บล.เคจีไอ (ประเทศไทย):

บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) ฤดูเก็บเกี่ยว “กัญชง” กำลังมาถึง

สรุปประเด็นสำคัญและข่าวล่าสุด

  • คาดกำไรจากการดำเนินงานปี 2565 โต +212%YoY จากการเริ่มเก็บเกี่ยวธุรกิจกัญชงตั้งแต่ 2Q65 เป็นต้นไป
  • วางมัดจำเตรียมศึกษาการลงทุนในแหล่งเพราะปลูกกัญชงอีกแห่งแล้ว คาดสรุปการลงทุนภายใน 1H65
  • คาดกำไรเฉลี่ยปีละ 200 ล้านบาท ถึงปี 2567 จะล้างขาดทุนสะสมหมด
  • แนะนำ ซื้อ เป้าพื้นฐาน 3.00 บาท

เปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ เริ่มก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมกัญชง (ต้นน้ำ)

ปี 2564 ที่ผ่านมา EE ตัดสินใจขายหุ้น SSUT ซึ่งทำธุรกิจโรงไฟฟ้าออกไป และได้รับเงินจากการขายรวม 1,246 ล้านบาท หลังจากนั้นได้เข้าทำการซื้อหุ้นบริษัท แคนนาบิส เวย์ หรือ “CW” มูลค่า 650 ล้านบาท (EE เข้าถือหุ้น 80% ใน CW) โดย CW ประกอบธุรกิจค้าและผลิตกัญชง โดยแบ่งเป็นการปลูกในโรงเรือนและกลางแจ้ง ซึ่งได้ใบอนุญาตในการปลูกกัญชงแล้ว และเริ่มทำการลงเมล็ดเพาะปลูกเมื่อเดือน ม.ค. 2565 คาดว่าจะเริ่มเก็บเก่ียวคร้ังแรกได้ในเดือน เม.ย.65

คาดกำไรจากการดำเนินงานปี 2565 โต +212% YoY

เราประเมินมีความต้องการผลิตภัณฑ์จากกัญชงสูง เนื่องจากสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการแพทย์ โดยเฉพาะสารสกัด CBD จากช่อดอกกัญชง รวมถึงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม โดยส่วนผลิตผลอื่นๆของกัญชง อาทิ ใบ ลำต้น ราก เป็นต้น สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการบริโภคได้ ซึ่งกระแสความนิยมบริโภคกัญชงที่คาดจะเพิ่มข้ึน โดยเฉพาะในช่วง 1 – 3 ปีแรกจะเป็นปัจจัยหนุนราคาผลิตผลกัญชง เนื่องจากอุปทานยังมีจำกัด รวมทั้งภาครัฐฯ ยังมีการสนับสนุนด้วยการห้ามนำเข้าผลิตผลจากกัญชงไปอีก 4 ปี (ถึงปี 2568) ดังนั้น การเริ่มทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมกัญชงจากต้นน้ำในช่วงปีแรกๆ ของการสนับสนุน จะเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวผลการดำเนินงานที่ดีของ EE ทั้งน้ี ผลิตผลจากกัญชงจากแหล่งเพาะปลูกของ CW มีสัญญาณรับซื้อจากผู้ประกอบการขั้นกลางน้ำแล้ว อาทิ ผู้สกัดสาร CBD และผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น เราคาด EE จะมีกำไรจากการดำเนินงาน (ไม่รวม กำไรพิเศษ) ในปี 2565 เท่ากับ 209 ล้านบาท (+212% YoY)

คาดยังมีการลงทุนเพิ่มเติมอีก เป็น Upside ต่อประมาณการฯ

EE ยังมีเงินสดที่เหลือจากการขายหุ้น SSUT อีกราว 596 ล้านบาท และได้ทำการวางเงินมัดจำการเข้าซื้อธุรกิจผลิตกัญชงอีกแห่ง โดยได้วางเงินมัดจำ (สามารถเรียกคืนได้ หากท้ายสุดแล้วทาง EE ไม่ตัดสินใจลงทุน) ไปแล้ว 150 ล้านบาท และอยู่ระหว่างพิจารณาตรวจสอบสถานะกิจการ ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปการลงทุนได้ใน 1Q65 ทั้งน้ี เราจัดทำประมาณการฯแบบอนุรักษ์นิยม โดยยังไม่รวมการลงทุนธุรกิจผลิตกัญชงแห่งที่ 2 ในประมาณการฯ และกำหนดสมมติฐานให้ EE นำเงินสดที่เหลือ 596 ล้านบาท ฝากธนาคารระยะยาว อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี โดยหากมีการ สรุปการลงทุนได้ จะทำการปรับปรุงประมาณการฯอีกคร้ัง

ปี 2567 ล้างขาดทุนสะสมหมด พร้อมจ่ายปันผลได้

จากประมาณการฯแบบอนุรักษ์นิยมของเรา คาดว่าหากทาง EE รับรู้รายได้จากธุรกิจผลิตกัญชงเพียงแห่งเดียว (CW) และมีกำไรจากการดำเนินงานเฉลี่ยปีละ +200 ล้านบาท EE จะสามารถล้างขาดทุนสะสมที่มีในงบการเงินได้ภายในปี 2567

แนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าพื้นฐาน 3.0 บาท

เราประเมินราคาเหมาะสม EE โดยอิงเป้าหมาย Forward PE 40 เท่า ซึ่งเรากำหนดสมมติฐานเป้าหมาย Forward PE ท่ีพรีเมี่ยม เนื่องจาก i) Discount จาก Forward PE ของหุ้นที่ทำธุรกิจกัญชง – กัญชาในต่างประเทศที่มี Forward PE เฉลี่ย 49 เท่า และโอกาสในการเข้าลงทุนเพิ่มเติมอีกจากเงินสดในมือกว่า 600 ล้านบาท รวมทั้งเป็นบริษัทที่ไม่มีหน้ีสินระยะยาว

ความเสี่ยงต่อประมาณการฯ: ธุรกิจปลูกกัญชงเป็นธุรกิจการเกษตรที่มีความผันผวน ทั้งผลผลิตที่เพาะปลูกได้ รวมทั้งราคาขายผลิตภัณฑ์และต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวนตามอุปสงค์-อุปทาน

- Advertisement -