โควิด-19 ในประเทศ New High

สรุปภาวะตลาด

วันอังคารท่ีผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงการซื้อ-ขาย จากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มไอซีที ธนาคารที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาข้ึนและพลังงาน โดยดัชนีปรับตัวข้ึนปิดเหนือแนวต้านบริเวณ 1,682 จุด ได้แรงหนุนจาก Fund Flow ท่ีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,684.23 จุด +6.99 จุด +0.42% มูลค่าการซื้อขาย 84,622 ลบ.ต่างชาติ +6,675.39 ลบ. TFEX +19,038 สัญญา ตราสารหนี้ +16,331.35 ลบ.

ปัจจัยบวก

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มข้ึน 371.65 จุด +1.06% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ดีดตัวข้ึนอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีทะยานข้ึนแตะระดับสูงสุดนับต้ังแต่เดือนพ.ย. 2562 ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นแอมะซอน และแอปเปิล

+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่าตัวเลขขาดดุลการค้าสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.8% สู่ระดับ 8.07 หมื่นล้านดอลลาร์ใน เดือนธ.ค. แต่ต่ำกว่าท่ีนักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.30 หมื่นล้านดอลลาร์จากระดับ 7.93 หมื่นล้านดอลลาร์ใน เดือนพ.ย.

+รัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลญี่ปุ่นบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการยกเว้นภาษีสำหรับการนำเข้าเหล็กกล้าจากญี่ปุ่นเป็นคร้ัง แรกนับต้ังแต่ปี 2561 เป็นการร่วมมือกันเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของจีนที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรม เหล็กกล้า

+ ตลท. เปิดเผยว่าในปี 64 มีนักลงทุนรายใหม่ๆ เปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ มากถึง 1.6 ล้านบัญชี หรือ 40% ของผู้เปิดบัญชีซื้อขาย ณ ส้ินปี 64 ท้ังหมด 5 ล้านบัญชี ทำให้ปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนบุคคลทั่วไป 45% ต่างชาติ 40% และสถาบันในประเทศ 15%

+ สภาผู้ส่งออก (สรท.) คาดการณ์ส่งออกไทยในไตรมาสแรกปี 2565 โตต่อเนื่อง 5% และคงคาดการณ์ส่งออกไทยท้ังปี 2565 เติบโตระหว่าง 5-8%

+ รมว.สธ.ลงนามปลดล็อกกัญชาพ้นยาเสพติด มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจาฯในอีก 120 วัน

ปัจจัยลบ

– ศบค.รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันน้ี พบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 13,182 ราย ผลตรวจ ATK ทำสถิติใหม่ที่ 5,928 ราย มีผู้เสียชีวิต 24 ราย รักษาหาย 8,571 ราย

– ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.96 ดอลลาร์ -2.1% ปิด ที่ 89.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ถูกกดดันจากความกังวลท่ีว่า ความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลก

– สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB) รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมปรับตัวลง 1.8 จุด สู่ระดับ 97.1 ในเดือนม.ค. ต่ำสุดในรอบ 11 เดือน และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ท่ีระดับ 97.9

– นายกรัฐมนตรีของอังกฤษประกาศความพร้อมท่ีจะใช้มาตรการคว่ำบาตรและมาตรการอื่นๆ หากรัสเซียโจมตี ยูเครน โดยรัฐบาลอังกฤษจะขอให้รัฐสภาคว่ำบาตรบุคคลและบริษัทรัสเซีย

– ผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงขอความร่วมมือให้ประชาชนพำนักอยู่แต่ในบ้านต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19 ท่ีรุนแรงที่สุดนับต้ังแต่การระบาดเริ่มต้นขึ้น

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติ ขณะที่ปัจจัยกดดันยังอยู่ท่ีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่ มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,675-1,690 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • ชุดตรวจ ATK : SMD WINMED TM
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการกลับมาใช้มาตรการ Test&Go และ เราเที่ยวด้วยกันเฟส 4: ERW CENTEL MINT AOT AAV BA ASAP
  • หุ้น Value Play: KBANK BBL SCB EA GULF ADVANC TRUE DTAC

หุ้นรายงานพิเศษ

CRC – ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว (Bloomberg Consensus 40.88 บาท)

  • ผู้บริหารแถลงแผนงาน 5 ปี (2565 – 2569) ผ่าน 4 ธุรกิจหลักในประเทศไทย (สัดส่วนรายได้ 70%) เวียดนาม (สัดส่วนรายได้ 20%) และอิตาลี (สัดส่วนรายได้ 10%) ได้แก่ fashion, food, hardline, property และในปีนี้จะมีธุรกิจท่ี 5 เพิ่มเติม ตั้งเป้าปี 69 รายได้โต 2.5 เท่า EBITDA โต 3.5 เท่า Market Cap โต 2.5 เท่าเมื่อเทียบกับปี 64 ภายใต้แนวคิด “RETAIL + INTELLIGENCE = CRC Retailigence” ปรับเปลี่ยนแพลทฟอร์มเป็น CRC eco system ด้วยฐานลูกค้า 18 ล้านคน ทำให้ยอดขาย omnichannel มีสัดส่วนเพิ่มเป็น 20% ของรายได้รวม หนุนการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ มีแผนเปิด 500 สาขา 4 ศูนย์ในไทย เวียดนาม เน้นเร่งเปิดร้านไทวัสดุเป็น 7-10 สาขา จากเดิม 5-7 สาขา
  • ความเห็น ภาพรวมผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดจาก 9M64 ขาดทุน 2,311 ลบ. ขณะที่คาดการณ์ผลประกอบการงวด 4Q64 ที่ฟื้นตัวส่งผลให้ Bloomberg consensus ปรับประมาณการจากเดิมคาดขาดทุนเฉลี่ย 543 ลบ.เป็นพลิกมีกำไรเฉลี่ย 122 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยคาดว่าผลการดำเนินงานปีนี้จะได้ประโยชน์จากการเปิดเมือง และคาดว่าการ lockdown ท่ีกดดันผลประกอบการอย่างหนักในปี 64 มีโอกาสเกิดข้ึนอีกน้อยมาก แม้ยังมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 และเกิดเชื้อไวรัสกลายพันธ์ุ การปรับแพลตฟอร์มเพิ่มช่องทางจำหน่ายออนไลน์และ Omni Channel การเปิดบริการศูนย์การค้าใหม่ต่อเนื่อง และ synergy จาก COL ที่เร่ิมรวมงบการเงินต้ังแต่ก.พ. 64 จะช่วยหนุนผลประกอบการปี 65 ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกต่อปัจจัยพื้นฐานระยะยาว จึงแนะนำซื้อ

หุ้นมีข่าว

(+) EE (Bloomberg Consensus – บาท) โชว์ CW ปลูกกัญชง ชูโครงการใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ เป้าหมาย 50,000 ต้นภายในสิ้นปี 65 ลุยขายแฟรนไชส์ Cafe พร้อมทุ่มงบ 600- 700 ล้านบาท ศึกษาพื้นที่ปลูกใหม่ คาดชัดเจนในไตรมาส 1/65 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) UAC (Bloomberg Consensus 5.45 บาท) ข้ึนแท่นผู้ผลิตปิโตรเลียมไทยรายที่ 2 ต่อจาก PTTEP หลังคว้าสัมปทานแปลงสำรวจบนบกหมายเลข L10/43 และ L11/43 จังหวัดสุโขทัย ก่าลังการผลิตน้ำมันดิบไม่ต่ำกว่า 500 บาร์เรลต่อวัน คาดโกยรายได้เข้าบริษัทไตรมาส 3/2565 น้ี (ที่มา ทัน หุ้น)

(+) TKS (Bloomberg Consensus – บาท) วางหมากดิจิทัลเต็มสูบ ตั้งบริษัทย่อยลงทุนสตาร์ทอัพ Blockchain Digital Transformation แย้มเจรจาอยู่ 4-5 บริษัท ปีนี้ผลงานดี ลุ้นรับงานบัตรเลือกตั้ง เผยไตรมาส 1/2565 ติดต้ังเครื่องจักรใหม่แล้วเสร็จลุยตลาดธุรกิจผลิตฉลากและบรรจุภัณฑ์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) RS (Bloomberg Consensus 21.00 บาท) ประกาศเข้าซื้อ ยูไลฟ์ ธุรกิจขายตรงของยูนิลีเวอร์ 880 ล้านบาท กวาด 1.5 แสนรายเข้าพอร์ต เฮียฮ้อลั่นเสริมโมเดล Entertainmerce และขยายอีโคซิสเต็ม เตรียมนำ POP COIN ต่อยอด ประกาศกวาดพันล้านบาท ปักธงดันยูไลฟ์ขึ้นท็อป 5 ขายตรงใน 3 ปี (ที่มา ทันหุ้น)

ปัจจัยจับตาในประเทศ

  • 9 ก.พ. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งท่ี 1/2564 คาดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับเดิม
  • 10 ก.พ.เปิดลงทะเบียนคนละครึ่งเฟส 4 สำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่เคยใช้สิทธิ์ หอการค้าไทยร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย
  • สปัดาห์ที่ 3 กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการส่งออก-นำเข้า
  • 17-18 ก.พ. สภาฯเปิดอภิปรายท่ัวไปโดยไม่ลงมติ
  • 21 ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) แถลงตัวเลข GDP 4Q64
  • 28 ก.พ. กำหนดวันสุดท้าย บจ.ส่งงบการเงินปี 64

ปัจจัยจับตาต่างประเทศ

  • 8 ก.พ.สหรัฐเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือน ม.ค. และดุลการค้าเดือนธ.ค.
  • 9 ก.พ. สหรัฐรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนธ.ค. สต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานศาลสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)
  • 10 ก.พ. จีนเปิดเผยยอดขายรถเดือนม.ค. ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนม.ค. ยอดปล่อยกู้ล๊อตใหม่สกุลเงินหยวนเดือนม.ค.

สหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ (Bloomberg คาดการณ์ 230k ราย) และอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.(คาดการณ์เงินเฟ้อที่ระดับ 7.3%)

  • 15-16 มี.ค. กำหนดประชุม FED
- Advertisement -