PTC เผยสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นไม่กระทบดีมานด์ หลังความต้องการใช้น้ำมันยังคงเพิ่มขึ้น จากภาครัฐทยอยคลายล็อกดาวน์หนุนการเดินทางและการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมรับผลดีจากพฤติกรรมผู้บริโภคมาซื้อสินค้าทางออนไลน์ หนุนความต้องการใช้บริการขนส่งสินค้า รุกเตรียมความพร้อมในการรองรับการใช้น้ำมันอย่างต่อเนื่อง ลงทุนเพิ่มจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ เสริมช่องทางการขนส่งน้ำมันให้หลากหลาย

 

นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ผู้ประกอบธุรกิจคลังน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรับ เก็บ ผสม และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากการทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก กำลังการผลิตน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง

ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์การใช้น้ำมันนับจากสิ้นปี 2564 ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน พบว่า ปริมาณการใช้น้ำมันในประเทศยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ราคาน้ำมันในตลาดโลกอยู่ในระดับสูง หลังจากที่รัฐบาลได้ทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์ และการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ทำให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ประชาชนหันมาเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัวและการเดินทางด้วยรถขนส่งสาธารณะเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาคธุรกิจ การขนส่งสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคย้ายจากออฟไลน์เข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น รองรับการให้บริการด้านการขนส่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

จากกรณีดังกล่าว บริษัทจึงเตรียมความพร้อมรองรับการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจาก PTC ถือเป็นผู้ให้บริการที่มีบทบาทสำคัญในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วทั้งภาคอีสาน ซึ่งเป็นการให้บริการ 2 รูปแบบคือ บริการรับ เก็บ และจ่ายผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปประเภทเบนซินและดีเซล ให้บริการที่คลังน้ำมันจำนวน 2 แห่งคือ คลังน้ำมันเชื้อเพลิงที่จังหวัดขอนแก่น และคลังน้ำมันเชื้อพลิงที่จังหวัดศรีสะเกษ และบริการผสมน้ำมันเชื้อเพลิงพื้นฐานตามสูตร เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงสำเร็จรูปตามที่ลูกค้าต้องการ โดยคลังน้ำมันของ PTC ทั้ง 2 แห่ง สามารถรับน้ำมันจากโรงกลั่นหรือคลังอื่นๆ ของผู้ค้าน้ำมันได้ทุกแห่ง ซึ่งสามารถบริหารจัดการเส้นทางการขนส่งน้ำมัน เพื่อให้ผู้ค้าน้ำมันสามารถบริหารต้นทุนและห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นทางที่โรงกลั่นจนถึงสถานีบริการปลายทางที่เป็นผู้ซื้อน้ำมันจากผู้ค้าน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพิ่มทางเลือกในการขนส่ง รวมถึงรองรับกลุ่มผู้ใช้น้ำมันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ล่าสุดบริษัทมีแผนโครงการพัฒนาคลังน้ำมัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ผ่านการสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า ทั้งในด้านการลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันของลูกค้า และเพิ่มความหลากหลายของวิธีการและช่องทางการขนส่ง

*************

- Advertisement -