บล.กรุงศรีฯ:

ระเบียบใหม่ จะส่งผลกระทบเชิงลบ (NEGATIVE)

รัฐบาลมีแผนยกเลิกสิทธิ UCEPCOVID และลดราคา RT-PCR ลงอีก 27-31% และ ATK 13-17% รวมถึงค่าห้องสำหรับผู้ป่วยสีเขียว 33% ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยโควิดเลือกกักตัวที่บ้านมากกว่าที่โฮสพิเทล ซึ่ง BCH และ CHG จะได้รับผลกระทบเชิงลบมากที่สุด เนื่องจากสัดส่วนรายได้เกี่ยวกับโควิดสูงที่ 59% และ 50% ของรายได้รวมตามลำดับ เรายังคงชอบ BH และ BDMS เนื่องจากได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากการเปลี่ยนระเบียบ และเป็นผู้ได้ประโยชนหลักจากการเปิดเมือง และปลดล็อคอุปสงค์โรคที่ไม่เร่งด่วน

 

รัฐบาลวางแผนยกเลิก UCEPCOVID และลดการเบิกจ่าย

ผู้ป่วยโควิดสามารถเข้ารักษาตามสิทธิแทน ได้แก่ บัตรทอง, ประกันสังคม, สิทธิสำหรับทหารผ่านศึก, สิทธิเจ้าหน้าที่รัฐ/รัฐวิสาหกิจ เป็นต้น โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ 1 มี.ค. เป็นต้นไป นอกจากนี้ สปสช. จะปรับราคาเพดานสำหรับการตรวจ RT-PCR (เป็น 1,100 บาท จาก 1,500 บาทสำหรับการตรวจ 3 ยีนส์และ 900 บาท จาก 1,300บาทสำหรับตรวจสองยีนส์), ATK (เป็น 250-350 บาทจาก 300-400 บาท) และค่าห้องรายวันของโฮสพิเทลเป็น 1,000 บาทซึ่งเป็นระดับเดียวกับการกักตัวที่บ้าน (HI) จาก 1,500 บาท

ผลกระทบเชิงลบต่อการดำเนินงานรพ.เอกชน

  1. จำนวนผู้ป่วยโควิดที่เพิ่มขึ้นอาจไม่ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นในอัตราเดียวกัน
  2. ผู้ป่วยสีเขียวอาจเลือก HI มากกว่าโฮสพิเทล จากจำนวนเงินเบิกจ่ายเท่ากัน (1,000 บาท/วัน) แต่ HI มีต้นทุนต่ำกว่า รวมถึงจำนวนผู้ติดเชื้อในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็น omicron ที่มีอาการเพียงเล็กน้อย (ผู้ป่วยสีเขียว) ซึ่งทำให้ผู้ป่วยต้องการการดูแลทางการแพทย์ไม่มาก
  3. รายได้ตรวจโควิดมีสัดส่วน 29% ของรายได้เกี่ยวกับโควิดสำหรับ BCH และ 25% CHG  การปรับลดราคาลง 13-31% จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
  4. จำนวนผู้ลงทะเบียนสิทธิประกันสังคม (SSO) เพิ่มขึ้น จะช่วยลดผลกระทบ โดย SSO เพิ่มโควตาสำหรับโรงพยาบาลเครือปัจจุบัน และมีโรงพยาบาลที่จดทะเบียนเพิ่มเติม  ส่งผลให้ ณ 4 ม.ค. BCH มีโควต้าเหลือรองรับผู้ลงทะเบียนสิทธิใหม่ได้ 418,530 ราย (47% ของจำนวนผู้ลงทะเบียน ณ 3Q21), BDMS มีโควต้าเหลือ 324,143 ราย (56% ของจำนวนผู้ละทะเบียนสิทธิ ณ 3Q21)  และ CHG มีโควต้าเหลือ 88,800 ราย (19% ของจำนวนผู้ละทะเบียนสิทธิ ณ 3Q21) SSO อนุญาตให้ผู้ประกันตนเปลี่ยนรพ.ได้จนถึง 31 มี.ค.
  5. BH ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดจากระเบียบใหม่ เนื่องจากรายได้จาก UCEPCOVID มีสัดส่วนน้อยมาก รองมาคือ BDMS ที่มีสัดส่วนรายได้จาก UCEPCOVID เพียง 13% ส่วน BCH และ CHG ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจาก UCEPCOVID เป็นสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่
- Advertisement -