สรุปภาวะตลาด
วันพฤหัสที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบแคบ หลังจากช่วงก่อนหน้าดัชนีได้ปรับตัวข้ึนมา ทำให้ดัชนีมีการพักตัว หุ้นกลุ่มธนาคารและการเงินช่วยหนุนดัชนี เช่น BAY, SCB, BBL และ SAWAD ส่วนหุ้นขนาดเล็กปรับตัวได้ดีกว่า โดยดัชนี sSET และ MAI บวกราว 1% ขณะท่ีดัชนี SET Index ปิดตลาดท่ี 1,680.02 จุด +1.52 จุด +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 82,469 ลบ. ต่างชาติ +1,144.03 ลบ. TFEX +8,538 สัญญา ตราสารหน้ี +5,309.45 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ สหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต +9.7%YoY ในเดือน ธ.ค. แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 9.8% หลังจากดีดตัวขึ้น 9.6% ในเดือนพ.ย.
+ WHO ระบุว่าโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอนก่อให้เกิดโรคร้ายแรงได้น้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ยังคงเป็นไวรัสอันตรายโดยเฉพาะกับผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน
+ IMF เปิดเผยว่า เงินเฟ้อในสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวลดลงในไตรมาส 2/2565
+ กบร.ขยายเวลาช่วยสายการบินออกไปอีก 3 เดือน ลด ค่าขึ้นลง-บริการท่ีเก็บเครื่องบิน 50% ขยายเวลาชำระ หนี้ ลดค่าเช่าทุกกิจกรรม หลังโอมิครอนระบาดหนัก ผู้โดยสารชะลอตัว
+ หอการค้าไทย เผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค.64 ฟื้น สูงสุดรอบ 9 เดือน ส่วนเดือนม.ค.65 มีแนวโน้มปรับลดลง จากปัญหาการแพร่ระบาดโอมิครอนและหมูราคาแพง
+/- ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 8,158 ราย ATK 2,760 ราย มีผู้เสียชีวิต 15 ราย รักษาหาย 3,942 ราย
ปัจจัยลบ
– ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 176.70 จุด -0.49% เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ และมีแรงกดดันจากการท่ีจนท.หลายคนของเฟด ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด แสดงความเห็นเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 52 เซนต์ -0.6% ปิดท่ี 82.12 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วัน และจนท.หลายคนของเฟด สนับสนุนเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ
– สหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 23,000 ราย สู่ระดับ 230,000 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.64 และสวนทางกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าจะลดลงแตะ 200,000 ราย
– คณะบริหารของปธน.โจ ไบเดน ประกาศคว่าบาตรเกาหลี เหนือเป็นครั้งแรก หลังจากเกาหลีเหนือเดินหน้าทดสอบอาวุธ
– CDC ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตจากโควิดมีแนวโนม้เพิ่มขึ้นในช่วง 4 สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะมีผู้เสียชีวิตรายใหม่ 10,400-31,000 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในสหรัฐมีสัดส่วนมากกว่า 98% ของจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศ
– ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า จากการที่ครม. อนุมัติวงเงินงบประมาณปี 66 ที่เป็นแบบขาดดุลต่อเนื่อง 6.95 แสนล้านบาท แม้ลดลงจากขาดดุล 7 แสนล้านบาทในปีงบ 65 แต่ยังสูงกว่าในช่วงก่อนวิกฤติโควิด-19 ทำให้ประเมินว่ายอดคงค้างหนี้ในประเทศของภาครัฐในปี 65 ตามปีปฏิทินมีโอกาสแตะ 9.90 ล้าน ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากยอดคงค้างในปี 64
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันน้ีมีโอกาสอ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยยังมีความกังวลเก่ียวกับภาวะเงินเฟ้อและการ ปรับข้ึนอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่ยังต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศที่ยังทรงตัวในระดับสูง มอง กรอบดัชนีในวันนี้ท่ี 1,670-1,685 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- ได้ประโยชน์จากโครงการ ‘ช้อปดีมีคืน’ : COM7 SYNEX CPW SPVI SVOA JMART IT
- น้ำมันดิบ WTI ปรับตัวข้ึนต่อเนื่อง PTTEP PTTGC IVL
- ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
หุ้นรายงานพิเศษ
BANPU – แนะนำเก็งกำไร (Bloomberg Consensus 14.00 บาท)
- ราคาถ่านหินปรับตัวขึ้น 34%YTD สู่ 211 ดอลลาร์ต่อตัน หลังอินโดนีเซียประกาศระงับส่งออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ล่าสุดอินโดนีเซียเตรียมอนุมัติการส่งออกถ่านหินอีกครั้ง เนื่องจากอินโดนีเซียมีปริมาณถ่านหินเพียงพอที่จะรองรับความต้องการภายในประเทศ โดยความเคลื่อนไหวของอินโดนีเซียมีข้ึนหลังจากท่ีหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และฟิลิปปินส์ ต่างเรียกร้องให้อินโดนีเซียพิจารณาทบทวนคำส่ังห้ามส่งออกถ่านหินก่อนหน้านี้
- ความเห็น เรามุมมองบวกต่อผลประกอบการ BANPU เนื่องจากมีสัดส่วนรายได้จากการจำหน่ายถ่านหินในอินโดนีเซียราว 75% จากรายได้ถ่านหินทั้งหมด อีกทั้งราคาหุ้นปรับตัวลงตอบรับข่าวร้ายไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ราคาถ่านหินทรงตัวเหนือ 211 ดอลลาร์ต่อตัน จะเป็นปัจจัยหนุนต่อผลประกอบการเพิ่มเติม เนื่องจากต้นทุนการผลิตอยู่ท่ีระดับ 50-70$ ต่อตัน
หุ้นมีข่าว
(+) CGH (Bloomberg Consensus – บาท) ลงสนามดิจิทัลแอสเซท-เมตาเวิร์ส เต็มตัว ประกาศตั้ง พาย เวนเจอร์ส ทุนจดทะเบียน 500 ล้านบาท เข้าลงทุนหลายโครงการ เริ่มไตรมาสนี้ ชูต่อยอดธุรกิจอนาคต หลังได้เข้าลงทุนในกลุ่มบริษัท คริปโตมายด์ มือดีด้านการลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านโบรกชี้ บริษัทหลักทรัพย์รุกดิจิทัลมักเนื้อหอมดูดนักลงทุน แต่ต้องดูอนาคต ขณะที่ผลงานกลุ่มหลักทรัพย์เด่น (ที่มา ทันหุ้น)
(+) NER (Bloomberg Consensus 10.00 บาท) ตั้งเป้าปี 2565 โกยรายได้อยู่ท่ี 28,000 ล้านบาท ดีมานด์ยางดีต่อเนื่อง เล็งจำหน่ายแผ่นยางปูรองปศุสัตว์ ในช่วงไตรมาส 1/2565 ภายใต้แบรนด์ cattleFlex อัตรากำไรขั้นต้นในระดับสูง พร้อมเตรียมงบ 240 ล้านบาท ลงทุนโซลาร์รูฟวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ ด้านโบรกส่องกำไรนิวไฮ จับตาปีนี้มาร์จิ้นเด่น (ท่ีมา ทันหุ้น)
(+) BIZ (Bloomberg Consensus – บาท) เดินหน้าประมูลงานต่อเนื่อง คาดได้งานเพิ่ม 600- 700 ล้านบาท จากมูลค่างานกว่า 1,000 ล้านบาท หนุนแบ็กล็อกเพิ่มจากปัจจุบันที่มีประมาณ 1,100 ล้านบาท ด้านธุรกิจโรงพยาบาลเฉพาะทางมะเร็งฯ วางเป้าปี 65 มีรายได้โต 90 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
(+) TM (Bloomberg Consensus – บาท) เปิดแผนปี 65 ตั้งเป้ารายได้โต 5-10% แตะ 700-750 ล้านบาท ชูธุรกิจหลักดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง แย้มไตรมาส 1/65 เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ รุก OEM-ออนไลน์ เล็งเปิดบริการศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ THE PARENTS ในไตรมาส 3/65 (ที่มา ข่าวหุ้น)
ปัจจัยจับตาในประเทศ
- สัปดาห์ที่ 3 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงยอดการผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
สัปดาห์ที่ 4 สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) แถลงดัชนีอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค, ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
- 31 ม.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย
ปัจจัยจับตาต่างประเทศ
- 14 ม.ค. สหรัฐรายงานยอดค้าปลีกเดือนธ.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค. จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
- 17 ม.ค.จีนรายงาน GDP 4Q64
- 18 ม.ค. อียู รายงานความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เดือน ม.ค.จากสถาบัน ZEW
สหรัฐรายงานดัชนีภาคการผลิต (EmpireState Manufacturing Index) เดือนม.ค.จากเฟด
นิวยอร์ก ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือน ม.ค.จาก สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)
- 20 ม.ค.ธนาคารกลางจีนกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR
- 25-26 ม.ค. กำหนดการประชุม FED
- 2 ก.พ. ประชุมโอเปกพลัส