บล.หยวนต้า (ประเทศไทย): 

CARABAO GROUP ราคาต้นทุนยังกดดันต่อ แต่สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว

Action

BUY (Upgrade)

TP upside (downside) +17.2%

Close Jan 26, 2022 Price (THB) 101.50

12M Target (THB) 119.00

Previous Target (THB) 138.25

What’s new?

  • คาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 597 ลบ. (+10.4%QoQ, -32.0%YoY) ฟื้นตัว QoQ จากสถานการณ์ COVID-19 ท้ังในประเทศ, เมียนมาร์, กัมพูชา และจีนดีขึ้น แต่ลดลง YoY จากต้นทุนอลูมิเนียมที่สูงขึ้น
  • แนวโน้ม 1Q65 เบื้องต้นที่650 ลบ. +/- ฟื้นตัวต่อเนื่อง QoQ ตามการฟื้นตัวของการบริโภค ขณะที่ท้ังปี 2565 ราคาขายอาจมีการปรับขึ้น และลดส่วนลดโปรโมชั่นลง เพื่อสะท้อนปัจจัยต้นทุนที่สูงขึ้นต่อ หนุน GPM ให้ฟื้นตัวได้

Our View

  • เรามีมุมมองเป็นกลางถึงผลบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของ CBG ในปี 2565 ที่แม้จะยังได้รับผลกระทบด้านราคาต้นทุนที่สูงขึ้น แต่คาดจะยังฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำในปี 2564 ได้
  • ผลกระทบจากต้นทุนอะลูมิเนียมที่สูงขึ้นและนานกว่าคาด เราจึงปรับประมาณการกำไรปี 2565 ลง 17%
  • มองว่าราคาปัจจุบันสะท้อนปัจจัยกดดันด้านต้นทุนที่สูงขึ้นแล้ว ปรับคำแนะนำขึ้นจาก Trading เป็น “ซื้อ”

คาดกำไร 4Q64 ฟื้นตัว QoQ

เราคาดรายได้ที่ 4,189ลบ. (+5.9%QoQ, -1.6%YoY) เนื่องจาก 1 ) ตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังและ C-Lock ในประเทศฟื้นตัวหลังมีการคลาย Lockdown 2) จีนทรงตัว QoQ แม้เป็น Low season 3) การระบาดของ COVID-19 ในเมียนมาร์และกัมพูชาเห็นสัญญาณที่ดีขึ้นชัดเจน โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้าน GPM ยังฟื้นตัวได้ไม่เร็ว คาดที่ 34.3% จาก 34.1% ใน 3Q64 แต่ลดลงจาก 39.3% ใน 4Q63 เนื่องจาก 1) ค่าขนส่งไปต่างประเทศสูงขึ้น 2) ต้นทุนอะลูมิเนียมยังสูงขึ้นต่อ 3) ค่าเงินบาทอ่อนค่า ทำให้การนำเข้าวัตถุดิบสูงขึ้น ขณะที่รายได้ขายเป็นเงินบาทเกือบทั้งหมด โดยรวมเราคาดกำไรปกติ 4Q64 ที่ 597 ลบ. (+10.4%QoQ, -32.0%YoY)

คาดกำไรฟื้นตัวแบบ U-Shape ในปี 2565

เราคาดแนวโน้มกำไร 1Q65 เบื้องต้นที่ 650ลบ.+/- ซึ่งจะฟื้นตัวราว 8.9%QoQ แต่ยังลดลง YoY ขณะที่ทั้งปี 2565 คาดรายได้จะเติบโตจากฐานที่ต่ำในปี 2564 จากการคลาย Lockdown ทั้งในประเทศและต่างประเทศหนุนการฟื้นตัวของการบริโภคสินค้าและการส่งออก โดยเฉพาะในจีนที่คาดจะฟื้นตัวสูงหลังสถานการณ์ COVID-19 กลับเข้าสู่ระดับปกติมากขึ้น ขณะที่ปัจจัยกดดันหลักอย่างอะลูมิเนียมยังปรับตัวขึ้นแรงต่อ ปัจจุบันอยู่ที่ 3,100 ดอลลาร์/ตัน จาก 4Q64 เฉลี่ยที่ 2,800 ดอลลาร์/ตัน อย่างไรก็ตาม จะไม่กระทบสินค้าในประเทศเพราะส่วนใหญ่เป็นขวดแก้ว และบริษัทสามารถขึ้นราคาขายได้ เพราะเครื่องดื่มชูกำลังไม่ได้อยู่ในรายชื่อสินค้าควบคุม และส่วนลดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อช่วยลดผลกระทบของต้นทุนที่สูงขึ้นได้

จากต้นทุนอะลูมิเนียมที่ปรับขึ้นสูงและนานกว่าที่คาดไว้ เราจึงปรับลด GPM ปี 2565 ลงเป็น 38.8% จากเดิมท่ี 41.9% และปรับประมาณการรายได้ลง 5.6% เพื่อความระมัดระวังมากขึ้น ส่งผลต่อประมาณการกำไรปี 2565 ให้ลดลง 17.4% เป็น 3,404 ลบ. (+17.3%YoY) โดยมีรายได้ในประเทศและในจีนจะเป็นตัวหลักขับเคลื่อนการเติบโต

ปรับประมาณการและราคาเป้าหมายลง แต่ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”

ผลจากการปรับประมาณการลง ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ ณ สิ้นปี 2565 ที่ 119.00 บาท มี Upside gain 17.2% ราคาปัจจุบันสะท้อนปัจจัยกดดัน คือต้นทุนที่สูงขึ้นแล้ว มองว่า ณ ระดับราคาปัจจุบันเป็นจุดที่สามารถกลับเข้าลงทุนในอีกครั้ง จึงปรับคำแนะนำขึ้นจาก Trading เป็น ”ซื้อ” ราคาปัจจุบันซื้อขายด้วย PER65 ที่ 29.8 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 33–35 เท่า โดยยังมี Upside จากกลุ่มเครื่องดื่มผสมสาร CBD ท่ีคาดจะได้เห็นในปีนี้

- Advertisement -