PTT แนะนำ TRADING ราคาเหมาะสม 42.00 บาท

• งบลงทุน 5 ปี ฉบับใหม่เหลือ 1.0 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่ 82% จะใช้ในธุรกิจก๊าซ เมื่อเทียบกับอดีต งบลงทุนลดลงมากเพราะไม่ได้รวม OR ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถจ่ายปันผล
• PTT สำรองงบลงทุนไว้อีก 2.4 แสนล้านบาท สะท้อนการให้ความสำคัญกับธุรกิจใหม่ๆ
• ปี 2564 บริษัทฯ ปรับวิสัยทัศน์ และเร่ิมลงทุนธุรกิจใหม่ๆ ส่วนปี 2565 คาดจะเห็นผลการลงทุนท่ีเป็นรูปธรรมมากขึ้น รวมท้ังภาครัฐจะมีนโยบายสนับสนุนการก้าวสู่สังคมคาร์บอนต่ำ

• ผลประกอบการระยะสั้น 4Q64 – 2565 ไม่เด่น กดดันจากมุมมองด้านราคาพลังงาน, ต้นทุนก๊าซสูงขึ้น, รอบปิ ดซ่อมบำรุงใหญ่ของบริษัทลูก
• อย่างไรก็ตาม พื้นฐานแข็งแกร่งด้วยธุรกิจครบวงจร ฐานะการเงินมั่นคง จะสามารถรับแรงเสียดทานได้ดี
• ความสามารถจ่ายปันผลอยู่ระดับดีจากงบลงทุนต่ำลง , ระยะยาวมีการเติบโตจากธุรกิจใหม่, ราคาหุ้น Laggard – มี Valuation ต่ำกว่าคู่แข่ง ทำให้ Downside จำกัด คงคำแนะนำ Trading คาดความคืบหน้าธุรกิจใหม่ในปีหน้า (EV) จะเป็น Catalyst หนุนราคาหุ้น

5 ปีงบลงทุนเหลือ 1 แสนล้านบาท แต่มีสำรองรับธุรกิจใหม่ๆ

PTT อนุมัติแผนลงทุน (Committed CAPEX) ช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2565-2569) สำหรับธุรกิจที่ PTT ดำเนินงานเอง และถือหุ้นในสัดส่วน 100% รวม 1.0 แสนล้านบาท แบ่งเป็น 1) ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ 45% เช่น โรงแยกก๊าซที่ 7-8 2) ธุรกิจท่อส่งก๊าซ 20% 3) ธุรกิจ LNG Terminal 17% 4) ธุรกิจอื่นๆ 8% ส่วนใหญ่เป็นท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3, Arun plus (EV value chain), Innobic (Life Science) 5) ธุรกิจใหม่และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน 10% เช่น วังจันทร์วัลเล่ย์ (EECi) และ Venture Capital นอกจากนี้ยังตั้งงบสำรองอีก 2.4 แสนล้านบาท รองรับโครงการที่อยู่ระหว่างศึกษา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นธุรกิจใหม่ เช่น ยา – เวชภัณฑ์, โลจิสติกส์, โครงสร้างพื้นฐาน, ยานยนต์ไฟฟ้า, พลังงานสะอาด หากพิจารณาจะพบว่า 1) งบ Committed CAPEX ส่วนใหญ่ 82% จะใช้รองรับธุรกิจที่เกี่ยวกับก๊าซ เพราะเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิลที่สะอาดที่สุด ทำให้คาดว่าจะเป็นเชื้อเพลิงหลักระหว่างช่วง Energy Transition 2) เมื่อเทียบกับ Committed CAPEX ช่วง 2-3 ปีก่อนที่เฉลี่ย 1.7 – 1.8 แสนล้านบาท งบลงทุนครั้งนี้ถือว่าต่ำกว่าลงมาก ช่วยเพิ่มกระแสเงินสดและความสามารถจ่ายเงินปันผลในระยะสั้น 3) สาเหตุที่งบลงทุนต่ำลงนอกเหนือจากงบลงทุนของ OR ไม่ถูกรวมในครั้งนี้ (Spin-off ไปต้นปี) ยังสะท้อนถึงการให้ความสำคัญต่อการกระจายลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ

ปี 2565 จะเห็นการลงทุนธุรกิจใหม่ๆ (EV) ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น

ปี 2564 PTT มีการปรับตัวหลายมิติเพื่อเตรียมพร้อมสู่ช่วงการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมพลังงาน ทั้งการเข้าลงทุนในธุรกิจยา-เวชภัณฑ์, ธุรกิจ EV Value Chain และปรับวิสัยทัศน์เพื่อลงทุนในธุรกิจ Future Energy and Beyond ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2573 จะมีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจเหล่านี้มากกว่า 30% สำหรับปี 2565 บริษัทฯ มีแผนจะดำเนินการมากขึ้น เช่น การตัดสินใจก่อสร้างโรงงานผลิต EV ในประเทศ, การเปิดตัวให้บริการ Platform EV-Charging Station, การรวมงบ Lotus Pharmaceutical ฯลฯ สอดคล้องกับภาครัฐที่เตรียมจะประกาศนโยบายสนับสนุนและแผนพลังงานต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ทำให้การลงทุนในธุรกิจ EV จะเห็นรูปธรรม และได้รับความสนใจมากขึ้น

มุมมองราคาพลังงาน คาดการเติบโตระยะสั้นไม่เด่น

แนวโน้ม 4Q64-2565 คาดจะเห็นการขยายตัว แต่การเติบโตโดยรวมถือว่าไม่โดดเด่น เนื่องจากราคาพลังงานจะถูกกดดันด้วยอุปทานในตลาดที่เร่งตัวขึ้น จากทั้งกำลังผลิตใหม่ การผ่อนปรนมาตรการของการผลิตของสหรัฐฯ ขณะที่ต้นทุนก๊าซสูงขึ้นตามรอบปรับสัญญาก๊าซในอ่าวไทย และสัดส่วน OPEC+, LNG นำเข้ามากขึ้นจาก Shortfall ของการผลิตก๊าซในอ่าวไทย รวมทั้งวัฏจักรปิดซ่อมบำรุงใหญ่ของบริษัทในเครือ (PTTGC IRPC) ประเมินกำไรปกติ 1.0 แสนล้านบาท (+10% YoY)

แต่เป็น Big Cap. พื้นฐานมั่นคง … ราคา Discount มากเกินไป

อย่างไรก็ตาม 1) ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งด้วยโครงสร้างธุรกิจครบวงจร ฐานะการเงินมั่นคง ทำให้สามารถรับแรงเสียดทานจากปัจจัยภายนอกที่ผันผวนในปีหน้าได้ดี 2) ระยะยาวมีการเติบโตที่รอพิสูจน์จากการลงทุนธุรกิจใหม่ เช่น EV เวชภัณฑ์ ฯลฯ 3) งบลงทุนฉบับใหม่ต่ำลงจะหนุนความสามารถจ่ายปันผล ระยะสั้นคาด Div. Yield 4.6% 4) ราคาหุ้น PTT -11% YTD Laggard ค่าเฉลี่ยหุ้นพลังงาน-ปิโตรเคมี +9% ปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 1.1 เท่า มีส่วนลดจากค่าเฉลี่ย -1.50 SD เชิง Valuation ถือว่า Downside จำกัด ประเมินราคาเหมาะสม 42.00 บาท แนะนำ Trading ตาม Catalyst ความคืบหน้าของธุรกิจ EV ในปีหน้า