บล.กสิกรไทย:
หุ้น TOP กำไรสุทธิแข็งแกร่งที่สุดในบรรดาโรงกลั่นของไทย
- โรงกลั่นที่แข็งแกร่งที่สุดในประเทศไทย เราคาดว่า TOP จะรายงานกำไรปกติไตรมาส 1/2568 ที่ 2.2 พันลบ. ลดลง 68% YoY และ 20% QoQ เนื่องจากค่าการกลั่นตลาด (market GRM) ลดลง 61% YoY และ 31% QoQ เหลือ 3.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และอัตรากำไรจากธุรกิจอะโรเมติกส์และน้ำมันหล่อลื่นที่ลดลงเล็กน้อย 0.2 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เหลือ 1.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม TOP ยังคงใช้กำลังการกลั่นได้อย่างมั่นคงในระดับสูงที่ 113% โดยในส่วนของกำไรสุทธิ เราคาดว่าจะเติบโต 24% QoQ (แต่ลดลง 41% YoY) มาที่ 3.4 พันลบ. จากกำไรจากสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเป็น 1.2 พันลบ. เทียบกับ 95 ลบ.ในไตรมาส 4/2567
- คาดกำไรไตรมาส 2/2568 ใกล้จุดคุ้มทุน ด้วย Singapore GRM ทรงตัว QTD ที่ 3.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบลดลงประมาณ 8 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ดังนั้น เราคาดว่ากำไรปกติในไตรมาส 2/2568 จะเติบโตเล็กน้อย โดยได้แรงหนุนจากการประหยัดต้นทุนขนส่งน้ำมันดิบจากการกลับมาเปิดดำเนินการเต็มไตรมาสครั้งแรกของหน่วย SBM ซึ่งเป็นทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันจะฉุดกำไรสุทธิให้เข้าใกล้จุดคุ้มทุน
- คาดปันผลครึ่งแรกของปี 2568 อยู่ที่ 0.4-0.7 บาท/หุ้น จากอัตราการจ่ายเงินปันผลในอดีตที่อยู่ระหว่าง 25-43% เราคาดว่า TOP จะจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2568 ที่ระดับ 0.4-0.7 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 2-3%
มุมมอง KS
- แนะนำ “ซื้อ” และ TP ที่ 28.80 บาท เราเชื่อว่าราคาหุ้น TOP จะกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางบวกได้เมื่อความกังวลเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงการ CFP คลี่คลาย ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นไตรมาส 2/2568 หรือช่วงต้นไตรมาส 3/2568 เป็นอย่างช้า