บล.ทรีนีตี้

ธนาคารกรุงเทพ – BBL คาดกำไร 4Q64 อ่อนตัว QoQ แต่ยังฟื้นตัว YoY

  • คาดกำไร 4Q64 อยู่ที่ 6,294 ล้านบาท อ่อนตัว 9%QoQ แต่ยังฟื้นตัว 163%YoY
  • คาดรายได้ดอกเบี้ยเติบโตเล็กน้อยตามสินเชื่อ
  • คาดรายได้ค่าธรรมเนียมดีขึ้นในช่วงปลายปี และกําไรจากเงินลงทุนเพิ่มตามแนวโน้มตลาด
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานอาจเพิ่มขึ้นตามฤดูกาล
  • คาดแนวโน้มคุณภาพหนี้ยังดีขึ้นต่อเนื่อง แต่อาจเห็นสำรองเพิ่มเล็กน้อย
  • ปี 65 คาดกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังปัจจัยกดดันทางด้านเศรษฐกิจน้อยลง
  • มองราคาหุ้นยัง Laggard ในกลุ่มธนาคารใหญ่ คงคำแนะนำ “ซื้อ”

คาดกำไร 4Q64 อ่อนตัว QoQ แต่ยังฟื้นตัว YoY

เราคาดกําไร 4Q64 ที่ 6,294 ล้านบาท อ่อนตัว 9%QoQ แต่ยังฟื้นตัว 163%YoY โดยมีประเด็นสำคัญ คือ

  1. คาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโตราว 2%QoQ ตามแนวโน้มของสินเชื่อที่ยังพอขยายตัวได้บ้าง ขณะที่ NIM คาดยังทรงตัว
  2. คาดรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเติบโต 5%QoQ จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่ดีขึ้นในช่วงปลายปี บวกกับกำไรจากเงินลงทุนที่ดีขึ้นตามแนวโน้มตลาดฯ
  3. คาดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นราว 9%QoQ ซึ่งเป็นปกติตามฤดูกาล แต่ลดลงค่อนข้างมากราว 14%YoY เนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายในการควบรวม Permata
  4. คาดค่าใช้จ่ายสำรองหนี้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยราว 3%QoQ โดยอาจเป็นการเพิ่มขึ้นของสำรองส่วนเกิน ขณะที่คุณ ภาพหนี้คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

คาดปี 65 กำไรยังฟื้นตัวต่อเนื่อง

เราคาดกำไรปี 65 จะเติบโตราว 12%QoQ โดยหลักมาจากสินเชื่อที่เติบโตต่อเนื่อง รายได้ดอกเบี้ยและมิใช่ดอกเบี้ยที่ฟื้นตัว ขณะที่ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้อาจทรงตัว โดยการระบาดของ COVID สายพันธุ์ใหม่ที่คาดว่าจะรุนแรงน้อยลง ส่งผลให้อาจไม่มีการปิดเมืองยาวนานเช่นในปีก่อน ส่งผลให้เศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น ขณะที่คุณภาพหนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้นต่อเนื่อง

ราคาหุ้นยัง Laggard กลุ่มฯ

เราปรับไปใช้ราคาเป้าหมายปี 65 ที่ 160 บาท อิง PBV 0.65 เท่า โดยราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายกันที่ PBV เพียง 0.49 เท่า ขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่อื่นได้รับผลบวกจากประเด็นการ Re- valuation ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว (Current PBV ของ SCB 1.00 เท่า และ KBANK 0.73 เท่า) เราจึงยังมอง BBL มีความน่าสนใจในแง่ Valuation เมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่อื่น

ความเสี่ยง: การชะลอตัวของเศรษฐกิจ / คุณภาพหนี้ที่แย่ลง

- Advertisement -