Our View? ”รุมเร้า”

คาดตลาดวันนี้ “Sideway Down” มองแนวรับที่บริเวณ 1650/1640 และแนวต้านที่บริเวณ 1,660 / 1,670 เรามองตลาดยังคงอยู่ในบรรยากาศการลงทุนในลักษณะ Risk-off จากการส่งสัญญาณปรับลดขนาดของงบดุล Quantitative Tightening (QT) ของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ซึ่งเรายังคงมองว่าปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียงการส่งสัญญาณของ FED ให้ตลาดสามารถรับรู้ (Price-in) แนวโน้มการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงินในระยะถัดไป รวมทั้งตลาดยังคงกังวลการแพร่ระบาดที่รวดเร็วของ COVID-19 สายพันธุ์ Omicron อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นปัจจัยดังกล่าวเป็นเพียง Noise เข้ามารบกวนตลาดเป็นระยะบ้างเท่านั้น โดยเราพบว่าการเร่งตัวของผู้ติดเชื้อใหม่ ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเร่งตัวขึ้นของผู้เสียชีวิต ทำให้เราคาดว่ารัฐบาลในประเทศต่างๆ จะไม่ออกมาตรการ Lockdown ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ขณะที่เราแนะนำตามติดตามรายงานของการค้นพบเชื้อไวรัส COVID-19 สายพันธ์ุ Deltacron ในไซปรัส ซึ่งในขณะน้ียังไม่มีรายงานความรุนแรงของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ดังกล่าว แต่คาดจะเป็น Sentiment เชิงลบกดดันทิศทางตลาดได้บ้าง

ทั้งนี้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปี (US Bond Yield) ยังคงปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปี โดยล่าสุดอยู่ท่ีบริเวณ 1.7673% เพิ่มข้ึน 0.0445% (+2.58%) เรามองยังเป็นเครื่องบ่งชี้ตลาดเคลื่อนย้ายเม็ดเงินจากสินทรัพย์ปลอดภัย และมีแนวโน้มเข้าหาในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ในระยะถัดไปมองเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางราคาสินทรัพย์เสี่ยงในระยะกลาง

สำหรับราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน ก.พ. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาเริ่มชะลอตัวลงบ้างแล้ว ปิดที่ระดับ 78.90 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.56 ดอลลาร์ หรือ -0.70% เราคาดเป็นแรงขายทำกำไร หลังปรับตัวขึ้นจากการที่รัสเซียส่งทหารเข้ารักษาความไม่สงบในคาซัคสถาน ซึ่งเป็นสมาชิกของ OPEC+ รวมทั้งประเด็นกำลังการผลิตน้ำ มันของลิเบียปรับตัวลดลงราว 5 แสนบาร์เรล/วัน และจะลดลงอีกราว 2 แสนบาร์เรล/วัน จากการปิดซ่อมบำรุงท่อส่งน้ำมัน รวมท้ังเร่ิมกลับมากังวลการแพร่ระบาดของ Omicron อีกคร้ัง มองคาดจะกดดันทิศทางราคาน้ำมัน -หุ้นในกลุ่มพลังงานลดลงได้บ้างในระยะสั้น

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เฉพาะตัว อย่างไรก็ตาม เรายังชอบหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB, TTB) ที่คาดการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะสามารถทำให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยโลกเริ่มปรับเปลี่ยนเป็นขาขึ้น พร้อมทั้งการตั้ง ECL ท่ีคาดจะเร่ิมปรับลดลงตั้งแต่ ในช่วง 1Q’65 รวมท้ังหุ้นในกลุ่ม EV Play (EA, GPSC, HANA และ SAT) ตามแนวโน้มการผลักดันการใช้รถไฟฟ้า (EV) ของไทย ที่ตั้งเป้าจะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าคิดเป็นสัดส่วน 30% ของการผลิตทั้งหมดภายในปี’ 73 และคาดว่าจะเริ่มเห็นการออกมาตรการกระตุ้นและสนับสนุนที่ชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ปีน้ี

ขณะท่ียังต้องติดตามเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีจากธุรกรรมขายหุ้น (Financial transaction tax) อัตรา 0.1% จากมูลค่าการขาย คาดยังเป็นปัจจัยจำกัด Upside ของตลาดหุ้นไทยได้บ้าง

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “PTG”

ซื้อเล่นสั้น แนวรับ 15.20 / 14.90 Target 17.00 / 18.30 Stop <14.80

- Advertisement -