บล.กรุงศรีฯ:
KSS Research Update: SCC (Neutral; TP25F = 175.0)
มอง Positive ต่อกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ราว 1,099 ลบ. (-55% y-y, พลิกมีกำไร q-q) สูงกว่าเราคาด 482 ลบ. หรือ 78% (ฐานต่ำ) และ สูงกว่าตลาดคาด 58% โดยสูงกว่าเราคาดเพราะกำไรของธุรกิจเคมีสาย Butadinene สูงกว่าคาด และธุรกิจซีเมนต์อัตรากำไรดีกว่าคาด
รายงานกำไรสุทธิ 1Q25 ที่ 1,099 ลบ. ลดลง y-y เพราะไม่มี stock gain หนุนและ ค่าเสื่อมฯเพิ่มขึ้นหลังเริ่ม COD โรง LSP ซึ่งหากถอดทั้ง 2 ประเด็นนี้ออก core opeartion ฟื้นทั้งซีเมนต์ที่อัตรากำไรเพิ่มขึ้น และปิโตรเคมีไม่มีการลด run รวมถึง PVC ฟื้น ส่วนการพลิกกำไร q-q ฟื้นทุกธุรกิจ i) ซีเมนต์ราคาขายเพิ่มหนุนอัตรากำไร ii) ปิโตรเคมี ปริมาณขาย PVC ฟื้นหลังออกจากปิดซ่อม และ iii) ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ต้นทุนกระดาษลดลง, ไม่มีปิดซ่อมโรงเยื่อ และไม่มีปรับปรุงต้นทุนธุรกิจ recycle
ระยะสั้นมีปัจจัยบวกแนวโน้มการฟื้นใน 2Q25F ต่อเนื่อง เพราะ
i) ธุรกิจซีเมนต์อัตรากำไรเพิ่มตามการปรับเพิ่มราคาขาย
ii) ธุรกิจปิโตรเคมี product spread ฟื้นจากการ re-stock ของจีน, โรงผลิตบางส่วนปิดซ่อม และราคา feedstock ลดลง และ
iii) มีเงินปันผลโตโยต้ามาหนุน (seasonal)
คงคำแนะนำ Neutral ที่ TP175.0 คงมุมมองจุดน่าสนใจกลับมาลงทุนคือ spread HDPE/PP ยืนเหนือ 400$/ton ได้ต่อเนื่อง ในช่วง 2H25F ซึ่งจะเป็นจุดที่โรง LSP กลับมาเปิดดำเนินงาน
ความเสี่ยงสำคัญ ผลกระทบสงครามการค้าต่อ demand มากกว่าคาด แต่ต่อ supply น้อย (การ cut run น้อย) ส่งให้เผชิญ oversupply หนักขึ้นการฟื้นตัวของ product spread และการเปิด LSP ช้ากว่าคาด ส่งให้กำไร 2025F มี downside