บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

Land and Houses (LH.BK / LH TB)* บริษัทมองแนวโน้มปี 2565F เป็นบวกมากขึ้น

Event

ประชุมนักวิเคราะห์

Impact

มูลค่าโครงการเปิดใหม่จะเพิ่มขึ้นถึง 50% YoY เป็น 2.95 หมื่นล้านบาท

LH มีแผนจะเปิดโครงการใหม่ 15 โครงการในปี 2565F มูลค่ารวม 2.95 หมื่นล้านบาท (+50% YoY) แบ่งเป็น i) โครงการแนวราบ 14 โครงการ มูลค่ารวม 2.87 หมื่นล้านบาท (+46% YoY) และ ii) โครงการคอนโดมิเนียมหนึ่งโครงการมูลค่า 820 ล้านบาท (จากที่ไม่ได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เลยในปี 2564) โดยรวมแล้วเรามองว่าแผนเปิดโครงการใหม่ของบริษัทมีลักษณะเป็นเชิงรุกมากขึ้น เนื่องจากผู้บริหารมองบวกมากขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้เรามองว่าโครงการที่จะเปิดใหม่ของ LH ในปี 2565 ยังเน้นกลุ่มตลาดบนซึ่งมีแนวโน้มสดใส โดยราคาขายเฉลี่ยต่อยูนิตอยู่ที่ 9.1 ล้านบาท

ผู้บริหารตั้งเป้ายอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยที่ประมาณ 19% YoY ในปี 2565F

LH ตั้งเป้ายอด presales ไว้ที่ 3.1 หมื่นล้านบาท (+8% YoY) และตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดโอนโครงการที่อยู่อาศัยไว้ที่ประมาณ 9% YoY เป็น 3.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งทั้งเป้ายอด presales และยอดโอนในปี 2565F ของ บริษัทใกล้เคียงประมาณการของเรา และเราคาดว่าบริษัทน่าจะทำได้ตามเป้า เนื่องจาก i) ภาวะตลาดโดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้นตลอดปี 2565F ซึ่งจะช่วยหนุนยอด presales ii) การเปิดโครงการแนวราบเชิงรุก และ iii) ตลาดระดับกลางถึงบนน่าจะทนภาวะเศรษฐกิจที่เลวร้ายลงได้ดีกว่า ในขณะเดียวกัน LH ตั้งเป้ารายได้จากค่าเช่าในปี 2565F เอาไว้ที่ 3.8 พันล้านบาท (+119% YoY) ซึ่งจะเพิ่มขึ้นจากฐานที่ต่ำ และตั้งเป้า occupancy ของธุรกิจโรงแรมไว้ที่ 50% (จาก 25% ในปี 2563)

จะกลับมาขายการสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอีกครั้งในปี 2565F

LH มีแผนหลักที่จะขายสินทรัพย์เพื่อการลงทุนออกไปปีละหนึ่งรายการ (โรงแรมหรืออพาร์ตเมนท์) แต่ไม่ได้ขายออกไปในปี 2564 เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้ออำนวย แต่เมื่อมองต่อไปในปี 2565F บริษัทมีแผนจะขายอพาร์ตเมนท์หนึ่งแห่งในสหรัฐออกไปใน 2Q65F ซึ่งเราคาดว่าจะมีกำไร 1.5 พันล้านบาท และใส่ไว้ในประมาณการเรียบร้อยแล้ว

จะเปิดโรงแรมใหม่หนึ่งแห่ง และห้าง community mall หนึ่งแห่งใน 3Q65F

LH มีแผนจะเปิดห้าง Terminal 21 พระราม 3 และโรงแรม Grand Centre Point Space Pattaya ใน 3Q65F ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ให้กับบริษัท 311 ล้านบาท และ 217 ล้านบาทในปี 2565F ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าสินทรัพย์ทั้งสองรายการนี้จะยังคงมีผลขาดทุนในปี 2565F จากการเร่งเพิ่มผลการดำเนินงาน และการบันทึกค่าใช้จ่ายก่อนการเปิดให้บริการ

Valuation & action

จากแนวโน้มผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งของโครงการแนวราบในระยะต่อไป และการฟื้นตัวของธุรกิจค้าปลีกและโรงแรมของ LH เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 9.80 บาท (ธุรกิจ conventional 6.10 บาท และธุรกิจการลงทุน 3.70 บาท)

Risks ภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอลง

- Advertisement -