ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้

บวกต่อ แต่น่าจะอยู่ในกรอบจำกัด

ฝ่ายวิจัย KGI ประเมิน SET Index วันศุกร์แกว่งตัวขึ้น (Sideways up) … หลังจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยเทรดในกรอบแคบๆ ทั้งวัน (อ่อนแอกว่าคาดเล็กน้อย) แต่ฟันด์โฟลว์ยังดีอยู่ และหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ซึ่งเป็นกลุ่มที่เราแนะนำต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมายังคงแข็งกว่าดัชนีฯ … ขณะที่ในวันนี้ปัจจัยโดยรวมเป็นกลางๆ i) ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับฐานลงอีกครั้ง ตามแรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) เดือน ธ.ค. 2564 เพิ่มขึ้น 8.3% YoY สูงกว่าที่ consensus คาดที่ 8.0% ขณะที่ตัวเลขยอดขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ออกมาไม่ดีนัก สูงขึ้นเป็น 2.3 แสนคน เทียบกับที่ consensus คาดที่ 2.0 แสนคน ii) เมื่อคืนนี้ผู้ว่าการเฟด 3 รัฐแถลงประสานเสียงถึงความเหมาะสมในการปรับขึ้นดอกเบี้ย และการปรับนโยบายการเงิน ส่งผลให้สัญญา Fed Fund Futures ให้น้ำหนักถึง 83% ว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. 2565 และน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ อย่างไรก็ดี หุ้นไทยน่าจะยังได้แรงหนุนจากฟันด์โฟลว์ต่างชาติตามภาพใหญ่ของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในฝั่งเอเชีย ขณะที่บอนด์ยิลด์และค่าเงินดอลลาร์ฯ ยังไม่ได้ปรับขึ้นรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา (ต้องติดตามต่อไป) ทั้งนี้ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงการรายงานงบไตรมาส 4/2564 ของกลุ่มธนาคารฯ ทั้งฝั่งสหรัฐฯและฝั่งไทยด้วย ขณะที่เช้าวันนี้ ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 อยู่ที่ 8,158 ราย เสียชีวิต 15 ราย และหายป่วยกลับบ้าน 3,942 ราย

หุ้นเด่นวันนี้ตามปัจจัยพื้นฐาน

เก็งกำไร AEONTS*, UBE, GPSC*

  • AEONTS* (เป้าพื้นฐาน 240 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 186 บาท / แนวต้าน 194 บาท หากผ่านแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป 208-220 บาท (Stop loss 180 บาท) 2) ประเมินราคาหุ้น Laggard กลุ่มสินเชื่อที่เริ่มมีแรงซื้อในลักษณะ Sector rotation (หมุนเล่นกลุ่ม Laggard) ขณะที่ Valuation AEONTS* ถูกด้วย Forward PE ปี 2564/65 (ปิดงบ ก.พ. ) เพียง 12.1 เท่า และ Forward PE ปี 2565/66 (ปิดงบ ก.พ. ) เพียง 9.7 เท่า (คาดกําไรปี 2565/66 โต + 13% YoY)
  • UBE (เป้าพื้นฐาน 3.2 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 2.34 บาท / แนวต้าน 2.42 – 2.54 บาท หาก Break ผ่านแนวต้านนีไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 2.7 บาท (Stop loss 2.28 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินกำไร 4Q64 จะเติบโต 200 และโตเด่น +220% YoY เป็นราว +/- 100 ล้านบาท จากปริมาณขายเอทานอล (เชื้อเพลิง) ที่ฟื้นตัว QoQ หลังผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ และปริมาณส่งออกแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค คาดจะเพิ่มขึ้น +150% QoQ (มีการเลื่อนส่งออกมาเป็น 4Q64 + เศรษฐกิจฟื้น) 3) Forward PE ปี 2565 ต่ำเพียง 17.2 เท่า ขณะที่คาดกำไรปี 2565 โต 86% YoY
  • GPSC* (เป้าพื้นฐาน 94.5 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 85.5 บาท / แนวต้าน 88.5-90.0 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป +/- 94 บาท (Stop loss 83.5 บาท) 2) ร่วมลงทุนกับ PTT จัดตั้ง JV (นูออโวพลัส) โดยจะเป็นการลงทุนในห่วงโซ่ธุรกิจแบตเตอรี่รถ EV ทุนจะทะเบียน 4,200 ล้านบาท … เป็น Upside เนื่องจากยังไม่อยู่ในประมาณการฯ 3) Forward PE ปี 2565 ยังต่ำเพียง 25 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง

หุ้นมีข่าว

(+) AMATA* ทุ่มพันล้านดอลล์ผุดเมืองอุตฯ ในลาว-ร่วมมือพันธมิตร (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา) “อมตะ” ปักหมุดลงทุนผุดเมืองอุตสาหกรรมทันสมัย อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ ในลาว บนพื้นที่เป้าหมายนาเตย แขวงน้ำทา ทุ่มพันล้านเหรียญสหรัฐพัฒนาเฟสแรกรวม 410 เฮกตาร์ พร้อมเดินหน้าหาพันธมิตรไทย-ต่างชาติร่วมสร้างเมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

(+) EE จ่อซื้อกิจการปลูกกัญชง คาดจบดีล ‘เทคโอเวอร์’ ธุรกิจต้นน้ำไตรมาส 1/65 (กรุงเทพธุรกิจ) ราคาหุ้นพุ่ง 18.92% ทำสถิติสูงสุด ขานรับส่งมอบผลผลิตกัญชงเม.ย. นี้ “อีเทอเนล เอนเนอยี” เดินหน้าลุยธุรกิจกัญชง-กัญชาหลังได้ใบอนุญาตเผยเมล็ดแรกลงแปลงเพาะปลูกแล้ว ลั่นเก็บเกี่ยวผลผลิตส่งลูกค้าเดือน เม.ย. นี้ หลังเซ็น MOU 2-3 ราย แย้มกำลังเจรจาซื้อกิจการธุรกิจต้นน้ำ (ปลูก) คาดชัดเจนไตรมาส 1 ปี 65 ด้านรายได้ปีนี้เติบโตกว่าปีก่อน

(+) RICHY อัพฐานเงินดิจิทัล มองอสังหากำลังซื้อฟื้น (ทันหุ้น) RICHY เคาะปี 2565 ตั้งเป้าหมายรายได้แตะ 4,000 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 65% มองภาพอสังหาผ่านจุดต่ำสุด กำลังซื้อผู้บริโภคฟื้น ขนโครงการพร้อมขายมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท และเตรียมเปิด 4 โครงการมูลค่า 6,000 ล้านบาท วางงบซื้อที่ดิน 1,400 ล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการเพิ่ม รุกขยายฐานเงินดิจิทัลต่อยอด

(+) GFPT เดินหน้าเพิ่มกำลังผลิต คาดตรึงราคาไก่กระทบจำกัด (ทันหุ้น) GFPT มั่นใจรัฐบาลตรึงราคาไก่เป็นเนื้อไก่กระทบรายได้รวมทั้งปี 2565 ในกรอบจำกัด เนื่องจากสามารถขายชิ้นส่วนไก่สดได้ในราคาสูงกว่าราคาควบคุม ประกอบธุรกิจไก่ครบวงจรต้นน้ำ-ปลายน้ำ ทั้งยังเน้นส่งออกเนื้อไก่ปรุงสุกแปรรูปผ่านบริษัทในเครือ ควบคู่ขยายฐานตลาดชิ้นส่วนไก่ในจีน และยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตไก่ได้อีก 6 พันตันต่อปี

(+) OSP* ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น รุกตลาดขนมขบเคี้ยว วางเป้ายอดขายโต 30% (ข่าวหุ้น) OSPF แตกไลน์ธุรกิจสู่ตลาดขนมขบเคี้ยว ล่าสุดได้รับแต่งตั้งจากบริษัท โคอิเคยะ (ประเทศไทย) ผู้นำตลาดขนมขบเคี้ยวจากญี่ปุ่นเป็นตัวแทนจำหน่ายในไทย รุกกระจายสินค้าสู่ร้านค้าปลีกดั้งเดิม และแม็คโครกว่า 400,000 แห่งทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายโต 30%

(+) RICHY ลั่นเป้ารายได้ปีนี้โต 65% เล็งเปิด 4 โครงการมูลค่ารวม 6 พันล้าน (ข่าวหุ้น) “ริชี่ เพลซ 2002″ กางแผนปี 65 โกยรายได้ 2,300 ล้านบาท โต 65% ตุนแบ็กล็อก 3,423 ล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้ายอดขาย 4,000 ล้านบาท เล็งผุด 4 โครงการมูลค่ารวม 6,000 ล้านบาท วางขยายพอร์ตกลุ่ม Retail Mall หวังเพิ่มสัดส่วนเป็น 10%

หุ้นที่เคยแนะนำก่อนหน้า

  • หุ้นที่ผ่านแนวต้านหลักๆ ได้แล้ว แนะนำ “Let profit run” โดยกำหนด Trailing stop: OTO (Trailing stop 14.3 บาท), ECL (Trailing stop 3.22 บาท)
  • LEO (เป้าพื้นฐาน 19 บาท) แนวรับ 16.6 บาท / แนวต้าน 17.0-17.2 บาท หากผ่านกรอบแนวต้านนี้ไปได้แนะนํา “Let profit run” (Trailing stop 16.0 บาท)
  • EPG* (เป้าพื้นฐาน 15.5 บาท) แนวรับ 12.1 บาท / แนวต้าน 12.6-13 บาท (Trailing stop 12 บาท) ·
  • TFG (เป้า Consensus 4.97 บาท / สูงสุด 6.2 บาท) แนวรับ 5.0 บาท / แนวต้าน 5.2 – 5.35 บาท (Stop loss 5.0 บาท)
  • PTG* (เป้าพื้นฐาน 20 บาท) แนวรับ 15.0 บาท / แนวต้าน 15.7-15.9 บาท (Stop loss 15.0 บาท)
  • BBL* (เป้าพื้นฐาน 160 บาท) แนวรับ 128 บาท / แนวต้าน 130-135 บาท (Stop loss 125 บาท)
  • BEC* (เป้าพื้นฐาน 14.4 บาท) แนวรับ 14.2 บาท / แนวต้าน 14.6 – 15.0 (Trailing stop 13.8 บาท)

Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้

  • LH แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 9.8 บาท จากการประชุมนักวิเคราะห์มุมมองเป็นบวกเล็กน้อย โดยผู้บริหารตั้งเป้าหมายการกลับมาเติบโตของธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าเป็นไปตามที่คาด ทั้งนี้ทาง LH วางแผนที่จะขายอพาร์ทเม้นท์ 1 แห่งในสหรัฐฯช่วง 2Q65 ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ได้รวมกำไรจากการขายในประมาณการฯ แล้ว
  • AOT แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 73 บาท ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรายงานผลขาดทุนใน 1Q65 (ต.ค. 64-ธ.ค. 64) ราว 3.37 พันล้านบาท (ขาดทุนลดลง YoY, QoQ) ฝ่ายวิจัยฯ ปรับลดประมาณการฯ จากการปรับลดสมมติฐานจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง อย่างไรก็ดี ภาพการฟื้นตัวระยะยาวยังเป็นบวก จึงคงแนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐานปรับลดลงเป็น 73 บาท (เดิม 73.5 บาท)

หมายเหตุ: 1.* บริษัทอาจเป็นผู้ออกใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์บนหลักทรัพย์นี้ / 2. เป้าพื้นฐาน หมายถึง ราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐาน (Forecasted 12M Target price) ที่อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานฉบับล่าสุดของฝ่ายวิจัยฯ / 3. เป้า Consensus หมายถึง ค่าเฉลี่ยของราคาเป้าหมายเชิงพื้นฐานที่จัดทำโดย Bloomberg consensus หรือ IAA Consensus

- Advertisement -