บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง :
ประเด็นการลงทุน
ทำสัญญาซื้อหุ้นบ.วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในสเปนได้ข้อสรุปปลาย 3Q64 และ ใน 3Q64 จะได้ข้อสรุป M&P อีก 2 กิจการ คือ DuyTan และ Intan รวมแล้วจะช่วยเพิ่มยอดขายต่อปี 1.2 หมื่นล้านบาท และ ยังเสริมด้วยการขยายกำลังการผลิตอีก 5 โครงการ ทำให้ผลประกอบการปี 2564-65 เติบโตสูง ปรับประมาณการเพิ่มขึ้นอีก ทำให้ราคาเป้าหมายใช้วิธี DCF บนสมมิตฐาน WACC 8% และ L-T terminal growth 3.2% เพิ่มขึ้นเป็น 72 บาท จากเดิม 58 บาท แนะนำ ซื้อช่วงอ่อนตัว หลังหุ้นขึ้นมาแรง
ทำสัญญาซื้อหุ้นบ.วัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ในสเปน
SCGP ได้ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นเพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 85% ใน Deltalab, S.L (หรือ “Deltalab”) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Supplies and Labware) ที่จดทะเบียนในประเทศสเปน คาดจะเสร็จสิ้นในปลาย 3Q64 Deltalab เป็นที่รู้จักในฐานะผู้ เชี่ยวชาญด้านการผลิตและจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงในยุโรป
โดยมีผลิตภัณฑ์กว่า 15,000 หน่วยและปริมาณการผลิต 250 ล้านชิ้นต่อปี มีการส่งออกสินค้าหลายรายการไปยัง 125 ประเทศทั่วโลก ในปี 2563 Deltalab มีรายได้ 2,800 ล้านบาท และมีสินทรัพย์ 2,100 ล้านบาท การลงทุนครั้งนี้สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ในการดูแลรักษาสุขภาพและแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุซึ่งส่งผลให้ความต้องการในการตรวจรวมถึงวินิจฉัยโรคสูงขึ้นทั่วโลก อุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพและการแพทย์ ขนาดตลาดประมาณ 8.1 แสนล้านบาท ในยุโรป และ 1.5 ล้านล้านบาท ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
การควบรวมกิจการ (M&P) 3 บริษัทจะช่วยเพิ่มยอดขาย 1.2 หมื่นล้านบาท
ใน 3Q64 SCGP จะได้ข้อสรุปเข้าซื้อกิจการและเป็นพันธมิตร (M&P) เพิ่มอีกสองแห่งหลังจากที่ประกาศก่อนหน้านี้ คือ Duy Tan Plastic ผู้ผลิตสินค้าบรรจุภัณฑ์พลาสแบบคงรูป (Rigid Packaging) ชั้นนำในเวียดนาม ปี 2563 มีรายได้ประมาณ 6,100 ล้านบาท และ Intan Group เป็นหนึ่งในผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์กล่องลูกฟูกในอินโดนีเซีย ปี 2563 มีรายได้ ประมาณ 3,057 ล้านบาท เมื่อรวม Deltalab การ M&Psจะช่วยเพิ่มยอดขายรวมต่อปีประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท และ ยังบวกด้วยการเติบโตสูง
แนวโน้มผลประกอบการจะเติบโตสูง ปรับประมาณการขึ้น
SCGP มี 5 โครงการที่ขยายกำลังการผลิตที่จะทยอยเสร็จในปีนี้ และ ต้นปีหน้า จะช่วยเพิ่มยอดขายรวม 1.1 หมื่น ล้านบาท โดยจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 3 พันล้านบาท และ เมื่อรวม SOVI 2 พันล้านบาท และ Go-Pak 3 พันล้านบาท ซึ่งรับรู้ตั้งแต่ต้นปี รวมถึง M&P 3 บริษัท จะทำให้ โดยยอดขายปีนี้จะเติบโต 20% สู่ระดับ 111,938 ล้านบาท และ มีกำไรปกติท่ากับ 8,912 ล้านบาท เติบโต 33% เราปรับประมาณการปี 2565 ขึ้น จะทำให้ยอดขายโต 16% สู่ระดับ 129,730 ล้านบาท และ มีกำไร 10,573 ล้านบาท โต 19%