Daily Focus Selective Buy on Earnings and Low PER/PBV

ตลาดหุ้นวานนี้:

SET Index แกว่งตัวในแดนบวกได้ตลอดทั้งวัน แต่ยังมีแรงขายกดดันบ้าง ทำให้ดัชนีปิดบวกเพียง 4.35 จุด ณ สิ้นวัน โดยรอจับตาผลการประชุม FED อย่างไรก็ตาม สถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นบางๆ 85 ลบ.  ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 519 ลบ. (และ Long SET50 Index Futures หนาแน่นขึ้นเป็น 6.7 พันสัญญา)

แนวโน้มตลาดวันนี้:

เราคาด SET Index จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบ 1,635-1,650 จุด และมีโอกาสค่อนไปในแดนบวก หนุนจากกลุ่มพลังงานที่คาดนำตลาด หลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงอีกครั้ง จากภาวะ Supply ที่ยังตึงตัว ขณะที่ผลการประชุม FED โดยรวมออกมาใกล้เคียงคาด โดยยังคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และเตรียมปรับขึ้นในการประชุมเดือน มี.ค. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังระมัดระวัง เนื่องจากประธาน FED ไม่ได้ระบุชัดเจนถึงโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยที่เร็วมากขึ้น รวมถึงการเริ่มลดขนาดงบดุล โดยจะให้รายละเอียดในการประชุมครั้งถัดไป ส่งผลให้ Bond Yield ปรับขึ้นแรง และเข้าถือเงินสดมากขึ้น สะท้อนจาก Dollor Index ที่พุ่งขึ้น ส่วนปัจจัยในประเทศโดยรวมยังไม่มีปัจจัยใหม่ โฟกัสหลักยังอยู่ที่การทยอยประกาศผลประกอบการฝั่ง Real Sector กลยุทธ์เราจึงยังเน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว แนวโน้มกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง และมี PER/PBV ไม่สูง คาดว่าจะเผชิญแรงขายที่จำกัด และ Outperform ตลาด

กลยุทธ์: เลือกลงทุนโดยเน้นหุ้น PER/PBV ต่ำ และหุ้นที่คาดกำไร 4Q21 แข็งแกร่ง

หุ้นเด่นเดือน ม.ค.: CK, EA, HMPRO, KBANK, ORI

หุ้นเด่นวันนี้: ORI

  • แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 16 บาท
  • ยังคงมุมมองบวกต่อการเติบโตระยะยาวสำหรับ ORI ที่จะเป็นมากกว่าบริษัท อสังหาฯ จากการต่อยอดลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องใหม่ๆ ทั้งโลจิสติกส์ การแพทย์ กัญชง บริหารสินทรัพย์ พลังงาน ร่วมกับ Partner ในแต่ละอุตสาหกรรม
  • ระยะสั้นโมเมนตัมกำไร 4Q21 คาดเร่งตัวขึ้นเด่น Q-Q และ Y-Y และเป็นจุดสูงสุดของปีจาก Backlog รอโอน 4.3 พันลบ. รวมถึงสต๊อกในมือที่สูง ทำให้ได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายเกณฑ์ LTV
  • แนวรับ 11-10.80 บาท แนวต้าน 11.80-12 บาท

Fund Flow:

วานนี้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาคอีก US$ 684 ล้าน นำโดยไต้หวันและเกาหลีใต้ US$ 554 ล้านและ US$ 155 ล้าน แต่ยังคงไหลเข้าอาเซียนบางๆ นำโดยไทยและเวียดนาม ประเทศละ US$ 14-16 ล้าน แนวโน้มของกระแสเงินทุนคาดว่ายังค่อนไปในทางไหลออกแต่เบาบางลง หลังผลการประชุม FED โดยรวมออกมาใกล้เคียงคาด เตรียมขึ้นดอกเบี้ยเดือน มี.ค. นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

(0) SCC กำไรสุทธิ 4Q21 +22%, +3% Y-Y ต่ำกว่าตลาดคาด 10% Y-Y จากธุรกิจปิโตรเคมีและแพคเกจจิ้งที่อ่อนแอ ส่งผลให้กำไรทั้งปี 2021 +38% Y-Y จากฐานต่ำปีก่อน อย่างไรก็ตาม คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดใน 2H21 ไปแล้ว และฟื้นตัวในปี 2022 และมีแผนนำ SCG Chemical IPO ในปีนี้ คงราคาเป้าหมาย 520 บาท แนะนำ “ซื้อ” (Source: FSSIA)

(0) SPRC เราคาดว่าผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วไหลที่ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล (SPM) วานนี้มี จำกัด เนื่องจากมีสต็อกน้ำมันดิบเพียงพอสำหรับการกลั่น 1 เดือนระหว่างซ่อมแซม และยังสามารถนำเข้าได้ เพียงแต่อาจเผชิญต้นทุนค่าขนส่งเพิ่ม รวมถึงมีประกันภัยบุคคลที่สามสูงสุดไม่เกิน US$ 1 พันล้าน ประกันการหยุดชะงักของธุรกิจ และประกันความเสียหายของทรัพย์สิน US$ 50-100 ล้าน โรงกลั่นของ SPRC ตั้งอยู่ห่างไกลจากเกาะเสม็ด จึงไม่น่าสร้างความเสียหายให้พื้นที่ดังกล่าว กำไร 4Q21-1Q22 มีแนวโน้มแข็งแกร่ง แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 13.50 บาท (Source: FSSIA)

(0) TTA คาดกำไร 4Q21 -9% Q-Q ตามค่าระวางเรือเทกองที่ชะลอ แต่ยังโตแรง +531% Y-Y จากค่าระวางที่ยังสูงกว่าปีก่อนมาก หนุนกำไรทั้งปี 2021 พลิกมีกำไร 3.8 พันลบ. อย่างไรก็ตาม จากค่าระวางเรือเทกอง BDI และ BSI ที่ชะลออย่างรวดเร็วในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ทำให้กําไรคาดชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง เราปรับลดกำไรปี 2022 ลงเป็น -65% Y-Y และปรับลดราคาเป้าหมายเหลือ 12 บาท ยังแนะนำ “ซื้อ” จาก Valuation ที่ต่ำ แต่ไม่มีปัจจัยบวกกระตุ้น และจุดที่ดีที่สุดได้ผ่านไปแล้ว

(0) JR คาดกำไร 4Q21 -27% Q-Q, +63% Y-Y ฟื้นช้ากว่าคาด เพราะผู้รับเหมาฯ หลักที่ทำ Main Duct ล่าช้า ส่งผลให้ปี 2021 คาดกําไรจบที่ +149% Y-Y อย่างไรก็ตาม คาดกำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว และจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2022 โดยคาดกำไร +65% Y-Y แม้อาจมี Downside บ้างในส่วนของประมาณการรายได้ที่ Aggressive กว่าเป้าหมายของบริษัท และปัจจุบันมี Backlog รองรับราว 70% แต่ยังมีโอกาสที่จะเป็นไปได้ราคาหุ้นที่พักตัวในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนปัจจัยลบระยะสั้นไปแล้ว เรายังคงราคาเป้าหมายที่ 10 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ”

(0) TOA ประเมินกำไรปกติ 4Q21 +43% Q-Q จากอุปสงค์ในประเทศที่ฟื้นตัว แต่ -21% Y-Y กดดันจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2021 เป็น -10% Y-Y สะท้อน Margin ที่ต่ำลงก่อนกลับมาเติบโต +14% Y-Y ปีนี้ตามภาวะเศรษฐกิจ การปรับขึ้นราคาขายและการรวมงบ GMT เราปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 37 บาท ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

(-) ตลาดดาวโจนส์ ลดลง 129.64 จุด หรือ 0.38% ปิดที่ 34,168.09 จุด หลังจากเฟดส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ตามที่ตลาดคาดเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อสูง

(+) ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวก หลักๆ จากการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซจากความขัดแย้งในยูเครน

(0) ตลาดหุ้นเอเชีย ปรับตัวผสม หลังเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย

(-) ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 33.19 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX เพิ่มขึ้น 1.75 ดอลลาร์หรือ 2% ปิดที่ 87.35 ดอลลาร์/บาร์เรล จากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน และความขัดแย้งในตะวันออกกลางอาจกระทบต่ออุปทานน้ำมัน

(-) ราคาทองคำ COMEX ลดลง 22.8 ดอลลาร์หรือ 1.23% ปิดที่ 1,829.7 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนรู้ผลการประชุมของเฟด

SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 1,014.26 / +1.16

- Advertisement -