Our View? ”ไปต่อด้วยความระมัดระวัง”

คาดตลาดวันนี้ “SidewayUp” มองแนวรับที่บริเวณ 1,675/1,670 และแนวต้านที่บริเวณ 1,685/1,690 คาดตลาดอาจได้รับ Sentiment เชิงบวกบ้าง จากการที่ตลาดเริ่มผ่อนคลายความกังวลความตึงเครียดในวิกฤตยูเครน  หลังการหารือกันของ ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย และปธน.เอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ให้คำมั่นว่ารัสเซียจะไม่ดำเนินการทางการทหารใดๆ ใกล้กับชายแดนยูเครนในขณะนี้ และจะถอนกำลังทหารที่เข้าไปฝึกในเบลารุสท่ีมีพรมแดนติดกับยูเครนเมื่อการซ้อมรบสิ้นสุดลง คาดปัจจัยดังกล่าวจะผ่อนคลายความกังวลกับทิศทางตลาดสินทรัพย์เสี่ยงโลกได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรามองเป็นมุมมองเชิงลบต่อราคาน้ำมันดิบ-หุ้นกลุ่มพลังงานในประเทศ โดยเมื่อคืนน้ีราคาสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI. ส่งมอบเดือน มี.ค. ปรับตัวลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดท่ีระดับ 89.36 ดอลลาร์/บาร์เรล (-2.15%) จากประเด็นดังกล่าว รวมทั้งการท่ีคณะบริหารของ ปธน.โจ ไบเดน ได้ยกเลิกสถานะคว่ำบาตรของอิหร่าน เรามองเป็นการส่งสัญญาณในการอนุญาตให้อิหร่านส่งออกน้ำมันดิบได้ในระยะถัดไป กดดันราคาน้ำมัน-หุ้นในกลุ่มพลังงาน ถ่วงการปรับตัวข้ึนได้ต่อของตลาดหุ้น ไทย

อีกทั้งคาดตลาดยังรอดูการรายงานตัวเลข CPI เดือน ม.ค. ของสหรัฐ ซึ่งถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เพื่อประเมิน Action ของ FED ในการประชุม FOMC ในเดือน มี.ค. นี้ โดยตลาดคาดว่า CPI เดือน ม.ค. จะออกมาสูงถึง 7.3% เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องและสูงสุดในรอบ 40 ปี ขณะที่ล่าสุด CME FEDWatchTools บ่งชี้นักลงทนุบางส่วนเริ่มคาดการณ์ FED จะขึ้นดอกเบี้ยถึง 0.50% ในการประชุมเดือน มี.ค. มองยังเป็นปัจจัยให้ตลาดอยู่ในภาวะ Risk-off ได้ต่อ

ในส่วนของปัจจัยภายในประเทศ เรามองตลาดอาจเผชิญแรงกดดันได้บ้างจากการเข้าสู่ช่วงของ
การขึ้นเครื่องหมาย XD ของ บจ. ในตลาดฯ อาจจะกดดันการฟื้นตัวของตลาดได้บ้าง อย่างไรก็ตาม เรายังมี
มุมมองเชิงบวกต่อการที่นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อหุ้นไทยต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปีนี้ซื้อไปแล้วกว่า 2.63 หมื่นล้านบาท แม้จะเผชิญความกังวลจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ FED เราคาดจะยังหนุนหุ้นในกลุ่ม BIG Cap.
ปรับตัวขึ้นได้ต่อ ทั้งนี้เรายังคงชอบหุ้นในกลุ่มธนาคาร (KBANK, SCB และ TTB) ที่คาดการขยายตัวของ เศรษฐกิจไทยจะเริ่มเป็นแรงหนุนให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยโลกเริ่มปรับเปลี่ยนปริมาณการซื้อขายของตลาด แบ่งตามกลุ่มนักลงทุน วันทำการกอ่นหน้าเป็นขาขึ้น พร้อมทั้งการต้ัง ECL ที่คาดจะเริ่มปรับลดลงตั้งแต่ในช่วง 1Q’65 ในส่วนของหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว-โรงแรม (AOT, AWC, CENTEL, ERW และ MINT) คาดจะมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลอนุมัติการกลับมาเปิดใช้มาตรการ Test & Go อีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ. นี้ รวมทั้ง Bloomberg จัดอันดับ The Covid Resilience Ranking ให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่รับมือกับ COVID-19 ได้ดีที่สุดเป็นอันดับที่ 26 จาก 53 ประเทศ จากเดิมที่อยู่ที่อันดับ 44 ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน ธ.ค. ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 2.3 แสนรายแล้ว

สำหรับการประชุม กนง. ในวันนี้ คาดที่ประชุมจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.50% ตามเดิม แต่แนะนำให้ติดตามท่าทีในประเด็นเกี่ยวกับการเร่งตัวข้ึนของเงินเฟ้อของไทย และการประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปของ กนง.

ธีมการลงทุน “Selective Play”

หุ้นแนะนำวันนี้ “CENTEL”

แนวรับ 35.00 / 34.50 Target 38.00 / 41.50 Stop <34.00

- Advertisement -