Our View? ”ปู่ยังไหว”
คาดตลาดวันนี้ “Sideways” มองแนวรับที่บริเวณ 1650 / 1640 และแนวต้านที่บริเวณ 1,660 / 1,670 เรามองว่าเมื่อวานนี้ตลาดปรับตัวลงแรง รับรู้ความกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) รวมถึงการส่งสัญญาณปรับลดขนาดของงบดุล Quantitative Tightening (QT) ไปบ้างแล้วบางส่วน ซึ่งเรามองว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงการส่งสัญญาณของ FED ให้ตลาดสามารถรับรู้ (Price-in) แนวโน้มการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินของ FED คาดเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้นเข้ารบกวนตลาดได้บ้าง ขณะที่เช้านี้เราเริ่มเห็นแรงคืนหุ้นกลับตลาดในภูมิภาค มองเป็น Sentiment เชิงบวก หนุนทิศทางตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวข้ึนได้บ้าง
ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (US Bond Yield) ยังคงปรับตัวอยู่เหนือบริเวณ 1.7% ซึ่งเป็นระดับเทียบเคียงกับช่วงก่อนเกิด COVID-19 สะท้อนตลาดผ่อนคลายความกังวลเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากสินทรัพย์ปลอดภัย และมีแนวโน้มเข้าหาในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น มองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง
สำหรับราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.พ. เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้นได้ดี ปิดที่ระดับ 76.46 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.61 ดอลลาร์ หรือ +2.07% โดยได้รับแรงหนุนหลักจากการที่รัสเซียส่งทหารเข้ารักษาความไม่สงบในคาซัคสถาน ซึ่งเป็นสมาชิกของ OPEC+ รวมทั้งประเด็นกำลังการผลิตน้ำมันของลิเบียปรับตัวลดลงราว 5 แสนบาร์เรล/วัน และจะลดลงอีกราว 2 แสนบาร์เรล/วัน จากการปิดซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมัน หนุนทิศทางราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นได้ เรามองจะเป็นปัจจัยช่วยประคองทิศทางตลาดหุ้นไทยได้
อีกทั้งทิศทางราคาถ่านหิน Newcastle เมื่อคืนนี้ปรับตัวขึ้น +16.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 196.5 ดอลลาร์/ตัน หรือ +9.23% จากการที่อินโดนีเซียระงับการส่งออกถ่านหินชั่วคราวเพื่อป้องกันภาวะขาดแคลนในประเทศ คาดจะหนุนทิศทางหุ้นถ่านหิน (BANPU และ LANNA) ปรับตัวขึ้นได้
ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม เรายังชอบหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, TTB) ที่คาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสามารถทำให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยโลกเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นขาขึ้น พร้อมทั้งการตั้ง ECL ที่คาดจะเริ่มปรับลดลงตั้งแต่ในช่วง 1Q’65 รวมทั้งหุ้นในกลุ่ม EV Play (EA, GPSC, HANA และ SAT) ตามแนวโน้มการผลักดันการใช้รถไฟฟ้า (EV) ของไทย ที่ตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 30% ของการผลิตทั้งหมดภายในปี’ 73 และคาดว่าจะเริ่มเห็นการออกมาตรการกระตุ้นและสนับสนุนที่ชัดเจนมากขึ้นต้ังแต่ปีน้ี
ขณะที่ยังต้องติดตามเกณฑ์ที่ชัดเจนเก่ียวกับการจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมขายหุ้น (Financial transaction tax) อัตรา 0.1% จากมูลค่าการขาย คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง
ธีมการลงทุน “Selective Play”
หุ้นแนะนำวันนี้ “TU”
แนวรับ 20.30 / 19.80 Target 21.20 / 22.40 Stop <19.30
