บล.หยวนต้า (ประเทศไทย):
Action
BUY (Upgrade)
TP upside (downside) 32%
Close Feb 09, 2022 Price (THB) 18.80
12M Target (THB) 24.70
Previous Target (THB) 22.60
What’s new?
- เรามีมุมมองเป็นบวกต่อดีลที่ RS เข้าซื้อกิจการของ ULife ซึ่งถือเป็นการรุกธุรกิจขายตรง และช่วยต่อยอด กลยุทธ์ Entertainmerce ให้ครบวงจร เราคาดกำไร 4Q64 จะขาดทุน แต่จะกลับมาฟื้นเด่นในปี 2565 จากการฟื้นตัวทั้ง Commerce และธุรกิจสื่อ จากการขยายตลาด Mass และการธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงผลบวกจากดีล M&A
- เราปรับเพิ่มประมาณการปี 2565-2566 เท่ากับ 8% และ 11% สะท้อนดีล M&A
Our View
- เราปรับคำแนะนำจาก “เก็งกำไร” เป็น “ซื้อ” เรามองว่าราคาหุ้นปรับลดลงสะท้อนแนวโน้ม 4Q64 ที่คาดว่าจะขาดทุนไปแล้ว เรายังเชื่อในปี 2565 จะกลับมาฟื้นตัวโดดเด่น ขณะที่ดีล M&A ที่คาดยังมีอีก 1 ดีล ถือเป็น Upside ต่อประมาณการของเรา
- เราปรับมูลค่าพื้นฐานปี 65 จากเดิมที่ 22.60 เป็น 24.70 บาท สะท้อนการปรับประมาณการกำไร โดยวิธี DCF อิง WACC ที่ 8%
RS ซื้อ ULife รุกขายตรง ต่อยอด Entertainmerce ครบวงจร
คาดผลประกอบการ 4Q64 ลดลง QoQ,YoY แย่กว่าที่คาดไว้เดิม
จากการประชุม Analyst Meeting เมื่อวานนี้ ซึ่งมีการชี้แจงเกี่ยวกับดีลเข้าซื้อกิจการของ ยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ เรายังคงมุมมองเป็นบวกต่อดีลดังกล่าว ยูนิลีเวอร์ ไลฟ์ หรือ ยูไลฟ์ (ULife) ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจขายตรงของยูนิลีเวอร์ ซึ่งปัจจุบัน ULife ถือเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจขายตรงที่มียอดขายเป็นอันดับต้นๆ ในตลาด โดยคาดว่าบริษัทใช้เงินซื้อกิจการราว 878 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินลงทุนบริษัทแจงว่า จะใช้การกู้ทั้งหมด โดยต้นทุนดอกเบี้ยที่ MLR-2% เรามองว่าดีลดังกล่าวจะสร้าง Synergy ให้บริษัท ดังนี้
1) การเข้าซื้อ ULife ทำให้บริษัทสามารถเข้าไปรุกธุรกิจขายตรงได้ทันทีโดยไม่ต้องลงทุนเอง ซึ่งจะใช้เงินที่สูงกว่านี้ ซึ่งบริษัทจะซึ่งจะได้แบรนด์สินค้ามาสามแบรนด์ ได้แก่ “Aviance” (ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม และของใช้ส่วนตัว), “Beyonde” (อาหารเสริม), “ifresh (สินค้าสำหรับดูแลช่องปากและฟัน) โดยมี SKU ใหม่ราว 76 รายการ และสินค้าใหม่ๆรอเปิดตัว โดยมีฐานลูกค้าติดมาด้วยกว่า 1.5 แสนราย รวมถึง business partner ที่ตามมาด้วย
2) การต่อยอดธุรกิจของ RS Mall ทำให้กลยุทธ์ Entertainmerce ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งมีแผนจะนำสินค้าของ RS Mall ไปขายผ่านช่องทาง ULife
3) เพิ่มช่องทางการขายไปยังต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน ULife มีฐานลูกค้าต่างประเทศ ทั้งในมาเลเซียและสิงค์โปร
4) ทาง ULife มี R&D ที่แข็งแกร่ง และมีการพัฒนาเข้าสู่ดิจิทัลแพทฟอร์มแล้ว
5) ในเชิงมูลค่า ดีลนี้บริษัทคาดธุรกิจให้ผลตอบแทน IRR 15.6% บริษัทตั้งเป้ารายได้ของ ULife ต่อปีที่ 1.2 พันล้านบาทต่อปี และ NPM ราว 10-12% โดยปี 65 คาดรายได้ราว 800 ล้านบาท ขณะที่ 3-4 ปีข้างหน้า บริษัทั้งเป้ารายได้ขึ้นเป็น 3 พันล้านบาท
เราปรับเพิ่มประมาณการปี 2565 – 2566
เพื่อสะท้อนดีลในการเข้าซื้อกิจการ เรามีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-2566 เพิ่มขึ้น 8% และ 11% ตามลำดับ เป็น 707 ล้านบาท (+382%YoY) และ 933 ล้านบาท (+32%YoY) จากสมมติฐาน 1) รายได้เพิ่มขึ้น 14% และ 18% ตามลำดับ 2) ต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายจากเงินกู้ก้อนใหม่ที่เพิ่มขึ้นราว 26 ล้านบาทต่อปี
ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”
เราปรับคำแนะนำจาก “เก็งกำไร” เป็น “ซื้อ” แม้ว่าในระยะสั้นจะมีปัจจัยลบจากแนวโน้มผลประกอบการใน 4Q64 ที่คาดขาดทุน 47 ล้านบาท แต่เรามองว่าราคาหุ้นสะท้อนไปแล้ว และเชื่อว่ากำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นในปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 คาดว่าจะบรรเทาความรุนแรงลง ธุรกิจ RS Mall จะรับผลบวกเต็มปีจากการเปิดตัวสินค้าใหม่ และการเจาะตลาดสินค้าที่เป็น Mass เช่น ธุรกิจอาหารสัตว์ รวมถึงการรุกธุรกิจกัญชง ซึ่งบริษัทมีแผนในการออกสินค้าหลายรายการ ขณะที่ธุรกิจทีวีดิจิทัลจะรับผลบวกจากเม็ดเงินโฆษณาที่ฟื้นตัว คาดว่าผู้ประกอบการจะกลับมาใช้งบโฆษณามากขึ้น ขณะที่ดีล M&A กับ ULife ส่งผลให้ผลประกอบการเติบโตดีกว่าที่เราและตลาดคาดก่อนหน้านี้ ซึ่งยังมีอีก 1 ดีล ที่ยังไม่ประกาศ ซึ่งถือเป็น Upside ขณะที่ระยะยาวเรามีมุมมองเป็นบวกต่อการขยายธุรกิจใหม่ ได้แก่ธุรกิจกัญชง ที่เรามองเป็น New S-Curve ใหม่ เราปรับมูลค่าพื้นฐานปี 2565 จากเดิมที่ 22.60 บาท เป็น 24.70 อิงวิธี DCF ถึง WACC ที่ 8%