บล.ไอร่า:
SPALI: ปี’65 เปิดตัวโครงการใหม่มูลค่า 40,000 ล้านบาท
- SPALI มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ปี’65 รวม 34 โครงการ มูลค่า 40,000 ล้านบาท (แนวราบ : แนวสูง 88 : 12) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ปี’64 เปิด 23 โครงการมูลค่า 24,800 ล้านบาท) แบ่งเป็น (1) แนวราบในกทม. และ ตจว. 13 และ 18 โครงการ (2) แนวสูงในกทม. และตจว. 2 โครงการ และ 1 โครงการ ตามลำดับ และตั้งเป้าซื้อที่ดินเพื่อรองรับการเติบโตสูงเป็นประวัติการณ์เช่นกันที่ 8,000 ล้านบาท
- คาด SPALI เร่งเปิดโครงการเพื่อชดเชยบางโครงการที่ถูกเลื่อนจากปี’64 โดย SPALI มองแนวโน้มตลาดแนวราบยังเติบโตดีต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระดับบน ขณะที่คาดการฟื้นตัวตลาดแนวสูงเป็นไปอย่างจำกัด คาดผู้ประกอบการหันมาสนใจกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-ล่าง ซึ่งมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวในการขาย อย่างไรก็ตาม ยังมีความเสี่ยงการปล่อยกู้ยังเข้มงวดแม้จะมีมาตรการรัฐสนับสนุน
- SPALI มี Backlog รอโอนในอีก 3 ปีข้างหน้าราว 27,443 ล้านบาท โดยรับรู้ในปี’65 ท่ี 16,197 ล้านบาท (แนวราบ 6,000 ล้านบาท) หรือคิดเป็น 56% ของเป้าหมายยอดโอนทั้งปี’65 ที่ 29,000 ล้านบาท แม้สูงสุดเป็นประวัติการณ์แต่เติบโตเพียง 4% จาก 28,000 ล้านบาท เมื่อปี’64
- คาดปี’65 ยอดโอนมาจากโครงการแนวราบราว 60% ขณะที่คาดอัตราการทำกำไรทรงตัวเมื่อเทียบกับปี’64 คาดไม่ต่ำกว่า 38% ส่วนหน่ึงจากการเน้นตลาดแนวราบ ซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำกว่า
SPALI : ปี’65 เติบโตท่ามกลางความท้าทาย
- คาดแผนการขายสินทรัพย์เข้า SPALIRT ยังไม่มีความจำเป็น คาดการออกหุ้กู้ กระแสเงินสด และรายได้ยังสามารถรองรับการเติบโตได้
- มองปัจจัยเสี่ยงปี’65 (1) อัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มสูงขึ้น คาดส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคแล้วยังมีผลต่อต่อต้นทุน ก่อสร้าง อาทิ เหล็ก ซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้าง คาดทำให้ต่อต้นทุนเพิ่มขึ้นราว 4-7% (2) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จัดเก็บเต็มจำนวนในปี’65 (เดิมจัดเก็บ 10% จากเกณฑ์) คาดทำให้ SG&A สูงขึ้นจากเดิมราว 7-8 ล้านบาท เป็น 70-80 ล้านบาท (3) แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงข้ึน คาดไม่มีผลมากนัก จากอัตราดอกเบี้ยของไทยอยู่ในระดับต่ำ ขณะท่ีการเก็งกำไรลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่คาดยังได้รับผลกระทบจากผู้ซื้อชาวต่างชาติที่ยังไม่กลับมา โดยเฉพาะชาวจีน ที่เจอปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ
- คาดปี’65 SPALI ยังคงเติบโตได้ดีจาก Backlog และโครงการแนวราบเปิดใหม่ที่ทยอยสร้างและรับรู้รายได้ราว 1-3 ปี แต่คาดยอดโอนและอัตราการทำกำไรมีโอกาสเติบโตเพียงเล็กน้อยจากปี’64 จากสัดส่วนสินค้าแนวราบที่มีมาร์จิ้นต่ำกว่า และต้นทุนที่สูงขึ้น โดย Bloomberg Consensus ประเมินราคาเป้าหมายอยู่ที่ 25.80 บาท คาดรายได้และกำไรสุทธิปี’65 อยู่ที่ 28,510 ล้านบาท และ 6,320 ล้านบาท เติบโต 6% และ 7% ตามลำดับ
รีวิวทางเทคนิค