PTC พร้อมนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก 15 กุมภาพันธ์นี้ หลังนักลงทุนให้การตอบรับดี ยอดจองซื้อ IPO ล้นหลาม สะท้อนพื้นฐานธุรกิจแข็งแกร่ง เผยแผนธุรกิจหลังระดมทุน เดินหน้าเพิ่มศักยภาพในการให้บริการ ทั้งด้านการช่วยลดต้นทุน เพิ่มช่องทางการขนส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้า เผยอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้า หวังกระจายฐานรายได้ ลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง
นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ผู้ประกอบธุรกิจคลังน้ำมันสำหรับรับ เก็บ ผสมและจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร โดยใช้ชื่อย่อหุ้น PTC ในการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในการเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 3.50 บาท มีนักลงทุนจองซื้ออย่างล้นหลาม สะท้อนความเชื่อมั่นในศักยภาพและพื้นฐานธุรกิจพลังงานที่มีความแข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต
ทั้งนี้ ภายหลังเข้าระดมทุน บริษัทมีโครงการที่จะพัฒนาคลังน้ำมัน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น โดย PTC ได้ศึกษาเส้นทางการขนส่ง ต้นทุนการขนส่งแต่ละประเภท ความปลอดภัยในการขนส่ง ข้อกำหนดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งน้ำมันของลูกค้าเป็นอย่างดี โดยพิจารณาและคำนึงถึงผลตอบแทนจากการลงทุนและระดับความเสี่ยง ในการเลือกที่จะลงทุนสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังน้ำมันศรีสะเกษ
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า ทั้งในด้านการลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันของลูกค้า เพิ่มช่องทางการขนส่งน้ำมันให้แก่ลูกค้า จากปัจจุบันที่ให้บริการการรับน้ำมันทางรถบรรทุกเพียงทางเดียว ถือเป็นการรองรับการเติบโตในอนาคต ทั้งในส่วนที่เป็นโครงการสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟ บริเวณด้านหลังของคลังน้ำมันศรีสะเกษ และการสร้างจุดรับน้ำมัน ระบบท่อเพื่อลำเลียง รวมถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้ในการสูบรับน้ำมันจากจุดรับน้ำมันทางรถไฟเข้าถังเก็บน้ำมันของบริษัท
ขณะเดียวกัน บริษัทมีเป้าหมายพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าเพื่อสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) อาทิ โครงการโรงไฟฟ้าชุมชน, โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, โรงไฟฟ้าขยะและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อกระจายฐานรายได้และลดความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ รวมถึงได้วางแผนเพิ่มประสิทธิภาพในการรับ จ่ายน้ำมัน โดยรองรับวิธีการโอนคลังที่หลากหลาย และเพิ่มจำนวนสถานีบริการที่มารับน้ำมันจากคลังของบริษัท รวมทั้งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งมอบพลังงาน เพื่อให้ทุกพื้นที่มีโอกาสเข้าถึงพลังงานอย่างเท่าเทียม
******