สรุปภาวะตลาด

วันศุกร์ท่ีผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวพักตัวในแดนลบเล็กน้อย หลังจากช่วงก่อนหน้าดัชนีได้ปรับตัวขึ้นรับข่าวเชิงบวก คลายความกังวลโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอน ถึงความเสี่ยงที่ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนจะต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น มีน้อยกว่าผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสสายพันธ์ุเดลตา ส่วนมูลค่าการซื้อ-ขาย ลดลงเนื่องจากหลายประเทศหยุดทำการซื้อขาย เข้าสู่ช่วงหยุดยาวในวันคริสต์มาส ส่งผลให้ดัชนีSET Index ปิดตลาดท่ี 1,637.22 จุด -4.25 จุด -0.26% มูลค่าการซื้อขาย 57,272 ลบ.ต่างชาติ +1,321.68 ลบ. TFEX -2,925 สัญญา ตราสารหนี้ -360.83 ลบ.

ปัจจัยบวก

+/- ตลาดหุ้น,ตลาดน้ำมัน,ตลาดทองคำ และตลาดเงินของสหรัฐปิดทำการวันศุกร์ที่ 24 ธ.ค. เนื่องในเทศกาล คริสต์มาส

+ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้อนุมัติงบประมาณประจำปี 2565/2566 ที่มีวงเงินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 107.6 ล้านล้านเยน (9.4155 แสนล้านดอลลาร์) เนื่องจากมาตรการสกัดโควิด-19 ได้เพิ่มต้นทุนในการสนับสนุน ประชากรสูงวัย ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านการทหารที่เพิ่มขึ้นเพื่อรับมือกับจีน

+ บริษัทมาสเตอร์การ์ด อิงค์เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐในช่วงเทศกาลต้ังแต่วันที่ 1 พ.ย.จนถึงวันที่ 24 ธ.ค. ปรับตัวข้ึน 8.5% โดยได้แรงหนุนจากยอดขายสินค้าทางออนไลน์ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และจากการที่ร้านค้าต่างๆ เสนอโปรโมชั่นให้กับลูกค้าในช่วงเทศกาล

+ บริษัท ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล แคปิตอล คอร์-ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ความต้องการรถของผู้บริโภคจีนใน ปี 2565 มีแนวโน้มว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยอดขายรถในปีหน้า คาดว่าจะอยู่ท่ี 27.22 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,437 ราย มีผู้เสียชีวิต 18 ราย รักษาหาย 3,845ราย

ปัจจัยลบ

– รัฐบาลสหรัฐมีคำสั่งระงับการจ่ายยาแอนติบอดีของบริษัท รีเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคอล (Regeneron Pharmaceuticals) และอิไล ลิลลี่ (Eli Lilly) โดยระบุว่า ยาเหล่านี้ไม่มีประสิทธิภาพในการต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน

– ประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าจากภูมิภาคซินเจียงของจีน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการบังคับใช้แรงงานชนกลุ่มน้อยชาวอุยกูร์ท่ีอาศัยอยู่ในมณฑลดังกล่าว ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับจีนท่ีออกมาประณามกฎหมายฉบับนี้

– ยอดผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในฝรั่งเศสพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์กว่า 1 แสนรายต่อวัน

– เชียงใหม่พบ 2 นักท่องเที่ยว คาดติดเชื้อโอมิครอน ติดตามผู้เสี่ยงสูง-ต่ำครบแล้ว

– นพ.ยง ห่วงงานเฉลิมฉลองทำโอมิครอนแพร่เร็ว แนะปฏิบัติตามมาตรการเข้มข้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสปรับตัวลง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอนในหลายจังหวัด ประกอบกับนัก ลงทุนยังมีความกังวลการแพร่ระบาดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะท่ีสถานการณ์ในหลายประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อได้เร่งตัวขึ้นอีกคร้ัง มองกรอบดัชนีในวันน้ีท่ี 1,630-1,645 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • รอบ 1H65 หุ้นที่เข้าคำนวณ SET50 : หุ้นเข้า AWC BANPU TIDLOR หุ้นออก BJC DELTA STA , SET100 : หุ้นเข้า AWC BLA BPP EPG KEX RCL SIRI STARK TIDLOR TTA หุ้นออก BJC DELTA AAV ICHI JAS NRF PRM PTL PSL TKN
  • ได้ประโยชน์จากโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ : COM7 SYNEX CPW SPVI SVOA JMART IT
  • หุ้น Reopening Play : หุ้นกลุ่มท่องเท่ียว ERW CENTEL AWC หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้า CPN CRC MBK
  • เก็งรัฐออกมาตรการกระตุ้น EV EA NEX FORTH BPP BCPG

หุ้นรายงานพิเศษ

PSTC – ซื้อ – (ราคาเหมาะสม 3.00)

  • คว้างานก่อสร้างโครงการท่อเช่ือมต่อโรงแยกก๊าซธรรมชาติ หน่วยที่ 7 ของ บมจ.ปตท (PTT) มูลค่ากว่า 1.3 พันล้านบาท ทำให้มี Backlog รวม 4.7 พันลบ. นอกจากนี้ยังได้งานจำหน่าย LNG 2 โครงการใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 7 พันล้านบาท ป้อนลูกค้าอุตสาหกรรมทางการแพทย์เข้ามา
  • โครงการท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคอีสานมีความคืบหน้าราว 95-98% โดยอยู่ระหว่างการขออนุญาตกับทางภาครัฐเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนเร่ิมดำเนินการ โดยคาดว่าจะเร่ิมรับรู้รายได้อย่างช้าภายใน 1Q65 ซึ่งหากโครงการดังกล่าวเริ่มรับรู้รายได้จะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการตั้งแต่ปี 65 เป็นต้นไปให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ
  • ความเห็น เรามีมุมมองบวกต่อผลประกอบการปี 65 จากแรงหนุนของธุรกิจก่อสร้างที่มี Backlog เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการรับรู้รายได้จากโครงการท่อขนส่งน้ำมันไปยังภาคอีสานที่จะมาช่วยหนุนให้ผลประกอบการปี 65 ให้เติบโต 180% สู่ 295 ลบ. เราจึงแนะนำ ซื้อ

หุ้นมีข่าว

(+) HFT (Bloomberg Consensus 11.20 บาท) วางเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตไม่น้อยกว่า 10- 15% มองความต้องการใช้งานจักรยานยนต์ขยายตัวดี อัดฉีดงบกว่า 200 ล้านบาท อัพแกร่งกำลังผลิตใหม่-แผงโซลาร์ แย้มอยู่ระหว่างเจรจา M&A-JV 1 ดีล คาดสรุปได้ปีหน้า มองยอดขายไตรมาสสุดท้ายปี 2564 พ้นจุดต่ำสุด มั่นใจผลงานยังทุบสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) GPSC (Bloomberg Consensus 92.00 บาท) มาตรการส่งเสริมอีวีจ่อ ครม. GPSC รับอีวี เดินหน้าเร็วกว่าที่คาด ช่วยดันธุรกิจแบตเตอรี ประกาศเร่งลงทุนแบตเตอรีปีหน้า 1 กิกะวัตต์ ปักธงเป้า 5-10 กิกะวัตต์ ในระยะเวลา 10 ปี พร้อมขยายพันธมิตรต่อเนื่อง ล่าสุดพัฒนาต้นแบบแบตเตอรีเรือ โดยสารไฟฟ้า โบรกมองเป็นปัจจัยเติบโตระยะยาว ปลื้มแนวทางจับมือพันธมิตรหลายบริษัท เป้าพื้นฐาน 98 บาท (ท่ีมา ทันหุ้น)

(+) GUNKUL (Bloomberg Consensus 5.75 บาท) สวอปหุ้นกับ JMART ฝ่ายละ 1 พันล้าน บาท ตอกย้ำร่วมทำธุรกิจในระยะยาว หลังเดินหน้าจับมือ JMART และ SINGER ตั้งบริษัทร่วมทุน คาดเสร็จ ม.ค.65 ลุยธุรกิจโซลาร์รูฟ-กัญชง-ปั๊ม EV หนุนรายได้เติบโตแข็งแกร่ง ล่าสุดทำแผนธุรกิจ ดันแพ็กเกจแรกโซลาร์รูฟ ปีหน้ารับรู้รายได้ทันที เล็งอีก 3 ปี นำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่วนธุรกิจกัญชงได้ฤกษ์ดีตัดดอกกัญชงล็อตแรกที่เขาค้อ เพื่อส่งขายองค์การเภสัชกรรม (อภ.) (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) SONIC (Bloomberg Consensus 5.10 บาท) “โซนิค” ตั้งเป้ารายได้ปีหน้าเติบโต 20% หลังทุกหน่วยธุรกิจในประเทศขยายตลาดมากขึ้น รับดีมานด์ขนส่งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมเล็งปิดดีลซื้อกิจการในต่างประเทศ ส่วนรายได้ปีนี้มั่นใจโตทะลุเป้า หลังงวด 9 เดือนปีนี้รายได้บริการโตแรงกว่า 152% (ท่ีมา ข่าวหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 28 ธ.ค.ประชุมครม. พิจารณาข้อเสนอของก.คลัง เคาะบัตรสวัสดิการรอบใหม่มีปรับเงื่อนไขเพิ่มเกณฑ์รายได้ครัวเรือนเฉลี่ย 1 แสนต่อคนมาคัดกรองเพิ่ม
  • สัปดาห์ที่ 5 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
  • 30 ธ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 27 ธ.ค. จีนเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมพ.ย. สหรัฐเปิดเผยดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.
  • 28 ธ.ค. ญี่ปุ่นเปิดเผยอัตราว่างงานและการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. สหรัฐเปิดเผยราคาบ้านเดือนต.ค.และดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.
  • 29 ธ.ค. สหรัฐรายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนพ.ย. สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 30 ธ.ค.สหรัฐรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- Advertisement -