เงินทุนไหลเข้าต่อเนื่อง สอดคล้องกับมุมมองเชิงกลยุทธ์
เงินทุนไหลเข้าอาเซียนต่อเนื่อง สอดคล้องกับมุมมองของเรา วานนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6,675 ล้านบาท นับจากต้นปีนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นบวกถึง 17 จาก 26 วันทำการ และมียอดซื้อสุทธิสะสมที่ 26,322 ล้านบาท ขณะที่ทิศทางของตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP market อื่น ทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ มีทิศทางของเงินทุนต่างชาติที่ดีกว่าเกาหลีใต้และไต้หวันอย่างชัดเจน ซึ่งทิศทางดังกล่าวสอดคล้องกับมุมมองของเราที่สื่อสารกับนักลงทุนตั้งแต่ ต้นธ.ค.64 ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่จะฟื้นตัวชัดเจนในปีนี้หลังเปิดเมือง และโดดเด่นกว่าภูมิภาคอื่น จะดึงดูดให้เงินทุนไหลเข้าจาก asset allocation ที่คาดว่าจะจัดสรรน้ำหนักให้ไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยบวกกับหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธนาคารหรือหุ้นขนาดใหญ่
ไม่ว่าเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงหรือต่ำ เรายังมองบรรยากาศลงทุนเป็นบวก ด้วยภาพของคาดการณ์เงินเฟ้อประเทศขนาดใหญ่ที่จะสูงสุดในช่วงต้นปี ก่อนทยอยปรับลดลงต่อเนื่อง ทำให้เราประเมินตลาดจะไม่กังวลมากนักหากการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อ ม.ค.65 ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 7.3% (สูงสุดในรอบ 40 ปี) ในขณะที่หากตัวเลขออกมาต่ำกว่านั้น หรือโดยเฉพาะกว่าเงินเฟ้อ ธ.ค.64 ที่ 7.0% ตลาดจะมองเป็นบวกว่าเงินเฟ้อผ่านจุดสูงสุด และแรงกดดันของการขึ้นดอกเบี้ยจะผ่อนคลายลง ซึ่งเมื่อดูจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 2 และ 10 ปี ที่เพิ่มขึ้นจากจุดต่ำในปีก่อนที่ 1.1-1.3% สะท้อนมุมมองของนักลงทุนต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดในระดับ 4-5 ครั้งแล้ว ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรอยู่ในจุดที่มีโอกาสจะใกล้สูงสุดในระยะสั้น ซึ่งการปรับลดลงจะเป็นปัจจัยบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง
อาจผันผวนจากการย่อของราคาน้ำมัน และยอดติดเชื้อในประเทศ แม้เรายังมองบวกต่อราคาน้ำมันที่น่าจะทรงตัวในระดับ 80-100 เหรียญฯ แต่ประเด็นการเจรจาเพื่อยกเลิกคว่ำบาตรอิหร่าน มีโอกาสทำให้ราคาน้ำมันดิบย่อตัวลงสู่ 80-85 เหรียญฯ ซึ่งอาจกระทบต่อบรรยากาศเก็งกำไรระยะสั้นของกลุ่มพลังงานและหุ้นที่เกี่ยวข้อง ขณะที่การติดเชื้อในประเทศเช้าวันนี้ (9 ก.พ.) ที่ระดับ 13,182 ราย เร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจนจาก 4 วันก่อนหน้า อาจสร้างแรงกดดันให้ตลาดผันผวนจากความกังวลผลกระทบของการระบาดระลอกใหม่
ประเด็นเก็งกำไรอื่น
1) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง การเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ บวกต่อ CK, STEC, ITD, UNIQ
2) กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์ ตลาดเก็งกำไรการเข้าสู่ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิตอล และผลประกอบการปี 2564 ที่น่าจะเห็นการจ่ายปันผลในระดับที่ดี อย่างไรก็ตาม ยังมีความไม่ชัดเจนของภาพรายได้ปี 2565 อีกมาก การเก็งกำไรจึงควรกำหนจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง KGI, ASP, CGH, FSS
3) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นกลุ่มที่มักจะเคลื่อนไหวได้ดีในภาวะเงินเฟ้อ อีกทั้ง valuation ต่ำ และปันผลสูง ทำให้มีโอกาสเห็นการฟื้นตัวของ LH, SPALI, AP, SC, ASW
4) กลุ่มบันเทิง ผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวจากงบโฆษณาที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ บวกต่อ ONEE, BEC, WORK, MONO
5) หุ้นเก็งกำไรทางเทคนิค อาทิ SFT, WPX, CV, UBE, VPO, CPI, TOP, RAM, IND, MAKRO CPALL,
ภาพรวมกลยุทธ์: ยกกรอบขึ้นเป็น 1,667-1,700 จุด ยังคงมุมมองความผันผวนจะทยอยลดลงและบรรยากาศลงทุนรวมจะทยอยดีขึ้น โดยให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดสูงสุด ซึ่งจะลดแรงกดดันการขึ้นดอกเบี้ย
หุ้นแนะนำ: CPN*, SPALI*, BANPU*, KSL*
เแนวรับ: 1,667 / แนวต้าน : 1,685-1,700 จุด สัดส่วน : เงินสด 50%:พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นการลงทุน
- เลื่อนพิจารณาต่อสัมปทานสายสีเขียว – หลังรมต.พรรคภูมิใจไทย 7 ราย ลาประชุม ขณะที่กระทรวงคมนาคมคัดค้านการต่อสัญญาสัมปทาน ทำให้ประเด็นดังกล่าวยังเป็นปัจจัยถ่วงหุ้น BTS
- AMA – รุกธุรกิจขนส่งทางบก เพิ่มรถบริการเป็น 225 คัน รองรับขนส่งน้ำมันไป PTG ขณะที่ขนส่งทางเรือปีนี้ทรงตัว
- SK – เตรียมประมูลโปรเจ็กต์ใหญ่ กฟผ. มูลค่า 300 ล้านบาท โชว์แบ็กล็อกเต็ม หน้าตัก 250 ล้านบาท พร้อมดันผลงานยืนระดับปกติที่ 670 ล้านบาท เผยศึกษาแผนลุยธุรกิจใหม่ คาดมีความชัดเจนในไตรมาสแรกปีนี้
- CRC – วางแผนดันรายได้ปี 60 โต 250% จากปี 64 หลังรุกขยายฐานธุรกิจใหม่หนุน
- TKS – ตั้งบริษัทย่อยลงทุนสตาร์ทอัพ Blockchain Digital Transformation เผยเจรจาอยู่ 4-5 บริษัท ปีนี้ผลงานดี ลุ้นรับงานบัตรเลือกตั้ง เผยไตรมาส 1/65 ติดตั้งเครื่องจักรใหม่เตรียมบุกธุรกิจผลิตฉลากและบรรจุภัณฑ์
ประเด็นติดตาม: 9 ก.พ. – ประชุมกนง., MSCI Rebalancing / 10 ก.พ. – US CPI / 11 ก.พ. – IEA Monthly Report
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
ประเด็นลงทุนสําหรับหุ้นแนะนำ
- เก็งกำไร CPN* (60): ผลประกอบการคาดฟื้นตัวจากธุรกิจที่ฟื้นตามการเปิดเมือ งและค่าเช่าที่เริ่มกลับสู่ปกติ ตัดขาดทุน 53.50 บาท
- เก็งกำไร SPALI* (25): แนวโน้มรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 โดดเด่น บริษัทใหญ่มักมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มหลังวิกฤติ ตัดขาดทุน 22 บาท
- เก็งกำไร BANPU (12.60): คาดผลประกอบการไตรมาส 4/64 เติบโตโดดเด่น และยังอยู่โมเมนตัมขาขึ้น ตัดขาดทุน 9.60 บาท
- เก็งกำไร KSL* (4.50): ผลการดำเนินงานเข้าสู่ high season จากการหีบอ้อยที่จะเพิ่มขึ้นเป็น 85-90 ล้านตัวจากปีก่อนเพียง 67 ล้านตัน ตัดขาดทุน 3.60 บาท
(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)
Market News & Factors
ตลาดหุ้นสหรัฐ
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันอังคาร (8 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารที่ ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 10 ปีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่ เดือนพ.ย. 2562 ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นแอมะซอน และแอปเปิล (อินโฟเควสท์)
ตลาดหุ้นยุโรป
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันอังคาร (8 ก.พ.) ขณะที่นักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยผลประกอบการ ของบริษัทจดทะเบียน และการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ (อินโฟเควสท์)
ตลาดหุ้นญี่ปุ่น
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกเล็กน้อย (8 ก.พ.) โดยได้อานิสงส์จากแรงซื้อหุ้นของบรรดาบริษัทจดทะเบียน ในญี่ปุ่นที่เปิดเผยผลประกอบการในเชิงบวกเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ดี แรงซื้อดังกล่าวถูกจำกัดจากความวิตกว่าสหรัฐจะ ดำเนินนโยบายการเงินแบบคุมเข้มมากขึ้น (อินโฟเควสท์)
ตลาดน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WII) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% ในวันอังคาร (8 ก.พ.) โดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลที่ว่า ความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านอาจปูทางให้อิหร่านกลับมาส่งออกน้ำมัน ตลาดโลก (อินโฟเควสท์)
AMA: รุกธุรกิจขนส่งทางบกเพิ่มรถบริการเป็น 225 คัน รองรับขนส่งน้ำมันไป PTG ขณะที่ขนส่งทางเรือปีนี้ทรงตัว
SK: เตรียมประมูลโปรเจ็กต์ใหญ่ กฟผ. มูลค่า 300 ล้านบาท โชว์แบ็กล็อกเต็มหน้าตัก 250 ล้านบาท พร้อมดัน ผลงานยืนระดับปกติที่ 670 ล้านบาท เผยศึกษาแผนลุยธุรกิจใหม่ คาดมีความชัดเจนในไตรมาสแรกปีนี้
CRC: วางแผนดันรายได้ปี 69 โต 250% จากปี 64 หลังรุกขยายฐานธุรกิจใหม่หนุน
TKS: ตั้งบริษัทย่อยลงทุนสตาร์ทอัพ Blockchain Digital Transformation เผยเจรจาอยู่ 4-5 บริษัท ปีนี้ผลงานดี ลุ้นรับงานบัตรเลือกตั้ง เผยไตรมาส 1/65 ติดตั้งเครื่องจักรใหม่เตรียมบุกธุรกิจผลิตฉลากและบรรจุภัณฑ์
Report & Corporate News
BANPU: Maintained HOLD TP : 16.50 บาท
เราคาดว่า BANPU จะรายงาน net profit ที่ 3.46 พันล้านบาท ใน 4Q21 ลดลง 1.4% qoq และพลิกจาก ขาดทุน 468 ล้านบาท ใน 4Q20 โดยเราคาดว่า BANPU จะต้องมี hedging loss ที่ค่อนข้างใหญ่อีกครั้ง คาด ว่าจะอยู่ประมาณ 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากหักรายการพิเศษออก คาดว่า BANPU จะ report core earnings ที่สูงมากที่สุดในหลายปี อยู่ที่ 13,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% qoq หลักๆ มาจากราคาถ่านหินที่ปรับตัวสูงขึ้นแรง 7.7% qoq เราคาดว่า Outlook ยังค่อนข้างดีมาก โดยราคาถ่านหิน ytd ปีนี้ยังอยู่ระดับสูงถึง 197 เหรียญฯต่อตัน แม้ว่าปริมาณขายถ่านหินจะ soft ลงไปบ้างใน 1Q22 ที่เป็นช่วงหน้าฝนในประเทศอินโดนีเซีย และมีปัญหา logistic ช่วงที่อินโดนีเซียมีการประกาศห้ามส่งออกถ่านหินเล็กน้อย
ITD
ลงนามในสัญญาก่อสร้างทางยกระดับกับสำนักก่อสร้างสะพานกรมทางหลวง เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 สายทางยกระดับบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ช่วงเอกชัย-บ้านแพ้ว ตอน 7 มูลค่างาน 1,868,300,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 1,080 วัน (อินโฟเควสท์)
TRUBB
ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท ไทยรับเบอร์ แลนด์ แอนด์แพลนเตชั่น จำกัด (บริษัทย่อยที่ TRUBB ถือหุ้นร้อยละ 100 ในธุรกิจสวนยางพารา) จำนวน 40 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งบริษัท ไทยเท็คซ์ ซีบีดี สมาร์ท ฟาร์ม จำกัด (TRUBB ถือหุ้น 99.99%) ในการประกอบธุรกิจเพาะปลูก และหาผลประโยชน์อื่นที่เกี่ยวข้องกับพืชพรรณสมุนไพรทุกชนิด กัญชา กัญชง ใบกระท่อม และอื่น ๆ (อินโฟเควสท์)
WHAUP
ตั้งงบลงทุน 5 ปี (65-69) ที่ 10,000 ล้านบาท โดยคาดจะใช้เงินลงทุนในปีนี้ประมาณ 2,700 ล้านบาท ซึ่งเม็ดเงินลงทุนดังกล่าวยังไม่รวมการลงทุนในต่างประเทศที่อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ อาทิ การลงทุนในโครงการใหม่ (Green Field) และการซื้อกิจการ (M&A) (อินโฟเควสท์)