Daily Focus – Selective and Value Play

ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index รีบาวด์ได้ระยะสั้น โดยปิดบวก 4.59 จุด ณ สิ้นวัน หลังจากร่วงแรงในวันก่อนหน้า ตลาดถูกหนุนด้วยกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTTEP ที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น สถาบันในประเทศยังคงขายสุทธิในตลาดหุ้นต่อเนื่องอีก 2.7 พันลบ. ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.8 พันลบ. (ต่างชาติ Short Index Futures สูงถึง 4.2 หมื่นสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index แกว่ง Sideways ในกรอบ 1,650-1,662 จุด โดยกลุ่มพลังงานคาดชะลอความร้อนแรง หลังราคาน้ำมันดิบเริ่มพักตัว ขณะที่โฟกัสหลักของตลาดในสัปดาห์นี้คือตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. 21 หลายประเทศโดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาด +0.4% M-M, +7% Y-Y เร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งตอกย้ำนโยบายการเงินของ FED ที่จะตึงตัวขึ้นเร็ว หลังจากยุติ QE เดือนมี.ค.นี้ และคาดเริ่มเห็นการขึ้นดอกเบี้ยใน 2Q22 รวมถึงการลดขนาดงบดุลในระยะถัดไป ขณะที่การระบาดของโอมิครอนกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจระยะสั้น ซึ่งทำให้ตลาดกังวลโอกาสเกิดภาวะ Stagflation ส่วนการระบาดของโอมิครอนในไทยอยู่ในช่วงเร่งตัว และคาดว่าจะมีมาตรการควบคุมเป็นจุดๆ บางส่วน แต่ประเมินไม่ถึงขั้น Lockdown เหมือน 3Q21 ทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และ SET Index คาดว่าจะไม่รุนแรง กลยุทธ์ จึงเน้นสะสมหุ้นในช่วงพักฐานลงใกล้ 1,600 จุด ส่วนระยะสั้นเน้นเลือกลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และกลุ่ม Value Play มี PER ไม่สูง คาดสามารถ Outperform ตลาดได้

กลยุทธ์: เลือกลงทุนโดยเน้นหุ้น Value และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว

หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : CK, EA, HMPRO, KBANK, ORI

หุ้นเด่นวันนี้: XO

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 22 บาท
  • โมเมนตัมกำไร 4Q21 จะกลับมาฟื้นตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y จากปัญหา Supply Chain ที่คลี่คลาย เหลือเพียงทยอยส่งมอบสินค้าให้ทัน ส่วนราคาวัตถุดิบไม่ได้ขึ้นแรง และมีการล็อคราคาไว้แล้ว
  • ซอสกัญชงที่เริ่มออกใน 3Q21 ผลตอบรับดี และเตรียมทำซอส CBD ออกสู่ตลาดปีนี้ ส่วนแผนเพิ่มกำลังการผลิต 50% เลื่อนมาเร็วขึ้นเป็น 1Q22 ประมาณการของเรามี Upside เทียบกับเป้ารายได้ผู้บริหารที่คาดปี 2022 +10-15%
  • แนวรับ 19.80-19.50 บาท แนวต้าน 20.40-20.50 // 21 บาท
  • (กรรมการและกรรมการตรวจสอบของ FINANSIA SYRUS เป็นกรรมการอิสระและประธานกรรมการตรวจสอบของ XO)

Fund Flow: เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนพลิกมาไหลเข้าภูมิภาคเล็กน้อย US$ 91 ล้าน แต่โดยรวมยังผสมผสานไหลเข้าเกาหลีใต้ แต่ไหลออกจากไต้หวันใกล้เคียงกันที่ US$ 593-595 ล้าน ส่วนอาเซียนเม็ดเงินค่อนมาในทิศทางไหลเข้า นำโดยอินโดนีเซียและไทย ประเทศละ US$ 54-66 ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนคาดว่าจะค่อนไปในทางไหลออก โดยถูกกดดันจากเงินเฟ้อทั่วโลกที่คาดว่าจะเร่งตัว และตอกย้ำนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่างๆที่จะตึงตัวขึ้น รวมถึงยังจับตาสถานการณ์ระบาดของโอมิครอน

ประเด็นสำคัญวันนี้

(+) กลุ่มธนาคาร คาดกำไร 4Q21 -10% QQ, +12% Y-Y โดยมีค่าใช้จ่ายดำเนินงานที่เร่งขึ้นตามฤดูกาล แต่การดำเนินงานหลังทั้ง NIM Fee Income ดีขึ้น รวมถึงสำรองที่ลดลง BBL คาดว่าจะมีการเติบโตสูงสุดจากฐานต่ำปีก่อนส่วน TISCO KKP คาดโตได้ทั้ง Q-Q และ Y-Y เราคาดกำไรปี 2021 +26% Y-Y แนวโน้มกำไรปี 2022 คาดยังเร่งตัวขึ้น +11% Y-Y ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ยังคงน้ำหนักการลงทุน Overweight และมีแนวโน้มถูก Rerate PER ขึ้นจากปัจจุบันที่ยังค่อนข้างต่ำ Top Pick คือ SCB และ TTB (Source: FSSIA)

(+) TFM จะได้รับผลบวกหากภาครัฐพิจารณาปรับลดภาษีนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งปัจจุบันกากถั่วเหลืองถูกเก็บ 2%, แป้งสาลีสำหรับสัตว์ 0.5 บาท/กก. และปลาป่นนำเข้า 15% เบื้องต้นถ้ากากถั่วเหลืองได้รับการลดภาษีคาดเป็นบวกต่อ Margin ราว 0.36% บวกต่อกำไร 2.5% กระทบราคาเป้าหมาย 0.50 บาท/หุ้น ขณะที่ได้รับอนุญาตจากสมาคมอาหารสัตว์ให้ปรับขึ้นราคาอาหารสัตว์น้ำได้ราว 2% จะทยอยปรับขึ้นตั้งแต่ 1Q22 เป็นต้นไป มองผ่านกำไรต่ำสุดใน 4Q21 เพราะเป็น Low Season คาดกำไรปี 2021 -45% Y-Y และกลับมา +110% Y-Y ในปี 2022 คงราคาเป้าหมาย 17 บาท แนะนำ “ซื้อ”

(+) SCGP เข้าซื้อ Deltalab ในสเปน 85% แล้วเสร็จด้วยเม็ดเงิน 3.3 พันลบ. ซึ่งเป็นธุรกิจที่มี Net Margin สูงถึง 23% และเรามองราคาซื้อค่อนข้างต่ำที่ PER 5.2 เท่าในด้านการดำเนินงานเราคาดกำไร Q21 ฟื้นตัวหลังแรงกดดันจากเยื่อกระดาษเก่าแพงที่จบลงแล้วในเดือน ต.ค. 21 หนุน Margin ฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2021-2023 ลงเป็น +16% / +40% / +21% สะท้อนราคาเยื่อกระดาษที่สูงขึ้น แต่ยังเติบโตเด่น โดยเฉพาะปี 2022 ที่จะได้อานิสงส์จากดีล M&A ในปี 2021 เต็มปี ปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 77 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 4.81 จุด หรือ 0.013% ปิดที่ 36,231.66 จุด หลังมีรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นเพียง 199,000 ตำแหน่งในเดือน ธ.ค. ซึ่งต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดที่ 422,000 ตำแหน่งท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐและการแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอน

(-) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดลบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น และยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่สูงขึ้น

(-) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับลงท่ามกลางติดตามการแพร่ระบาด COVID-19 และแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ (Coming of Age Day)

(+) ค่าเงินบาท แข็งค่าขึ้นล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.60 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 56 เซนต์หรือ 0.7% ปิดที่ 78.90 ดอลลาร์/บาร์เรล จากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาด

(+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 8.2 ดอลลาร์หรือดอลลาร์/ออนซ์ จากการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย 0.46% ปิดที่ 1,797.4 หลังตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 977.08 / -1.74

- Advertisement -