บล.กสิกรไทย: 

กลุ่มวัสดุก่อสร้าง : แนวโน้มอุปสงค์ปี 2568 อ่อนแอ
  • คาดอุปสงค์ที่อ่อนแอจะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2568 เราคาดว่าอุปสงค์ต่อวัสดุก่อสร้างจะยังคงอ่อนแอในปี 2568 เนื่องจาก 1) การเติบโตของ GDP ที่ชะลอลงจากผลกระทบของภาษีสหรัฐฯ 2) การใช้จ่ายที่อ่อนแอในสินค้าคงทน และ 3) ภาวะอุปทานล้นตลาดในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ตาม เราพบว่ากิจกรรมก่อสร้างภาครัฐมักมีแนวโน้มดีกว่าภาคเอกชนในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งแนวโน้มนี้ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากการใช้จ่ายของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • คาดว่า GPM จะยังคงสูงจากราคาพลังงานที่ลดลง ในด้านบวก เราเชื่อว่าอัตรากำไรของหุ้นกลุ่มวัสดุก่อสร้างอาจยังคงอยู่ในระดับสูงและมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในช่วงปี 2568–70 ซึ่งคาดว่าจะเป็นผลมาจากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มลดลง โดยพลังงานคิดเป็นสัดส่วนต้นทุนการขาย (COGS) ที่ประมาณ 35–90% เราคาดว่าราคาน้ำมันดิบดูไบจะลดลงมาอยู่ที่ 67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรลในปี 2568 ลดลง 16% YoY จากคาดการณ์ภาวะอุปทานส่วนเกิน ซึ่งจะส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากน้ำมันลดลงตามไปด้วย
  • คาดการณ์กำไรไตรมาส 1/2568 เราคาดว่ากำไรกลุ่มในไตรมาส 1/2568 จะอยู่ที่ 1.8 พันลบ. เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 17% QoQ การเติบโต YoY ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากกำไรของ TASCO ที่ฟื้นตัวแรง หลังจากมีความล่าช้าในการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 อย่างไรก็ตาม หากไม่รวม TASCO เราคาดว่ากำไรของกลุ่มจะลดลง 17% YoY จากอุปสงค์ภาคเอกชนที่ซบเซา
  • ปรับลดคาดการณ์กำไรปี 2568/69 ลง 14%/11% เราได้ปรับลดประมาณการกำไรปี 2568 ของกลุ่มวัสดุก่อสร้างลงมาอยู่ที่ 8 พันลบ./8.6 พันลบ. ซึ่งสะท้อนถึงปริมาณยอดขายในประเทศที่อ่อนแอและราคาขายที่ลดลง สมมติฐานใหม่ของเราที่คาดว่าต้นทุนพลังงานจะลดลงช่วยรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ไว้ได้ การปรับลดกำไรมากที่สุดมาจากผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิกอย่าง DCC และ SCGD ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับการชะลอตัวของการก่อสร้างภาคเอกชนและอุปสงค์ในตลาดที่อยู่อาศัย
  • ปรับลดมุมมองต่อกลุ่มเป็น “เป็นกลาง” เราปรับลดมุมมองต่อกลุ่มจาก “เชิงบวก” เป็น “เป็นกลาง” เพื่อสะท้อนแนวโน้มอุปสงค์ที่ยังคงอ่อนแอในปี 2568 โดย TASCO ยังคงเป็นหุ้นเด่น เนื่องจากเราคาดว่าการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐจะเร่งตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ซึ่งน่าจะส่งผลให้กำไรเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง
หุ้นเด่น
  • TASCO “ซื้อ” TP 17.60 บาท

- Advertisement -

บทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมจากผู้เขียน