บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

MFEC ก้าวเข้าสู่ปีแห่งการ Transform ไปสู่ Tech Business Model

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +33.3%

Close Dec 28, 2021 Price (THB) 10.20

12M Target (THB) 13.60

Previous Target (THB) 13.60

What’s new?

  • คาดกำไร 4Q64 ท่ี 96 ล้านบาท (+52% QoQ, -32% YoY) กำไรเติบตเป็นไตรมาสท่ีดีท่ีสุดในปี 2564 แต่ YoY ถูกกดดันจากฐานสูงในปีก่อน
  • ปี 2565 MFEC วางกลยุทธ์หลักท่ีจะปรับ Business mode lจาก SI ไปสู่การเป็น Tech Company เน้นความพร้อมด้านเทคโนโลยีในยุค Digital และทีมงานพร้อมการทำ Partnership เพื่อเติบโตคู่ขนานไปกับลูกค้า

Our View

  • เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ท่ี 13.60 บาทต่อหุ้น MFEC ซื้อขายบน PER65 เพียง 15x ซึ่งเป็นระดับท่ียังไม่ได้สะท้อนโอกาสเปลี่ยน Business Model จากการเป็น SI ไปสู่ Tech Company และยังไม่ได้สะท้อนกำไรท่ีจะเติบโตระดับ 20% ในปี 2565- 2566 เรามอง MFEC ไม่ใช่เพียงแค่ SI และจะ กลายเป็นอีกหน่ึงหุ้นท่ีได้ประโยชน์จาก Digital Economy เหมือนเพื่อนๆในกลุ่ม Disruption

ระยะยาว ยุค Digital ศักราชใหม่มาพร้อมโอกาสบน Business Model ใหม่

บนยุค Digital Economy ที่ทุกองค์กรจำเป็นต้องลงทุนด้าน IT Infrastructure เพิ่มขึ้น แม้จะมองเป็นโอกาสแต่ก็สร้างความท้าทายให้ MFEC เพราะในปีที่ผ่านมา ลูกค้าขนาดใหญ่อยู่ในช่วงของการปรับตัวเองไปสู่การเป็น Tech Company ซึ่งอาจลดการพึ่งพางานจาก MFEC ได้ในอนาคต MFEC เห็นถึงความท้าทายที่เกิดขึ้น จึงได้เริ่ม Transform ตัวเอง โดย Phase 1 เสร็จสิ้นไปแล้วจากการปรับโครงสร้างองค์กรใน 2-3 ปีที่ผ่าน ทำให้ทีมงานเป็นคนรุ่นใหม่เกิดการคล่องตัวในการทำงานมากขึ้น ลดต้นทุนการดำเนินงานได้ดี สร้างความสามารถในการแข่งขันและทำให้บริษัทปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ส่วน Phase 2 กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2565 กล่าวคือ MFEC กำลังจะเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจากการเป็น SI ไปเป็น Tech Company ด้วยการลดสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ SI แบบดั้งเดิม (40% ของ Portfolio) และทดแทนด้วยรายได้ใหม่จากการสร้างทีมงานที่พร้อมนำเทคโนโลยีในยุค Digital มารวมเป็น Infrastructure ขนาดใหญ่ให้กับลูกค้าในระยะยาว เช่น งานด้าน Cloud Computing, Cyber Security, Big data, Network และ Mobile Application เมื่อประสานกับจุดแข็งจากการเป็นทีม Developer เบอร์ต้นๆ ของประเทศไทย ทำให้ MFEC พร้อมรองรับบริษัทที่ต้องการปรับโครงสร้างตัวเองเพื่อเข้าสู่ยุค Digital Economy ในทุกอุตสาหกรรม นอกจากนี้ MFEC จะปรับรูปแบบการให้บริการด้วยการเน้นการทำ Partnership แทนการขายงานแบบเป็นโครงการอย่างในอดีต เพื่อให้สามารถเติบโตคู่ขนานไปกับลูกค้าในรูปแบบของรายได้ Recurring ในระยะยาว

ระยะสั้นสดใส คาดผลประกอบการ 4Q64 เติบโต QoQ … Backlogs ยังแข็งแกร่ง

คาดผลประกอบการ 4Q64 ที่ 96 ล้านบาท (+52% QoQ, -32% YoY) จาก 1) คาดรายได้ที่ 1.6 พันล้านบาท (+29% QoQ, -20% YoY) โต QoQ หนุนจาก backlogs ที่แข็งแกร่ง แต่ภาพ YoY ถูกกดดันจากฐานสูงผิดปกติในปีที่แล้ว 2) คาดอัตรากำไรขั้นต้นที่ 17.5% (+10 bps QoQ, +242 bps YoY) ใกล้เคียงกับใน 3Q64 และ 3) คาด SG&A ที่ 182 ล้านบาท (+25% QoQ, +9% YoY) สูงขึ้นตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่คาด SG&A to sale ที่ 11.2% ดีขึ้น เมื่อเทียบกับใน 3Q64 ที่ 11.5% จากการควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ทำได้ดีขึ้น หากประมาณการ 4Q64 ของเราออกมาตามคาด กำไรปกติทั้งปี 2564 ของ MFEC จะทำได้ที่ 251 ล้านบาท (+3% YoY) in-line กับที่เราคาดการณ์ไว้

ณ สิ้น 4Q64 เราคาด MFEC จะมี Backlogs ที่ระดับ 5.6 พันล้านบาท ซึ่งระดับดังกล่าวถือว่าเป็นระดับที่แข็งแกร่งมากเทียบกับปกติที่บริษัท ฯ จะมี Backlogs ช่วงสิ้นปีอยู่ที่ระดับ 2-3 พันล้านบาท สะท้อนถึงรอบการเติบโตครั้งใหม่ของรายได้ที่ระดับ 10% -15% ต่อปี ในช่วง 3 ปีต่อจากนี้ไม่ใช่เรื่องยาก

คงประมาณการและคำแนะนำ “ซื้อ” บนราคาเหมาะสมที่ 13.60 บาทต่อหุ้น

เราคงประมาณการปี 2565/66 ที่กำไรปกติ 301 ล้านบาท (+20.2% YoY) และ 362 ล้านบาท (+20.0% YoY) การเติบโตของกำไรปกติที่ระดับ 20% ต่อปีในช่วง 2-3 ปีจากนี้ หนุนจากความพร้อมด้าน Technology  รอบการลงทุนของภาคธุรกิจเพื่อปรับตัวเข้ากับ Digital Economy และแรงส่งจาก Business Model ใหม่ ส่วนการ Spin-off บริษัท I-TWO เข้าตลาดในช่วง 2H65 เป็น Upside Risk ที่ยังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ

เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 13.60 บาทต่อหุ้น

แม้ราคาหุ้น MFEC ปรับขึ้นมาราว 55% ใน 3 เดือน แต่ MFEC ยังถูกซื้อขายบน PER65 เพียง 15x ซึ่งเป็นระดับ PER ของกลุ่ม SI ในอดีต เราเชื่อว่าต่ำเกินไป และยังไม่ได้สะท้อนศักยภาพการปรับตัวไปสู่ Tech Company ผ่านการทำ Partnership ร่วมกับลูกค้ารายใหญ่ในระยะถัดไป หาก MFEC สามารถเปลี่ยนธุรกิจมาเป็น Tech Company ได้ ย่อมถูกตลาด Re-rate PER ขึ้นไปให้ใกล้เคียงกับหุ้นตัวอื่นที่ได้ประโยชน์จาก Digital Economy เช่นกัน

ความเสี่ยงสำคัญ คือการปรับ Business Model อาจไม่ได้เกิดขึ้นเร็วอย่างที่คาด, รอบการลงทุนด้าน IT ของภาคเอกชนมาช้ากว่าคาด และการส่งมอบงานทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา

- Advertisement -