไอจะเสนอปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุนในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ์ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ โดยจะเพิ่มความเข้มงวดในการกำหนดให้ผู้ผลิตต้องใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local Content) ในสัดส่วนที่สูงขึ้น และผู้ลงทุนจะต้องกระจายตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่นเพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลของสหรัฐฯ และป้องกันการใช้ไทยเป็นทางผ่านในการเลี่ยงภาษีนำเข้า

Daily pick

BJC: ราคาพื้นฐาน 26.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ BJC จากการคาดการณ์งบไตรมาส 1 ปี 2568 ที่กำไรมีโอกาสเติบโตระดับ 156% YoY จากค่าใช้จ่ายพิเศษทางภาษีที่หายไปและการเติบโตของ SSSG ที่ระดับ 2.1% ในไตรมาส 1 ปี 2568 เติบโตจากส่วนของอาหารสดและอาหารแห้งเป็นหลัก จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาในไตรมาสแรกปี 2568 รวมถึงยอดขายที่ปรับตัวดีขึ้นในพื้นที่ท่องเที่ยว โดยในไตรมาสที่ผ่านมามีการเปิดสาขาเพิ่มขึ้น 1 สาขาใหญ่และ 16 สาขาสำหรับ Mini Big C นอกจากนี้เราคาดกำไรขั้นต้นจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอีก 30 basis points ของทั้งบริษัท และคาดจะสามารถรักษาสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายได้ในระดับใกล้เคียงเดิมเมื่อเทียบกับปีก่อน จากแผนการควบคุมค่าใช้จ่าย

DELTA : ราคาพื้นฐาน 87.00 บาท

เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ DELTA จากการประชุมที่ผ่านมา โดยประเด็นสำคัญเป็นไปในเชิงบวก บริษัทได้ยืนยันเป้าหมายการเติบโตของรายได้หลักที่ 10-15% และอัตรากำไรขั้นต้น (GPM)ที่ 25-26% ปัจจัยหลักขับเคลื่อนการเติบโตในปี 2568 จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ข้อมูลและ AI ซึ่งคาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่เหนือกว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ DELTA รายงานว่ามีความต้องการจากลูกค้าในสหรัฐฯ สูงในเดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 2/2568 โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ปกติที่เร่งตัวขึ้นจากการเติมสต๊อกสินค้าและคำสั่งซื้อที่แข็งแกร่งสำหรับระบบไฟฟ้าศูนย์ข้อมูลและ AI ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของอัตรากำไรขั้นต้น เราคาดว่ายอดขายในกลุ่มนี้จะเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของค่าใช้จ่ายการลงทุน (Capex)ของผู้ให้บริการคลาวด์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 28% YoY ในปี 2568 นอกจากนี้ เรายังคาดว่ายอดขายระบบไฟฟ้ากระแสตรงสำหรับ GPU จะเติบโตสอดคล้องกับการเติบโตของรายได้ของ NVIDIA ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 50% YoY

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ

วันอังคาร ติดตามยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย (Thailand Care Sale) เดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 49,313 คัน ต่อด้วยตัวเลขตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่ของสหรัฐอเมริกา (JOLTS Job openings) เดือน มี.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 7.57 ล้านตำแหน่ง

วันพุธ ติดตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีน (China NBS Manufacturing PMI) เดือน เม.ย. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 50.5 จุด ต่อด้วยการประชุม กนง. ของไทย โดยตลาดคาดจะลดดอกเบี้ย 25 bps สู่ระดับ 1.75% และตัวเลขส่งออก (TH Exports) ของ ธปท. เดือน มี.ค. เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 13.9% YoY และตัวเลขนำเข้า (TH Imports) เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ 4.1% YoY ปิดท้ายด้วยการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา GDP 1Q25 ตลาดคาดที่ +0.4% QoQ ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนหน้าที่ +2.4%

วันพฤหัสฯ ติดตามผลการประชุมของ BoJ โดยตลาดคาดว่า BoJ จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% และปิดท้ายด้วย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตสหรัฐอเมริกา (US ISM Manufacturing PMI) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 47.9 จุดปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 49.0 จุด

วันศุกร์ ติดตามการรายงานเศรษฐกิจฝั่งสหรัฐ ภาคจ้างงานนอกภาคการเกษตร (Nonfarm payrolls) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 1.23 แสนตำแหน่งชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 2.28 แสนตำแหน่ง ต่อด้วยตัวเลขอัตราการว่างงาน (Unemployment rate) เดือน เม.ย. ตลาดคาดการณ์ที่ 4.2% ทรงตัวจากเดือนที่ผ่านมา

- Advertisement -