Our View? “ตามตลาดต่างประเทศ”
แม้ภาพรวมยังมีความผันผวนอยู่แต่คาด มีโอกาสปรับขึ้นโดยยังถูกกดดันจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน แต่หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงยืนยันว่าสหรัฐจไม่กลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์เหมือนเดือนมี.ค.’63 พร้อมขอความร่วมมือให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ ทำให้ในระยะสั้นช่วยลดความกังวลลงได้บ้าง และทำให้มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มเดินทาง รวมทั้งได้รับปัจจัยหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ของบริษัท ไมครอน เทคโนโลยี และไนกี้
รวมถึงราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ส่งมอบเดือน ม.ค. เพิ่มขึ้น 2.51 ดอลลาร์ (+3.7%) ปิดท่ี 71.12 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะน้ำมันล้น ตลาด และจะรุนแรงข้ึนในช่วงต้นปีหน้า ทำให้คาดการปรับขึ้นราคาน้ำมันอาจเป็นไปอย่างจำกัด และคาดในระยะสั้น มีแรงเก็งกำไรกลับในหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
ขณะท่ีแนะติดตามหลายประเทศในยุโรป พิจารณาใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาด ซึ่งการคุมเข้มฯ จะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาห่วงโซ่อุปทานยืดเยื้อต่อไปอีก
พร้อมร่างกฎหมาย Build Back Better วงเงิน 1.75 ล้านล้านดอลลาร์ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจถูกคว่ำในวุฒิสภาสหรัฐ แม้ผ่านการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ GDP ของสหรัฐใน 1Q/65 สู่ระดับ 2% จากเดิมที่ 3% และลดคาดการณ์ 2Q/65 และ 3Q/65 สู่ระดับ 3% และ 2.75% จากเดิมที่ 3.5% และ 3% ตามลำดับ
ทางด้านปัจจัยภายในประเทศ คาดในระยะสั้นได้รับปัจจัยกดดันบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยว หลังผู้ที่เดินทางเข้ามา ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจำนวนมาก ทำให้มีการปรับมาตรการเข้าไทย โดยระงับการลงทะเบียนชั่วคราว ประเภท Test and Go และ Sandbox ยกเว้น Phuket SandBox บ็อกซ์ตั้งแต่ 21 ธ.ค.64 – 4 ม.ค.65
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว (ประมาณ 200,000 คน) ในระบบ Test and Go ยังสามารถเดินทางเข้าประเทศตามแผนการเดินทาง แต่จะมีมาตรการติดตามท่ีเข้มขึ้น เช่น การตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง คือวันแรกที่เดินทางเข้าประเทศ และวันที่ 7
พร้อมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี’65 ที่เป็น Sentiment บวกในระยะถัดไป เช่น (1) โครงการช้อปดีมีคืน ตามจำนวนจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท ตั้งแต่วันท่ี 1 ม.ค.-15 ก.พ.65 และโครงการคนละครึ่งเฟส 4 ช่วงมี.ค. – เม.ย.’65 คาดยังเป็นปัจจัยหนุนหุ้นในกลุ่มค้าปลีกและธนาคาร และ (2) ขยายมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับท่ีอยู่อาศัย และอาคารพาณิชย์ท่ีมีราคาซื้อขาย และราคาประเมินไม่เกิน 3 ล้านบาท ถึง 31 ธ.ค.65 คาดส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มที่อยู่อาศัย เช่น PSH ORI และ LPN เป็นต้น
โดยยังแนะติดตาม (1) ประชุม กนง. วันนี้ คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% (2) การออกมาตรการกระตุ้นการใช้รถไฟฟ้าในช่วงปีหน้า คาดรัฐจะให้เงินสนับสนุนในการซื้อรถยนต์ EV ท่ีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท 20% มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มยานยนต์ (AH และ SAT) และช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ (HANA และ KCE) และ (3) Window Dressing ในช่วงท้ายปี
รวมถึงประเด็นการเก็บภาษีขายหุ้น ซึ่งทำให้ต้นทุนการซื้อขายเพิ่มข้ึน และส่งผลต่อมูลค่าการซื้อขายลดลง พร้อมลดความสามารถในการแข่งขันตลาดทุนไทย ล่าสุดกรมสรรพากรอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางดังกล่าว ซึ่งเดิมกำหนดจัดเก็บภาษีอยู่แล้วในอัตรา 0.1% ของรายรับ แต่ได้มีการยกเว้นการจัดเก็บตั้งแต่ปี’ 34
หุ้นแนะนำวันนี้ “ADVANC”
การเป็น Telecom Infrastructure และมีฐานข้อมูลลูกค้าถึง 43.7 ล้านราย ทำให้ ADVANC จะเป็นแกนสำคัญในการ Digitize ผลิตภัณฑ์/บริการ ในรูปแบบใหม่ ขณะท่ีการตื่นตัวของกลุ่มธุรกิจต่างๆ เพื่อเข้าสู่การ Digitalization สินค้า/บริการ ล้วนต้องการ Big Data ซึ่งในแง่ของ ADVANC มีฐานข้อมูลผู้ใช้จำนวนมาก ราคาเป้าหมาย (พื้นฐาน) 249.00 บาท