บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

BCPG คาดกำไรปกติ 4Q64 ลดลง QoQ และ YoY จากฐานที่สูง

Action

BUY (Maintain)

TP upside (downside) +56.4%

Close Jan 25, 2022 Price (THB) 11.70

12M Target (THB) 18.30

Previous Target (THB) 18.30

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 466 ล้านบาท ลดลง QoQ และ YoY จากการออกจากช่วง High Season ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในลาว และผลกระทบจาก Adder ท่ีหมดอายุลงของโครงการ BCPG 1
  • กำไรปกติ 1Q65 มีแนวโน้มเติบโต YoY จาก 1) การรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า Chiba 1 ในญี่ปุ่น แบบเต็มไตรมาส 2) Capacity Factor ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไทยท่ีสูงขึ้น YoY จากการปรับปรุงประสิทธิภาพ และ 3) การ COD โรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นเพิ่มอีก 2 แห่ง ขนาดรวม 45MW

Our View

  • คงประมาณการกำไรปี 2565 ที่ 2,213 ล้านบาท ทรงตัว YoY แม้จะมีผลกระทบจาก Adder ที่หมดอายุลงบางส่วน แต่การ COD โครงการใหม่สามารถชดเชยได้ในระดับหนึ่ง
  • คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 18.30 บาทต่อหุ้น มี Upside 56.4% อย่างไรก็ตาม ในเชิงกลยุทธ์อาจ ชะลอการลงทุนออกไป เนื่องจากราคาหุ้นมีโอกาสได้รับแรงกดดันระยะสั้นจากกำไร 4Q64 ที่มีแนวโน้มลดลง QoQ และ YoY

คาดกำไรปกติ 4Q64 ลดลง QoQ และ YoY

คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 466 ล้านบาท ลดลง -34% QoQ และ -13% YoY แม้จะมีปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าในไทยที่เพิ่มขึ้น QoQ และ YoY จากการทำ Efficiency Improvement และปริมาณขายไฟฟ้าในญี่ปุ่นที่สูงขึ้น QoQ และ YoY จากการ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Chiba 1 ขนาด 20MW เนื่องจาก 1) ปริมาณจำหน่ายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam San 3A และ 3B ในลาวที่ 142GWh ลดลงจาก 210GWh ใน 3Q64 และ 157GWh ใน 4Q63 หลังออกจากช่วง High Season ในไตรมาส 3 และมรสุมไม่เลื่อนฤดูกาลเหมือนปีก่อน 2) คาด GPM ใน 4Q64 ที่ 63.6% ลดลงจาก 69.7% ใน 3Q64 และ 65.2% ใน 4Q63 จากการ COD โครงการใหม่ที่มีค่าไฟในรูปแบบ FiT และ Adder ของโครงการ BCPG 1 ที่หมดอายุลง 3) คาดค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 162 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 132 ล้านบาทใน 3Q64 และ 156 ล้านบาทใน 4Q63 จากการ COD โครงการใหม่ในญี่ปุ่น และ 4) คาดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่ 110 ล้านบาทพลิกเป็นกำไร YoY แต่ลดลง QoQ เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในอินโดนีเซีย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการเปิดหลุมพลังงานความร้อนแห่งใหม่ ทั้งนี้หากกำไรปกติ 4Q64 ออกมาใกล้เคียงคาด จะส่งผลให้ประมาณการปี 2564 ของเรามี Downside ราว 3%

แนวโน้มกำไร 1Q65 เติบโต YoY จากกำลังผลิตใหม่

คาดผลประกอบการ 1Q65 เติบโต YoY ถึงแม้จะมีผลกระทบจากการที่ Adder ของโครงการ BCPG 1 หมดอายุลงเนื่องจาก 1) มีการรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Chiba 1 แบบเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก 2) Capacity Factor ของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศที่สูงขึ้นจากการทำ Efficiency Improvement ในช่วง 2Q-3Q64 และ 3) มีกำหนด COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นเพิ่มอีก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า Komagane ขนาด 25MW และโครงการโรงไฟฟ้า Yabuki ขนาด 20MW

Upside เหลืออีกมาก แต่ระยะสั้นอาจถูกกดดันจากกำไรที่ลดลง QoQ และ YoY

คงประมาณการปี 2565 ที่ 2,213 ล้านบาท ทรงตัว YoY เนื่องจากกำลังผลิตใหม่สามารถชดเชยผลกระทบจาก Adder ที่เริ่มหมดอายุลงได้ในระดับหนึ่ง โดย BCPG มีราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2565 ที่ 18.30 บาท/หุ้น (อิง DCF) มี Upside 56.4% คงคำแนะนำ “ซื้อ” ในระยะยาว BCPG มี Upside จากการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในไต้หวันที่เรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการ (มีความชัดเจนมากขึ้นใน 2H65) และการแปลงสภาพหุ้นกู้ของบริษัท VRB Energy (ทำธุรกิจ Flow Battery) เป็นหุ้นสามัญราว 13-14% ในช่วงกลางปี 2565 อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น ราคาหุ้นอาจถูกกดดันจากกำไรปกติ 4Q64 ที่มีแนวโน้มลดลง QoQ และ YoY ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์อาจเลือกเข้าลงทุนหลังการประกาศงบการเงินปี 2564

- Advertisement -